รายงานข่าวจากกรุงสตอคโฮล์ม ประเทศสวีเดน เสนอข่าวว่า Volvo Cars ประกาศเริ่มสายการผลิต XC40 ที่โรงงานในประเทศจีน เพื่อตอบสนองต่อความต้องการที่เพิ่มขึ้นจากปัญหาสงครามการค้าระหว่าง สหรัฐอเมริกา และจีน ที่ยังไม่สามารถทำความตกลงกันได้ ทำให้อุตสาหกรรมต่างๆ อยู่ในภาวะชะงักงัน ค่าย Volvo ต้องปรับสายการผลิตในโรงงานต่างๆ โดยลดปริมาณการผลิตโรงงานใน Ghent ซึ่งเป็นเพียงแห่งเดียวที่ทำการผลิต XC40 และโยกย้ายมาเริ่มการผลิตในโรงงาน Luqiao ทางตอนใต้ของกรุงเซี่ยงไฮ้ นับตั้งแต่วันที่ 8 เมษายน เป็นต้นมา “ผู้บริโภคให้ความสนใจ XC40 เกินความคาดหมายของเรา” Hakan Samuelsson ซีอีโอ กล่าว “การผลิตในโรงงาน Luqiao ซึ่งเกินกว่ากำลังการผลิตของโรงงาน ทำให้เราสามารถปรับปรุงระบบลอจิสติคส์ของโครงข่ายการผลิต และก้าวเข้าสู่นโยบายของบริษัท คือ ผลิตในที่ที่คุณจะขาย” ค่าย Volvo ซึ่งมี Zhejiang Geely Holding Group เป็นผู้ถือหุ้นใหญ่ สามารถจำหน่าย XC40 มากกว่า 100,000 คัน ตั้งแต่แนะนำตัวเมื่อปลายปี 2560 Volvo XC40 ใช้โครงสร้างพื้นฐานที่ Volvo พัฒนาร่วมกับ Geely เพื่อเป็นการแบ่งปันค่าใช้จ่ายในการพัฒนาและการผลิต อันจะทำให้สามารถทำราคาตัวรถ ให้แข่งขันได้ในตลาด โดยโครงสร้างพื้นฐาน CMA (Compact Modular Architecture) สามารถใช้ร่วมกับรถยนต์ยี่ห้อ Lynk & Co และ Polestar ซึ่ง Geely วางแผนที่จะผลิตเอสยูวีในอนาคต อย่างไรก็ดี ผลกระทบจากสงครามการค้า ทำให้ค่าใช้จ่ายในการพัฒนารถไฟฟ้า เพิ่มสูงขึ้น และทำให้กระเทือนถึงค่ายรถยนต์ที่สามารถทำกำไรได้จากรถหลายรุ่นในกลุ่ม ในส่วนของโรงงาน Luqiao ซึ่งมี Geely เป็นเจ้าของ ดำเนินงานโดย Volvo ปัจจุบัน ทำการผลิตรถยี่ห้อ Lynk & Co รุ่น 01, Polestar, Volvo และรถไฟฟ้าของ Geely โดยในปีหน้า จะเริ่มการผลิต Polestar 2 รถไฟฟ้า ซีดาน รุ่นแรก ที่จะมาเป็นคู่ปรับของ Tesla