ค่าย Geely ประเทศจีน ซึ่งถือหุ้นอยู่ใน Volvo และ Lynk & Co ค่ายรถยนต์น้องใหม่ นำเสนอการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐาน ที่จะสามารถใช้ร่วมกันได้ในรถ Polo-Class ในเครือ ซึ่งรวมทั้ง Volvo 40-Series ด้วยGeely เปิดเผยว่า โครงสร้างพื้นฐานนี้ใช้เวลาในการพัฒนาถึง 4 ปี ด้วยวิศวกรผู้ชำนาญการกว่า 100 คน จาก 20 ประเทศ ในศูนย์ค้นคว้าและพัฒนาของบริษัทใน Hangzhou Bay โครงสร้างพื้นฐานนี้ สามารถนำไปใช้ได้กับรถหลากหลายประเภท ตั้งแต่ ซีดาน ไปจนถึงรถครอสส์โอเวอร์ หรือรถเพื่อการขนส่งผู้คน ใช้ได้กับเครื่องยนต์ดีเซล เทอร์โบ ความจุ 1.5 ลิตร เครื่องยนต์เบนซิน เทอร์โบ ความจุ 1.4 ลิตร ของบริษัทในเครือ เช่นเดียวกับเครื่องยนต์ไฮบริด ไม่ว่าจะเป็น ไฮบริดล้วนๆ หรือ ไฮบริด-ไฟฟ้า โครงสร้างพื้นฐาน สามารถใช้ได้กับรถที่มีระยะห่างระหว่างฐานล้อหน้า-หลัง ระหว่าง 2,550-2,700 มม. ความกว้างตัวรถระหว่าง 1,600-1,700 มม. และสามารถนำไปใช้กับยานยนต์ไร้คนขับ ในระดับ 2 โดยจะพัฒนาเพื่อให้สามารถใช้ได้กับยานยนต์ไร้คนขับ ในระดับ 3 ในอนาคต ในด้านความปลอดภัย วิศวกรได้คำนึงถึงการทดสอบการชน ประเมินว่าจะสามารถได้คะแนนระดับ 5 ดาว จากการทดสอบในยุโรป เพราะโครงสร้างประกอบด้วยเหล็กแรงดึงสูง 70 % และเหล็กผ่านการให้ความร้อน 20 % อันจะช่วยให้ร่นระยะเวลาในการพัฒนารถยนต์แต่ละรุ่น จาก 36 เดือน ลงเหลือเพียง 18 และ 24 เดือนเท่านั้น ในแง่รูปแบบของรถที่ออกจำหน่าย โครงสร้างพื้นฐานใหม่นี้ จะช่วยให้ Volvo สามารถผลิตรถในขนาดเล็ก เพื่อต่อกรกับคู่ต่อสู้อย่าง Audi A1 และ Q2 ที่อยู่ในรุ่นซููเพอร์มีนี หรือ บี-เซกเมนท์ ได้ง่ายขึ้น ค่ายรถยนต์ในเครือ ที่สามารถนำโครงสร้างพื้นฐานนี้ไปพัฒนาในการผลิตรถยนต์ คือ Proton ที่ Geely ถือหุ้นอยู่ 49 %, Lynk & Co, Polestar, London Taxi, ส่วน Lotus ไม่มีสายการผลิตรถโครงสร้างขนาดเล็ก