ธุรกิจ
MotoGP 2019 ดีเดย์ขายบัตรอย่างเป็นทางการวันแรก บัตรกแรนด์สแตนด์ Sold Out ทันที !!!
สานต่อประวัติศาสตร์เจ้าภาพ MotoGP ปีที่ 2 “PTT Thailand Grand Prix 2019" ฝ่ายจัดการันตียกระดับมาตรฐานดีขึ้นกว่าเดิม สร้างปรากฏการณ์ฟีเวอร์อีกครั้ง หลังเปิดขายบัตรแล้ววันนี้ในราคาที่ถูกที่สุดในโลก พร้อมรับส่วนลดและสิทธิพิเศษเต็มพิกัด เพียงไม่ถึงชั่วโมง บัตรกแรนด์สแตนด์ Sold Out ทันที !!!
นาวาตรีวรวิทย์ เตชะสุภากูร ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา พร้อมด้วย ดร. ก้องศักด ยอดมณี ผู้ว่าการการกีฬาแห่งประเทศไทย, ธีรวัฒน์ วุฒิคุณ ผู้ว่าราชการจังหวัดบุรีรัมย์, จิราพร ขาวสวัสดิ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ปตท. น้ำมันและการค้าปลีก จำกัด (มหาชน), ตนัยศิริ ชาญวิทยารมณ์ กรรมการผู้อำนวยการ บริษัท บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด อินเตอร์เนชั่นแนล เซอร์กิต จำกัด และผู้สนับสนุนจากภาคเอกชน บริษัท ไทยเบฟเวอเรจ จำกัด (มหาชน), บริษัท เอ.พี. ฮอนด้า จำกัด, บริษัท ไทยยามาฮ่ามอเตอร์ จำกัด, ธนาคารไทยพาณิชย์ จำกัด (มหาชน) ร่วมแถลงข่าวสานต่อประวัติศาสตร์เป็นเจ้าภาพจัดการแข่งขันรถจักรยานยนต์ชิงแชมพ์โลก รายการ MotoGP ต่อเนื่องเป็นปีที่ 2 ในชื่อรายการ "PTT Thailand Grand Prix 2019" ซึ่งจะชิงชัยระหว่างวันที่ 4-6 ตค. 62 ณ สนามช้าง อินเตอร์เนชันแนล เซอร์กิท จ. บุรีรัมย์ พร้อมประกาศเปิดจำหน่ายบัตรเข้าชมการแข่งขันอย่างเป็นทางการ
นาวาตรีวรวิทย์ เตชะสุภากูร ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา กล่าวว่า การเป็นเจ้าภาพจัดการแข่งขันในปีแรกถือว่าประสบความสำเร็จอย่างมากกับประเทศไทยทั้งในด้านการจัดการแข่งขันและการท่องเที่ยว มีแฟนมอเตอร์สปอร์ทจากทั่วโลกเดินทางเข้ามาชมติดขอบสนาม รวมแล้วกว่า 222,535 คน ตลอดทั้ง 3 วัน ซึ่งสูงที่สุดเมื่อเทียบกับตัวเลขผู้ชมทั้งหมด 19 สนาม จากทั่วโลก และทุกคนต่างมีรอยยิ้ม ได้รับความสนุกสนานและความประทับใจกลับไป จนคว้ารางวัล Best Grand Prix of The Year และถูกยกให้เป็นสนามแข่งขันที่ดีที่สุดประจำปี ที่สำคัญยังช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจทั้งระบบ
โดยจากผลสำรวจของกองยุทธศาสตร์และแผนงานกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬาในปีแรก มีนักท่องเที่ยวต่างชาติถึงประมาณ 20 % และมีมูลค่าทางเศรษฐกิจเป็นรายได้หมุนเวียนในประเทศกว่า 3,053 ล้านบาท ทั้งในส่วนจังหวัดบุรีรัมย์ และจังหวัดใกล้เคียง โดยแบ่งออกเป็นค่าที่พัก ค่าอาหาร/เครื่องดื่ม ค่าเดินทางภายในประเทศ ค่าซื้อสินค้าและของที่ระลึกต่างๆ สร้างรายได้ให้ประชาชนในท้องถิ่น และรายได้จากการท่องเที่ยวอย่างมหาศาล นำประเทศไทยไปสู่การเป็น Sport Hub ชั้นนำระดับโลก เป็นอีกหนึ่งกลยุทธ์ในการขับเคลื่อนแผนพัฒนาการกีฬาแห่งชาติ รวมทั้งเป็นการวางรากฐานการพัฒนาการท่องเที่ยวเชิงกีฬา ซึ่งทำให้เกิดการท่องเที่ยวในประเทศไทยและขับเคลื่อนเศรษฐกิจให้เกิดอุตสาหกรรมกีฬา อุตสาหกรรมยานยนต์ทั้งหมดที่เกี่ยวข้อง
นอกจากนี้ยังสร้าง talk of the world ไปทั่วโลก ด้วยการเปิดตัว ชัตเติ้ล แต๋น ซึ่งเป็นการนำรถอีแต๋น ของเหล่าเกษตรกรมาตกแต่งแบบพื้นบ้านเพื่อใช้อำนวยความสะดวกเป็นรถรับ/ส่งภายในงาน เป็นเอกลักษณ์ที่โดดเด่นจนได้รับคำชมจากชาวต่างชาติ และมีการเผยแพร่ประชาสัมพันธ์ประเทศไทยในมุมของวัฒนธรรมไทยไปทั่วโลกอีกด้วย
ในปีนี้ หลังจากขายบัตรอย่างเป็นทางการวันแรก ในเวลา 15.00 น. เพียงไม่ถึงชั่วโมง บัตรกแรนด์สแตนด์ Sold Out ทันที !!! ซึ่งทั้งหมดนี้เป็นปรากฏการณ์ที่ปีนี้เราจะสานต่อประวัติศาสตร์เหล่านี้อีกครั้ง โดยกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬาของไทย ในฐานะหน่วยงานของรัฐบาลจะยังคงให้การสนับสนุนอย่างเต็มที่ เพื่อยกระดับมาตรฐานการจัดการแข่งขันให้ดียิ่งขึ้นไปอีก
ดร. ก้องศักด ยอดมณี ผู้ว่าการการกีฬาแห่งประเทศไทย กล่าวว่า สำหรับการจัดแข่งขันปีที่ผ่านมา ถือว่าประสบความสำเร็จเป็นอย่างมาก มีผู้ติดตามทั่วโลก ถ่ายทอดสดไปยัง 207 ประเทศ สู่สายตาผู้ชมกว่า 800 ล้านคน ได้รับการตอบรับที่ดีจากสื่อมวลชนร่วมทำข่าวมากกว่า 435 สำนัก จาก 33 ประเทศ ทำให้ทั่วโลกได้เห็นศักยภาพความพร้อมของประเทศไทยในด้านการเป็นผู้จัดแข่งขันกีฬาระดับโลกอย่างแท้จริง
ทั้งนี้ การกีฬาแห่งประเทศไทย มุ่งหวังว่าในการจัดแข่งขัน MotoGP จะช่วยทำให้นักแข่งและทีมแข่งของไทยได้ประโยชน์อย่างสูงสุด ในด้านของการพัฒนานักกีฬา ในปีแรกมีนักกีฬาไทยเข้าร่วมมากถึง 5 คน เริ่มตั้งแต่รุ่น Moto3 ซึ่งมีนักแข่งไทยถึง 3 คน Moto2 1 คน และอีกหนึ่งที่ได้รับสิทธิ์เปิดตัวในรุ่น MotoE ส่วนในปี 2019 นี้มีนักกีฬาไทยที่ยืนยันแล้วอย่าง ก้อง-สมเกียรติ จันทรา จาก อิเดะมิสึ ฮอนดา ทีม เอเชีย เข้าร่วมการแข่งขันตลอดทั้งฤดูกาลในรุ่น Moto2 และน่าจะมีเพิ่มเติมอีก เชื่อว่าจากกระแสตอบรับในปีแรกจะส่งผลให้ในปีนี้มีแฟนๆ ทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติไปชมที่สนามมากขึ้น และจะเป็นการใช้การแข่งขันกีฬาที่สร้างรายได้และประโยชน์ให้ประเทศไทยได้มหาศาลอย่างแน่นอน
ธีรวัฒน์ วุฒิคุณ ผู้ว่าราชการจังหวัดบุรีรัมย์ กล่าวว่า ในฐานะที่ได้รับเกียรติเป็นพื้นที่จัดการแข่งขันต่อเนื่องเป็นปีที่ 2 ขณะนี้เราเตรียมความพร้อมแล้วทุกด้านเพื่อรองรับผู้ที่จะเข้ามาร่วมงานทั้งนักแข่ง ทีมงาน ผู้ชม และนักท่องเที่ยว ไม่ว่าจะเป็น ที่พัก อาหาร และสาธารณูปโภคต่างๆ โดยเน้นในเรื่องความปลอดภัยเป็นอันดับแรก ซึ่งการเป็นเจ้าภาพในปีแรกมีแฟนมอเตอร์สปอร์ทจากทั่วโลกเดินทางเข้ามาจำนวนมหาศาล ทำให้ที่พักภายในจังหวัดบุรีรัมย์ถูกจับจองเต็มหมดอย่างรวดเร็ว ปีนี้เราจึงได้เพิ่มจำนวนแคมพ์ และพื้นที่กางเทนท์เพิ่มมากขึ้น นอกจากนี้ยังได้ประสานกับจังหวัดใกล้เคียง อาทิ สุรินทร์ นครราชสีมา ขอนแก่น ฯลฯ เพื่อเตรียมความพร้อมเรื่องโรงแรมที่พักไว้บริการอย่างดีด้วยเช่นกัน
จิราพร ขาวสวัสดิ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ปตท. น้ำมันและการค้าปลีก จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า ในฐานะบริษัทพลังงานแห่งชาติ เรามีความภูมิใจเป็นอย่างมากที่ได้เข้ามาสนับสนุนการแข่งขัน MotoGP รายการ PTT Thailand Grand Prix เป็นปีที่ 2 ติดต่อกัน เราเชื่อว่าการที่ประเทศไทยเป็นเจ้าภาพจัดการแข่งขันรายการนี้ นับเป็นการสร้างประโยชน์ให้แก่คนไทย และประเทศชาติอย่างแท้จริง ทำให้ประเทศไทยเป็นที่รู้จักของชาวโลกมากยิ่งขึ้น ทำให้คนไทยและคนท้องถิ่นมีรายได้เพิ่มขึ้น ต่อยอดสู่การสร้างรายได้ให้กับประเทศไทยตามเจตนารมณ์ของรัฐบาล ซึ่งในปีนี้ ปตท. และพันธมิตรผู้สนับสนุนรายอื่นๆ ยังเตรียมสิทธิพิเศษและกิจกรรมสนุกสนานมากมายไว้รอต้อนรับแฟนๆ จากทั่วโลกเช่นเดิม
ตนัยศิริ ชาญวิทยารมณ์ กรรมการผู้อำนวยการ บริษัท บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด อินเตอร์เนชั่นแนลเซอร์กิต จำกัด กล่าวว่า การจัดการแข่งขันในปีที่ 2 เชื่อว่าไฮไลท์เรื่องการแข่งขันในสนามจะสนุกเข้มข้นมากขึ้น เพราะว่ามีนักแข่งหลายคนได้ทำการย้ายต้นสังกัดใหม่ รวมถึงค่ายรถแต่ละค่ายก็ได้พัฒนารถแต่ละรุ่นโดยใช้เทคโนโลยีที่ทันสมัยอย่างเต็มที่ ในส่วนของสนามช้างฯ ในฐานะเจ้าบ้าน เรายืนยันว่าจะเตรียมความพร้อมและดูแลแฟน MotoGP ที่เดินทางมาจากทั่วโลกให้ดีกว่าเดิมแน่นอน เพราะเราได้นำประสบการณ์จากปีแรก รวมถึงปัญหาและอุปสรรคต่างๆ มาปรับปรุงและพัฒนาแก้ไข เพื่อทำให้การแข่งขันในปีที่ 2 สมบูรณ์แบบมากขึ้น สิ่งที่เป็นไฮไลท์และเสน่ห์ต่างๆ ที่ทุกคนประทับใจ เช่น รถอีแต๋น ที่นำมาให้บริการแก่แฟนๆ ก็จะยังคงมีอยู่ ตลอดจนกิจกรรมและความบันเทิง ที่เราจัดเต็มมากขึ้นเพื่อแฟนๆ อาทิ ร้านขายของที่ระลึก และสินค้ามอเตอร์สปอร์ทที่เพิ่มมากขึ้น ตลอดจนเอนเตอร์เทนเมนท์ กิจกรรมมวยไทย และคอนเสิร์ทที่ยิ่งใหญ่ เข้มข้น และสนุกมากกว่าเดิมแน่นอน
พร้อมกันนี้ ทางฝ่ายจัดการแข่งขันยังได้ทำการเปิดจำหน่ายบัตรเข้าชมการแข่งขันอย่างเป็นทางการแล้ว ตั้งแต่วันที่ 28 กพ. เป็นต้นไป โดยยังคงเป็นบัตรเข้าชม MotoGp ที่ราคาถูกที่สุดในโลก ซื้อบัตรใบเดียว สามารถชมได้ทั้ง MotoGP, World Superbike และAsia Road Racing ได้ด้วย โดยบัตรชมการแข่งขันทุกประเภท สามารถเข้าชมได้ตลอดทั้ง 3 วัน กแรนด์สแตนด์ ราคา 4,000 บาท, ไซด์สแตนด์ ราคา 2,000 บาท, รอสซี สแตนด์ ราคา 4,000 บาท และมาร์เกซ สแตนด์ ราคา 4,000 บาท ซื้อได้แล้ววันนี้ทาง เคาน์เตอร์เซอร์วิศ ออลล์ทิคเกท ในร้านเซเวนอีเลฟเวน และร้านค้าที่มีสัญลักษณ์เคาน์เตอร์เซอร์วิศ กว่า 13,000 สาขาทั่วประเทศ รวมถึงช่องทางออนไลน์ที่ www.allticket.com
แฟนมอเตอร์สปอร์ทห้ามพลาด ! รับสิทธิพิเศษและส่วนลดเต็มพิกัด สำหรับลูกค้า ปตท. รับส่วนลดสูงถึง 25 % เพียงแสดงบัตร พีทีที บลูคาร์ด ที่จุดขาย หรือซื้อผ่านช่องทางออนไลน์, ลูกค้าเครื่องดื่มช้าง รับส่วนลด 20 % เพียงโชว์บัตร ช้าง อินเตอร์เนชันแนล เซอร์กิท ฟเรนด์ คลับ ณ จุดขาย, ลูกค้า ฮอนดา รับส่วนลด 20 % เมื่อแสดงกุญแจรถจักรยานยนต์ ฮอนดา รุ่นใดก็ได้ที่จุดขาย, ลูกค้ายามาฮา รับส่วนลด 20 % เมื่อแสดงกุญแจรถจักรยานยนต์ ยามาฮา รุ่นใดก็ได้ที่จุดขาย และลูกค้า SCB รับส่วนลด 20 % เมื่อชำระผ่านบัตรเครดิทไทยพาณิชย์ ทุกประเภท (เฉพาะช่องทางออนไลน์) ติดตามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ทาง www.facebook.com/BuriramUnitedInternationalCircuit และ www.allticket.com
ABOUT THE AUTHOR
ส
สุดาภรณ์ ไกรแก้ว
ภาพโดย : เกรียงศักดิ์ ปันสมคอลัมน์ Online : ธุรกิจ (บก. ออนไลน์)
คำค้นหา