ทดลองขับ
Nissan Leaf ประหยัดด้วยไฟฟ้า ปลอดภัยด้วยเทคโนโลยี e-Pedal
Nissan ในประเทศไทย จัดการทดสอบสมรรถนะ Nissan Leaf ใหม่ ด้วยการขับขี่ในสภาพการจราจรที่แตกต่างกัน ครอบคลุมพื้นที่ในเขตกรุงเทพฯ และปริมณฑล ตลอดทั้งวัน ด้วยการชาร์จไฟเต็มเพียงครั้งเดียว
สื่อมวลชนจำนวน 100 คน ได้เข้าร่วมกิจกรรมทดสอบขับขี่ที่จัดขึ้นเป็นระยะเวลา 5 วัน พร้อมปฏิวัติประสบการณ์ใหม่ของเทคโนโลยียานยนต์พลังงานไฟฟ้า ภายใต้โซนกิจกรรม "rEVolution education" ครั้งแรกในประเทศไทย
กิจกรรมทดสอบนี้จัดขึ้น บริเวณลานจอดข้างตึกจีแลนด์ พระราม 9 นำเสนอข้อมูลเชิงลึกเกี่ยวกับการออกแบบของ Nissan Leaf ใหม่ ระบบขับเคลื่อนของรถยนต์ไฟฟ้า และรูปแบบการชาร์จรถยนต์ไฟฟ้าทั้ง 3 แบบ โดยในงานจัดสรรพื้นที่เป็น 4 โซน ประกอบด้วย Nissan Leaf Simply Amazing, Nissan Electric Cafe บูธถ่ายภาพ Nissan Electric และสถานีชาร์จ Nissan Leaf
การทดลองขับ Nissan Leaf ใหม่ รถยนต์ไฟฟ้าที่ขายดีที่สุดของโลก ที่ชาร์จที่บ้านเพียงครั้งเดียวก็สามารถขับขี่ในสภาพการจราจรของกรุงเทพฯ ตลอดทั้งวัน หรือขับไปเที่ยวไกลถึงอำเภอนครชัยศรี จังหวัดนครปฐม ได้อย่างสบายใจ ไฟไม่หมด และไม่ก่อมลพิษใดๆ สู่สังคม
Nissan Leaf ใหม่ แสดงให้เห็นถึงการออกแบบด้วยแนวทาง "Cool Tech Attitude" ของ Nissan และความพยายามในการพัฒนารถยนต์ไฟฟ้าที่มียอดขายสูงสุดของโลก
โดยอาศัยแรงบันดาลใจจากรถต้นแบบ IDS Concept ที่นำเสนอสู่สาธารณชนเป็นครั้งแรก ในงานมหกรรมยานยนต์โตเกียว 2015 ด้วยความสปอร์ท รูปทรงที่ดึงดูดสายตา สะท้อนตัวตนของยานยนต์ไฟฟ้าแห่งอนาคต ปรัชญาของการออกแบบ คือ ต้องการแสดงถึงเส้นสายที่เรียบง่าย สะอาดตา แต่แฝงไปด้วยความดุดัน รวมไปถึงความโฉบเฉี่ยวของการเล่นแสงเงา ให้ทุกคนสัมผัสได้ถึงยานยนต์ที่เปี่ยมไปด้วยเทคโนโลยีขั้นสูง นอกจากนี้เส้นสายหลักในแนวนอน กันชน และความโดดเด่นของตัวถังช่วงล่างเน้นย้ำให้เห็นถึงจุดศูนย์ถ่วงที่ต่ำของตัวรถ ทำให้สัมผัสได้ถึงการขับขี่ที่สนุกสนาน และคล่องตัว
การออกแบบที่เป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัวในส่วนของกระจังหน้าแบบ V-Motion, ไฟรูปทรง “บูเมอแรง” และการออกแบบแนวเส้นหลังคา แสดงให้เห็นการออกแบบที่เป็นเอกลักษณ์เฉพาะในแบบของ Nissan เพื่อให้ Nissan Leaf ใหม่ มีความเชื่อมโยงกับรถยนต์รุ่นอื่นๆ ของ Nissan
ลวดลายตาข่ายสีน้ำเงินสว่างแบบ 3 มิติ โดดเด่นสะกดทุกสายตา เสริมความโดดเด่นให้กับกระจังหน้าแบบ V-Motion
Nissan Leaf ใหม่ ใช้ไฟหน้าพโรเจคเตอร์แบบคู่ รองรับการทำงานทั้งไฟต่ำ และไฟสูง และเป็นครั้งแรกที่ติดตั้งในรถยนต์ของ Nissan
ชุดไฟท้ายมีความโดดเด่นที่ทำให้ผู้คนที่พบเห็นสามารถจดจำ Leaf รุ่นใหม่ ได้จากระยะไกล การติดตั้งสปอยเลอร์ท้ายให้เป็นส่วนหนึ่งของลวดลายกระจก ทำให้ Nissan Leaf ใหม่ สปอร์ทและสะดุดตามากขึ้น ฝากระโปรงหน้าที่ลาดต่ำ ผสมผสานอย่างลงตัวกับกระจกด้านหน้าที่ทอดยาวไปจนถึงหลังคา
การออกแบบใต้ท้องรถ และกันชนท้ายที่มีลักษณะคล้ายดิฟฟิวเซอร์ (Diffuser) ช่วยทำให้ลดแรงต้านอากาศ และอากาศที่ยกตัวรถ ช่วยให้รถมีความมั่นคงยิ่งขึ้น การออกแบบตัวถังตามหลักแอโรไดนามิค รวมถึงกันชนหลังที่เป็นแนวโค้ง และการออกแบบล้อตามหลักอากาศพลศาสตร์ ทำให้ Nissan Leaf ใหม่ มีค่าสัมประสิทธิ์แรงต้านทานของอากาศ (Drag Coefficient) เพียง 0.28 เท่านั้น
Nissan Leaf ใหม่ สีแบบทูโทน ภายใต้ตัวถังสีขาว Brilliant White Pearl และด้านบนหลังคาสีดำ Super Black
นอกจากนี้ช่องเสียบสายชาร์จไฟบริเวณด้านหน้ารถได้รับการออกแบบใหม่ เพื่อให้มีความสะดวกมากยิ่งขึ้น โดยเจ้าของรถสามารถเสียบสายชาร์จโดยไม่ต้องก้มตัวลงมาเหมือนรุ่นก่อน ด้วยหลักการออกแบบตามหลักสรีรศาสตร์ของ Nissan แสดงให้เห็นว่าช่องเสียบสายชาร์จไฟใหม่ที่ถูกติดตั้งในระดับ 45 องศา ทำให้ผู้ใช้งานที่มีระดับความสูงต่างกัน สามารถเสียบสายชาร์จไฟได้อย่างสะดวก
ภายในห้องโดยสารของ Leaf ใหม่ มีความกว้างขวาง และสะดวกสบายมากขึ้น ที่ยึดหลักการออกแบบของ Nissan Gliding Wing เป็นแนวทางหลัก
การปรับดีไซจ์นให้หน้าจอ และรูปแบบของไฟแสดงข้อมูลของคนขับเรียบง่ายขึ้น ทำให้สามารถมองเห็นได้ชัดเจน มีความเรียบหรู และตอบสนองด้านพื้นที่และการใช้งาน ผู้ขับขี่ Leaf ใหม่ สามารถมองเห็นข้อมูลที่จำเป็นในตำแหน่งที่เหมาะสม ช่วยให้ผู้ขับขี่มีสมาธิกับการขับขี่ที่สนุก และเพลิดเพลิน
คอนโซลด้านหน้าได้รับการออกแบบใหม่ทั้งหมด ที่รองแก้วแบบคู่จัดวางตามแนวยาวที่นั่งระหว่างผู้ขับขี่ และผู้โดยสารตอนหน้า ทำให้มีพื้นที่จัดเก็บเพิ่มขึ้นที่ฐานของคอนโซลกลาง ซึ่งเหมาะสำหรับการวางสมาร์ทโฟน หรือกระเป๋าสตางค์ รวมทั้งการใช้งานสวิทช์ไฟฟ้า ช่องจ่ายไฟ 12 โวลท์ และพอร์ทยูเอสบี ที่สะดวกง่ายดายมากขึ้น เครื่องปรับอากาศ และระบบทำความร้อนที่ประหยัดพลังงาน ช่วยเพิ่มความสะดวกสบายภายในห้องโดยสาร
จะเห็นตะเข็บการเย็บสีฟ้า ซึ่งเป็นสัญลักษณ์ของรถยนต์ไฟฟ้า Nissan ทั้งบริเวณเบาะนั่ง ด้านข้างประตู ที่วางแขน และพวงมาลัย รวมทั้งการใช้โทนสีน้ำเงินกับปุ่มสตาร์ท และเกียร์ที่ให้ความรู้สึกถึงเทคโนโลยีล้ำสมัย
หน้าจอแสดงข้อมูล และสวิทช์ควบคุมต่างๆ ถูกปรับเปลี่ยนรูปแบบให้ใช้งานง่ายขึ้น โดยผสมผสานระหว่างมาตรวัดความเร็วแบบแอนาลอกกับหน้าจอแสดงผลแบบ Multi-Information ด้านซ้าย หน้าจอสีแบบ Thin-film Transistor (TFT) ขนาด 7 นิ้ว บอกปริมาณกำลังไฟฟ้าที่ใช้ตามการกำหนดค่ามาตรฐาน โดยคนขับสามารถเลือกแสดงข้อมูลตามที่ต้องการ หน้าจอแสดงผลตรงกลางแบบ Flush-Surface ช่วยให้ผู้ขับขี่สะดวกต่อการเลือกระบบความบันเทิง รวมทั้งแสดงให้เห็นการทำงานของเทคโนโลยี Safety Shield ระดับการชาร์จไฟของรถ และพลังงานที่เหลืออยู่ รวมถึงระบบเสียง และข้อมูลระบบนำทาง
แม้ว่าความจุพลังงานของแบทเตอรีลิเธียม-ไอออนจะเพิ่มขึ้น แต่ขนาดของแบทเตอรียังคงไม่เปลี่ยนแปลง ดังนั้นห้องโดยสารจึงรองรับผู้โดยสาร 5 คนได้อย่างสบาย นอกจากนี้พื้นที่วางสัมภาระด้านหลังได้รับการออกแบบใหม่เพื่อเพิ่มพื้นที่มากขึ้น โดยมีความจุ 435 ลิตร (VDA) พื้นที่สี่เหลี่ยมจัตุรัสที่มีการเอาส่วนนูนออกมากที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้ ทำให้มีพื้นที่ใช้สอยมากขึ้น เพิ่มความสะดวกสบายและการใช้งาน พื้นที่บรรทุกสัมภาระด้านหลังสามารถเก็บกระเป๋าเดินทางขนาดใหญ่ 2 ใบ หรือกระเป๋าเดินทางขนาดกลาง หรือกระเป๋าสัมภาระพกพาขึ้นเครื่อง 3 ใบ
Nissan Leaf ใหม่ มีระบบขับเคลื่อนพลังงานไฟฟ้า (e-powertrain) ขนาดความจุ 40 กิโลวัตต์ชั่วโมง (kWh) มีกำลังมอเตอร์ไฟฟ้าสูงสุด 125 แรงม้า หรือ 110 กิโลวัตต์ (kW) และแรงบิดสูงสุด 32.6 กก.-ม. หรือ 320 นิวตัน-เมตร ให้อัตราเร่งที่ดีขึ้น จาก 0-100 กม./ชม. ภายในเวลาเพียง 7.9 วินาที เมื่อชาร์จแบทเตอรีเต็ม 100 % สามารถขับขี่ได้ระยะทางสูงสุดถึง 311 กม. ตามมาตรฐาน NEDC (New European Driving Cycle) คิดเป็นค่าไฟฟ้าต่อการชาร์จไม่ถึง 200 บาท
ราเมช นาราสิมัน ประธาน นิสสัน มอเตอร์ (ประเทศไทย)ฯ กล่าวว่า "การทดลองขับ Nissan Leaf ใหม่ จะช่วยเพิ่มการรับรู้เกี่ยวกับรถยนต์ไฟฟ้า ให้ความมั่นใจกับลูกค้าที่ต้องการเป็นเจ้าของ Nissan Leaf ใหม่ ว่าพวกเขาสามารถใช้รถยนต์ไฟฟ้าได้ตลอดวันด้วยความมั่นใจ และมีความเข้าใจที่ถูกต้องเกี่ยวกับระบบนิเวศของการชาร์จไฟฟ้าในประเทศไทย"
"การทดลองขับ Nissan Leaf ใหม่ ที่จัดขึ้นอย่างพิเศษในประเทศไทยครั้งนี้ รวมถึงโซน "rEVolution education" ช่วยให้สื่อมวลชนร่วมปฏิวัติประสบการณ์รถยนต์ไฟฟ้าที่น่าตื่นเต้นและอย่างสมบูรณ์แบบ" ราเมช กล่าวเสริม “การทดสอบแต่ละช่วง พิสูจน์ให้เห็นอย่างชัดเจนว่า Nissan Leaf ใหม่ สามารถขับขี่บนสภาพท้องถนนที่หลากหลายในเมืองอย่างกรุงเทพฯ และปริมณฑล ได้อย่างมีประสิทธิภาพ นอกจากนี้ Nissan Leaf ใหม่ ใช้เวลาเพียงชั่วข้ามคืนในการชาร์จจากที่อยู่อาศัย ก็ให้ความสะดวกสบายจากการขับขี่ตลอดทั้งวัน”
กิจกรรมนี้เป็นการทดลองขับอย่างเป็นทางการครั้งแรกในประเทศไทยของ Nissan Leaf ใหม่ ภายใต้แนวคิด “เรียบง่ายอย่างอัศจรรย์ หรือ Simply Amazing” โดยมีธีมงานที่ชื่อว่า "rEVolution"
การทดสอบครั้งนี้ แบ่งออกเป็น 2 ส่วน ส่วนแรกเริ่มจากการทดสอบสมรรถนะของรถไฟฟ้าอย่าง Nissan Leaf อย่างเต็มรูปแบบบนสนามทดสอบ
การทดสอบสมรรถนะของอัตราเร่ง และแรงบิดสูงสุดอย่างต่อเนื่อง ความสามารถของเทคโนโลยี e-Pedal ที่สามารถใช้ควบคุมความเร็วรถทั้งการเร่ง และเบรคด้วยคันเร่งเพียงอย่างเดียว ในสถานีการขับขี่แบบสลาลอม ความเงียบภายในห้องโดยสารตลอดการเดินทาง รวมถึงการแลกเปลี่ยนข้อมูลด้านเทคนิคจากผู้เชี่ยวชาญด้านรถยนต์ไฟฟ้าของ Nissan
เทคโนโลยี e-Pedal ปฏิวัติการขับขี่ โดยเปลี่ยนวิธีการขับขี่ด้วยการเร่งความเร็ว ชะลอความเร็ว และหยุดรถด้วยการใช้คันเร่งเพียงอย่างเดียว โดยเมื่อปล่อยคันเร่ง รถจะชะลอความเร็วโดยอัตโนมัติจนถึงจุดหยุดนิ่งได้โดยสมบูรณ์ แม้ว่าจะจอดรถค้างบนเนิน ก็ไม่จำเป็นต้องเหยียบแป้นเบรค ด้วยอัตราการชะลอความเร็วที่สูงถึงกว่า 0.2G โดยผู้ขับขี่ไม่จำเป็นต้องขยับเท้าออกจากคันเร่งไปยังแป้นเบรค เพื่อชะลอหรือหยุด ทั้งหมดนี้จะช่วยลดความเหนื่อยล้า และความเครียดจากการขับขี่ในแต่ละวัน ช่วยให้ผู้ขับขี่ใช้แป้นเบรคน้อยกว่าการขับขี่รถยนต์ทั่วไปถึงกว่า 90 %
ส่วนที่ 2 ช่วงบ่าย ขับทดสอบในสภาพการจราจรจริงของกรุงเทพฯ ย่านรัชดา-พระราม 9 ขึ้นลานจอดรถ 10 ชั้น เพื่อลองกำลังมอเตอร์ และเล่นเกม หยุดรถด้วยเทคโนโลยี e-Pedal ก่อนจะลุยเข้าเมืองไปที่จุดแวะที่ 2 สยามสแควร์ ชิมชาไข่มุก จุดแวะที่ 3 สถานีดับเพลิงบางรัก รับโรตีมาทานกับชาไข่มุก แล้วเดินทางสู่อำเภอนครชัยศรี จังหวัดนครปฐม แวะพักผ่อน ชมและเก็บบรรยากาศริมน้ำ ที่ร้านกาแฟ RIVA ก่อนจะย้อนกลับเข้ากรุงเทพฯ มาแวะที่ ช่างชุ่ย ถ่ายรูปกับเครื่องบิน และฝ่ารถติดช่วงเย็นเข้ามาที่ลานจอดข้างตึกจีแลนด์ พระราม 9
ซึ่งการทดลองขับทั้ง 2 ส่วน สื่อมวลชนได้มีโอกาสทดลองใช้เทคโนโลยีต่างๆ ของ Nissan Intelligent Mobility ที่มีอยู่ใน Nissan Leaf ใหม่ อย่างเต็มที่
เส้นทางการทดสอบทั้งหมดมีระยะทางรวมกว่า 116.2 กม. โดยยังมีระยะทางเหลืออยู่อีก 110 กม. ซึ่งนั่นเท่ากับว่าค่าพลังงานที่จ่ายไปประมาณ 100 บาท คิดเป็น กม. ละ 1 บาท ซึ่งประหยัดกว่า อีโคคาร์ และทำให้ผู้ขับรับรู้ถึงเทคนิคการขับขี่ด้วยเทคโนโลยี e-Pedal และการจัดการพลังงานแบทเตอรี สร้างความมั่นใจในการขับขี่รถยนต์ไฟฟ้าในชีวิตประจำวัน
สำหรับ Nissan Leaf ใหม่ มาพร้อมกับเทคโนโลยีการขับขี่อัจฉริยะขั้นสูง ที่ออกแบบมาเพื่อเพิ่มความมั่นใจในการขับขี่ เพิ่มความปลอดภัย และลดความเครียดจากการขับขี่ ได้แก่ เทคโนโลยีช่วยเตือนเมื่อเสี่ยงต่อการชนรถยนต์ด้านหน้าขณะขับขี่ (Forward Collision Warning) เทคโนโลยีเบรคฉุกเฉินอัจฉริยะ (Forward Emergency Braking) เทคโนโลยีกล้องอัจฉริยะมองภาพรอบทิศทาง (Intelligent Around View Monitor) พร้อมด้วยเทคโนโลยีเตือนวัตถุเคลื่อนไหวรอบคัน (Moving Object Detection) และเทคโนโลยีช่วยเตือนเมื่อเหนื่อยล้าขณะขับขี่ (Driver Alert Assist)
Nissan ในประเทศไทย พิสูจน์ถึงความมุ่งมั่นในการมีส่วนร่วมพัฒนาระบบนิเวศของรถยนต์พลังงานไฟฟ้าของประเทศไทยอย่างต่อเนื่อง ผ่านกิจกรรมทดลองขับ Nissan Leaf ใหม่ ไอคอนของแนวคิด Nissan Intelligent Mobility และคงสถิติรถยนต์ไฟฟ้าที่ขายดีที่สุดในโลก ด้วยยอดขายที่มากกว่า 410,000 คัน
ทั้งนี้ เจ้าของ Nissan Leaf ใหม่ จะได้รับการประกันคุณภาพรถยนต์เป็นเวลา 3 ปี หรือ 100,000 กม. พร้อมการรับประกันระบบขับเคลื่อนไฟฟ้าเป็นเวลา 5 ปี หรือ 100,000 กม. และรับประกันการเสื่อมสภาพของแบทเตอรีเป็นเวลา 8 ปี หรือ 160,000 กม.
โดยในปัจจุบันมีศูนย์บริการของผู้จำหน่าย Nissan ที่ผ่านการรับรองจำนวน 32 แห่งทั่วประเทศ ซึ่งสามารถนำเสนอข้อมูลของ Nissan Leaf ใหม่ รวมถึงความพร้อมบริการหลังการขาย โดยช่างเทคนิคที่มีความชำนาญการ
สำหรับข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับ Nissan Leaf ใหม่ สามารถเยี่ยมชมได้ที่โชว์รูมของผู้จำหน่ายฯ ที่ได้รับการรับรองทั่วประเทศ หรือติดต่อศูนย์คอลล์เซนเตอร์ของ Nissan ได้ที่หมายเลข 0 - 2401 - 9600 หรือเวบไซท์ของ Nissan's LEAF page
ABOUT THE AUTHOR
thanasan saowamol
ลุงหนึ่ง ฟอร์มูลา ศึกษาวิชาตำรารถมานานกว่า 30 ปี ผ่านร้อนหนาว ตั้งแต่ ยุคเครื่องยนต์ มาถึงยุคมอเตอร์ จะว่าเวอร์ ก็เจอมาหมด
ภาพโดย : nissanคอลัมน์ Online : ทดลองขับ (บก. ออนไลน์)