รายงานข่าวจากสหราชอาณาจักร ระบุว่า Nissan ยังคง “รอคอยความชัดเจน” กรณีสัมพันธภาพระหว่างสหราชอาณาจักรกับสหภาพยุโรป สรุปว่า ผลจะออกมาในลักษณะใด แม้ว่าจะใกล้เส้นตาย ในวันที่ 31 ตุลาคม นี้ ที่สหราชอาณาจักร จะต้องทำข้อตกลงกับสหภาพยุโรป กรณีต้องการแยกตัวออกจากสหภาพฯ ให้เรียบร้อย และปัญหาทางการเมืองในสหราชอาณาจักรเอง ก็ยังคงวุ่นวายแต่กระนั้น Nissan ยังคงยืนยันแผนการผลิตรถรุ่น Qashqai ซึ่งจะขึ้นสายการผลิตโรงงานที่ซันเดอร์แลนด์ว่า ยังคงไม่เปลี่ยนแปลง โดยจะวางแผนงานในอนาคตสำหรับโรงงานแห่งนี้ หากกรณี Brexit ซึ่งทำให้ไม่มีข้อตกลงใดๆ หลังจากวันที่ 31 ตุลาคม ไปแล้ว โรงงานซันเดอร์แลนด์ ว่าจ้างงานพนักงานราว 6,700 คน และมีพนักงานที่เกี่ยวเนื่องในระบบลอจิสติคส์ ราว 27,000 คน โดยแรงงานราว 2 ใน 3 อาศัยอยู่ทางตะวันออกเฉียงเหนือของอังกฤษ ทำการผลิต Qashqai, รถไฟฟ้า Leaf และ Juke เจเนอเรชัน 2 โดยก่อนหน้านี้ รัฐบาลอังกฤษเคยเสนอเงินทดแทนกรณีออกจากสหภาพยุโรป ราว 60 ล้านปอนด์ หรือประมาณ 240 ล้านบาท เพื่อให้โรงงานนำรถยนต์รุ่นอื่นมาขึ้นสายการประกอบที่นี่ แต่ปัญหาของค่าย Nissan ก็มีหลากหลายประเด็น โดยเมื่อต้นปีที่ผ่านมาได้ประกาศลดจำนวนพนักงานทั่วโลกลง 9 % อันเนื่องมาจากผลกำไรลดลง รวมทั้งอดีตประธาน Carlos Ghosn ก็ยังคงอยู่ในขั้นไต่สวนจากอัยการญี่ปุ่น กรณีไม่แจ้งการรับเงินรายได้ และกรณีอื่นๆ อีก แต่ยังอยู่ระหว่างการประกันตัว อีกทั้งได้ระงับการผลิตที่โรงงานในอินโดนีเซีย เนื่องจากยอดขายที่ตกต่ำ โฆษกของ Nissan ระบุว่า “เรายังไม่ได้มีการเปลี่ยนแปลงการดำเนินการใดๆ เราจะยังคงขึ้นสายการผลิตรถรุ่น Qashqai ที่โรงงานซันเดอร์แลนด์ ตามแผนการเดิม” แหล่งข่าวจาก Nissan ระบุว่า อนาคตของโรงงานแห่งนี้ จะไม่มั่นคง หากสหราชอาณาจักร ต้องออกจากสหภาพยุโรป โดยไม่มีข้อตกลงใดๆ และกลับไปใช้ระเบียบขององค์การการค้าโลก สำหรับการค้าขายกับประเทศอื่นๆ จะทำให้มีความเสี่ยงสำหรับแผนงานในอนาคตเพิ่มขึ้น “นับได้ว่าเราเป็นบริษัทที่ลงทุนในสหราชอาณาจักรรายใหญ่ และโรงงานซันเดอร์แลนด์ ก็เป็นโรงงานใหญ่ที่สุดในประวัติศาสตร์ของสหราชอาณาจักร ผลิตเพื่อส่งออกไปยังสหภาพยุโรปมากกว่าครึ่งของกำลังการผลิต” โฆษก ระบุในแถลงการณ์ว่า “เรายังรอคอยความชัดเจนสำหรับความสัมพันธ์ระหว่างสหภาพยุโรปกับสหราชอาณาจักร ในอนาคตว่าจะเป็นไปในลักษณะใด” “การปรับเปลี่ยนทันทีทันใดเพื่อให้เข้าสู่ระเบียบขององค์การการค้าโลก หากต้องออกจากสหภาพยุโรป จะเป็นเรื่องสำคัญสำหรับอุตสาหกรรมของอังกฤษ เราหวังว่าการเจรจาตกลงระหว่างสหราชอาณาจักร และสหภาพยุโรป จะเป็นไปในแนวทางที่สร้างสรรค์ และเป็นผลดีแก่ทุกฝ่าย”