เดือนเมษายนที่ผ่านมา ยอดการจำหน่ายรถยนต์ใหม่ ของประเทศอังกฤษ ลดลงถึง 44.5 % ขณะที่บรรดาผู้ผลิตหลายราย หยุดสายการผลิต ก่อนที่จะถึงเส้นตายของกรณีการถอนตัวออกจากสหภาพยุโรป หรือ Brexit ซึ่งแต่เดิม กำหนดไว้ในวันที่ 29 มีนาคม ที่ผ่านมา ก่อนจะได้รับการต่ออายุออกไปบรรดาผู้ผลิตรายใหญ่หลายราย ที่มีโรงงานขนาดใหญ่อยู่ในประเทศอังกฤษ ซึ่งรวมทั้ง Mini, Rolls-Royce และ Vauxhall ตัดสินใจที่จะไม่ทำการผลิตใหม่อีกครั้ง แม้ว่า กำหนดการออกจากสหภาพยุโรป จะเลื่อนกำหนดหลังจากได้รับการต่ออายุ สมาคมผู้ผลิตและจำหน่ายยานยนต์ (Society of Motor Manufacturers and Traders) ระบุว่า นั่นหมายถึงจำนวนรถยนต์ที่หายไปจากสายการผลิตปกติ จำนวน 56,999 คัน ในเดือนเมษายน ขณะที่กำหนดการออกจากสหภาพยุโรป ที่ได้รับการต่ออายุใหม่ จนถึงวันที่ 31 ตุลาคม 2562 บรรดาผู้ผลิตต่างก็รอคอยให้ถึงกำหนด เพราะต้องคอยดูผลกระทบต่างๆ ที่จะเกิดขึ้น จากกรณีที่ประเทศอังกฤษจะออกจากตลาดสหภาพยุโรป และกลับกลายเป็นตลาดเพียงเจ้าเดียว นับจนถึงเดือนเมษายน ยอดการผลิตรถยนต์ในอังกฤษ ลดลงจากเดิมที่ทำได้ 127,970 คัน เหลือเพียง 70,971 คัน โดยลดลงจากตลาดในประเทศ ถึง 43.7 % จาก 24,294 คัน เหลือ 13,669 คัน และตลาดส่งออก ลดลง 44.7 % จาก 103,676คัน เหลือเพียง 57,302 คัน นับเป็นการลดลงติดต่อกัน 11 เดือน อันเนื่องจากความต้องการที่ลดลงในตลาดต่างประเทศ ซึ่งรวมทั้งสหภาพยุโรป, สหรัฐอเมริกา และจีน สมาคมผู้ผลิตฯ ระบุว่า หากการออกจากสหภาพยุโรป เป็นไปด้วยดี และมีระยะเวลาการเปลี่ยนถ่ายที่เหมาะสม ทั้งด้านพิธีการ และระเบียบปฏิบัติต่างๆ รวมทั้งความตึงเครียดของการค้าโลก ซึ่งไม่เลวร้ายไปกว่านี้ ยอดการผลิตที่ลดลงของรถยนต์ในประเทศอังกฤษ น่าจะกลับมาทรงตัวได้อย่างช้าปลายปี 2562 พร้อมการผลิตรถรุ่นใหม่ๆ และโรงงานยังสามารถทำการผลิตได้ หลังจากการหยุดช่วงฤดูร้อนประจำปี ตามปกติ