ค่าย Nissan ญี่ปุ่น ประกาศจะเลิกจำหน่ายรถยนต์นั่ง หรือรถเก๋งคอมแพคคาร์ สำหรับตลาดในยุโรป และรัสเซีย ชี้แจง ความต้องการของผู้บริโภค จะเลือกรถเอสยูวี ประเภทที่ตนเองต้องการใช้เท่านั้นNissan เลิกสายการผลิตรถแฮทช์แบค Pulsar ในยุโรป เมื่อเดือนมิถุนายน และจะเลิกการผลิตรถซีดาน Almera ในรัสเซีย ภายในปีนี้ การตัดสินใจดังกล่าว Nissan ระบุในแถลงการณ์ ว่าเป็น “การเลือกใช้งานของผู้บริโภคในยุโรป ที่เปลี่ยนจากรถยนต์นั่ง ไปเป็นรถเอสยูวี” เช่นเดียวกับการตัดสินใจเลิกผลิต Almera ในรัสเซีย ในยุโรป Nissan ก็จะเหลือเพียงรถไฟฟ้า Leaf ที่ไม่ใช่รถเอสยูวี เพื่อการจำหน่ายเท่านั้น Nissan แนะนำ Pulsar ในปี 2557 เพื่อให้เป็นคู่ต่อสู้ของ Volkswagen Golf และ Ford Focus รวมทั้งเพื่อเป็นการเติมเต็มประเภทของรถในยุโรป หลังจากเลิกการผลิต Almera ไปในปี 2549 และเมื่อปีที่แล้วยังตั้งเป้าจำหน่าย Pulsar ถึง 64,000 คัน จากโรงงานในบาร์เซโลนา ประเทศสเปน แต่ตัวเลขจากสำนักค้นคว้า JATO ระบุว่า จำหน่ายได้เพียง 25,221 คัน เท่านั้น ส่วนรถยนต์นั่งเพียงรุ่นเดียวในรัสเซีย Nissan Almera แนะนำเมื่อปี 2556 และเป็นที่นิยมสามารถครองตำแหน่งแชมพ์ยอดขายได้ในปี 2557 ด้วยตัวเลข 46,225 คัน จนในปีนี้ ความนิยมลดลงอย่างรวดเร็ว โดยสำนักงานธุรกิจยุโรป (Association of European Businesses) เสนอรายงานว่า หลุดโผรายชื่อ 25 อันดับ ไปแล้ว ความนิยมของผู้บริโภค ปรับไปให้ความนิยมกับรถเอสยูวีขนาดกลาง X-trail ที่จนถึงเดือนสิงหาคม จำหน่ายไปแล้ว 14,103 คัน ตามมาด้วย เอสยูวีขนาดเล็ก Qashqai โดยเมื่อเลิกผลิต Almera แล้ว Nissan จะเหลือเพียงรถสั่งนำเข้า GT-R จำหน่ายเท่านั้น ในรัสเซีย ยอดขายของ Nissan เพิ่มขึ้น 7 % ในรอบ 8 เดือนแรกของปีนี้ เพราะตลาดเพิ่งฟื้นตัวจากสภาพเศรษฐกิจที่เริ่มดีขึ้น ขณะเดียวกัน ยอดขายของรถราคาถูกของ Nissan ซึ่งใช้พื้นฐานของ Lada ในรูปแบบซีดานขนาดเล็ก Datsun on-Do และแฮทช์แบค mi-Do ช่วง 8 เดือนแรกของปี ลดลงถึง 22 %