ธุรกิจ
เมร์เซเดส-เบนซ์ เปิดคลังอะไหล่แห่งใหม่ ยกระดับความพึงพอใจหลังการขาย เอาใจสาวกดาวสามแฉกทั่วประเทศ

โรลันด์ ฟโลเกร์ ประธานบริหาร บริษัท เมอร์เซเดส-เบนซ์ (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวว่า “เมร์เซเดส-เบนซ์ ดำเนินงานโดยให้ความสำคัญกับความต้องการของลูกค้าเป็นอันดับแรก ดังนั้นเราจึงมุ่งให้บริการที่ดีเลิศ เพื่อนำไปสู่ความพึงพอใจสูงสุดของลูกค้า จากสถิติที่ เมร์เซเดส-เบนซ์ สามารถครองตำแหน่งผู้นำอันดับ 1 ในตลาดรถหรูได้เป็นปีที่ 18 ติดต่อกัน จึงเป็นเสมือนสิ่งยืนยันได้ว่าเราได้รับความไว้วางใจจากลูกค้ามาอย่างต่อเนื่อง และเพื่อเป็นการรองรับการขยายตัวของปริมาณการจำหน่ายรถยนต์ และจำนวนของลูกค้าที่เพิ่มมากขึ้นในอนาคต เราจึงได้วางแผนยกระดับบริการหลังการขาย โดยเฉพาะในด้านการบำรุงรักษาเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการดูแลรักษารถยนต์ของลูกค้าให้มากขึ้น”
“ล่าสุด บริษัทฯ ได้ขยายพื้นที่ส่วนบริการลูกค้า บนถนนบางนา-ตราด กม.19 เพิ่มขึ้นเป็น 45,000 ตารางเมตร พร้อมทุ่มงบ 500 ล้านบาท เปิดตัว "คลังอะไหล่แห่งใหม่" ขนาดพื้นที่ 13,000 ตารางเมตร โดยคลังอะไหล่แห่งนี้มีศักยภาพในการขยายพื้นที่จัดเก็บอะไหล่ออกไปได้อีกรวมเป็น 15,000 ตารางเมตร อีกทั้งบริษัทฯ ยังได้จัดสรรพื้นที่เดิมอีกกว่า 30,000 ตารางเมตร เพื่อใช้สร้างเป็นศูนย์ฝึกอบรม และพัฒนาช่างเทคนิคแห่งใหม่”
“บริษัทฯ มีความมั่นใจในศักยภาพของพื้นที่แถบถนนบางนา-ตราด เพราะเป็นทำเลที่เป็นจุดยุทธศาสตร์ในด้านลอจิสติคส์ทั้งการขนส่งทางเรือ รถ และเครื่องบิน ทำให้สามารถกระจายอะไหล่ให้แก่ผู้จำหน่ายอย่างเป็นทางการทั้ง 32 แห่งทั่วประเทศ ได้อย่างสะดวก และรวดเร็ว โดยคลังอะไหล่แห่งใหม่นี้ มีหน้าที่วิเคราะห์ และจัดเก็บอะไหล่ที่ใช้ในการบำรุงรักษา และการซ่อมแซมทั่วไปสำหรับรถยนต์ทุกบแรนด์ที่ เมอร์เซเดส-เบนซ์ (ประเทศไทย)ฯ นำเสนอแก่ลูกค้า ทั้ง เมร์เซเดส-เบนซ์, เมร์เซเดส-เอเอมจี, เมร์เซเดส-มายบัค และอีคิว” โรลันด์ กล่าวเพิ่มเติม
พุทธิ ตุลยธัญ รองประธานบริหารฝ่ายบริการลูกค้า บริษัท เมอร์เซเดส-เบนซ์ (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวว่า “คลังอะไหล่แห่งใหม่นี้ เป็นคลังอะไหล่รถยนต์ของ เมร์เซเดส-เบนซ์ แห่งเดียวในประเทศไทย โดยได้รับการออกแบบ และก่อสร้างตามมาตรฐานคลังอะไหล่ของ เมร์เซเดส-เบนซ์ ทั่วโลก พร้อมรองรับการติดตั้งเทคโนโลยีอันล้ำสมัย "I4AP" (Innovation of Asia Pacific) เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพ และความรวดเร็วในการจัดการอะไหล่ และรองรับการบริหารจัดการอะไหล่คงคลังของผู้จำหน่าย (Dealer Inventory Management System: DIMS) รวมถึงการเพิ่มพื้นที่ในการบริหารสินค้าขาออก (Outbound logistics) ที่ใช้จัดส่งสินค้าไปยังผู้จำหน่ายอย่างเป็นทางการทั้ง 32 แห่งทั่วประเทศ ซึ่งสิ่งเหล่านี้จะช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการจัดส่งอะไหล่ ให้ได้มากถึง 2,000 ไลน์/วัน”
ขั้นตอนการดำเนินงานที่คลังอะไหล่จะเริ่มต้นจาก พื้นที่สินค้าขาเข้า (Inbound logistics) เพื่อใช้รับอะไหล่รถยนต์ที่ส่งตรงมาจากประเทศเยอรมนี และสิงคโปร์ เพื่อนำมาจัดเก็บในคลังสำรองอะไหล่ให้เพียงพอต่อความต้องการของดีเลอร์ทั่วประเทศ ซึ่งเมื่อมีการสั่งซื้ออะไหล่มาจากดีเลอร์ เจ้าหน้าที่จะดำเนินการเพื่อนำสินค้ามายังพื้นที่สินค้าขาออก (Outbound logistics) และเตรียมพร้อมจัดส่งอะไหล่ให้ดีเลอร์ทั้ง 17 แห่ง ที่ตั้งอยู่ในเขตกรุงเทพฯ และปริมณฑล ได้ภายในวันเดียวกัน และจัดส่งถึงดีเลอร์อีก 15 แห่ง ที่ตั้งอยู่ในต่างจังหวัดภายในวันรุ่งขึ้น
การบริหารคลังอะไหล่ของ เมร์เซเดส-เบนซ์ เกิดขึ้นอย่างเป็นระบบ โดยเป็นการผสมผสานระหว่างการแบ่งตามปริมาณการซื้อ เพื่อแยกประเภทเป็นอะไหล่หมุนเวียนเร็ว (Fast Moving) อะไหล่หมุนเวียนปานกลาง (Medium Moving) และอะไหล่หมุนเวียนช้า (Slow Moving) กับการแบ่งประเภทและขนาดของอะไหล่ เพื่อเข้าจัดเก็บใน 6 โซนหลัก ได้แก่ 1. โซนอะไหล่ขนาดเล็กและกลาง 2. โซนอะไหล่ขนาดใหญ่และหนัก 3. โซนอะไหล่พิเศษ เช่น แบทเตอรีไฮบริด 4. โซนสารเคมี เพื่อจัดเก็บสารเคมีอันตราย 5. โซนควบคุมอุณหภูมิ 6. โซนกุญแจ ซึ่งบริษัทฯ ได้เพิ่มระบบความปลอดภัยในคลังอะไหล่ เพื่อการป้องกันที่รัดกุมยิ่งขึ้น โดยมีการสร้าง และออกแบบห้องพิเศษเพื่อใช้ในการจัดเก็บอะไหล่ ที่สามารถป้องกันเหตุฉุกเฉิน และจำกัดบริเวณความเสียหายที่อาจเกิดขึ้นได้
“นอกจากการขยายพื้นที่ และเพิ่มประสิทธิภาพในด้านเทคโนโลยีแล้ว บริษัทฯ ยังให้ความสำคัญในด้านการพัฒนาทักษะบุคลากรโดยเราได้เชิญทีมเจ้าหน้าที่จาก ไดมเลร์ อาเก มาทำการฝึกอบรมพนักงาน เพื่อให้สามารถใช้เทคโนโลยีใหม่ๆ และเรียนรู้ระบบการจัดเก็บอะไหล่ได้อย่างมีประสิทธิภาพเพื่อสร้างความพึงพอใจสูงสุดให้กับลูกค้าอีกด้วย” พุทธิ กล่าวทิ้งท้าย 

