ธุรกิจ
ไทรอัมพ์ มอเตอร์ไซเคิลส์ฯ เปิดตัวรถใหม่ 4 โมเดล ปี 2020 ครั้งแรกในเอเชียแปซิฟิคในงาน Motor Expo 2019
ไทรอัมพ์ มอเตอร์ไซเคิลส์ฯ เปิดตัวรถจักรยานยนต์ 4 รุ่นใหม่ล่าสุด ครั้งแรกในเอเชียแปซิฟิค ได้แก่ “รอคเกท 3 อาร์” (Rocket 3 R) และ “รอคเกท 3 จีที” (Rocket 3 GT) รถจักรยานยนต์ที่มาพร้อมขุมพลังเครื่องยนต์ 2,500 ซีซี ถือเป็นเครื่องยนต์สำหรับรถจักรยานยนต์ที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในโลก และ 2 รุ่นใหม่ล่าสุด ได้แก่ “ธรักซ์ตัน อาร์เอส” (All New Thruxton RS) และ “สตรีท ทริเพิล อาร์เอส” โฉมใหม่ (New Street Triple RS) ที่ขนมาให้คนไทยได้ยลโฉม และสัมผัสตัวจริงก่อนใครในเอเชียแปซิฟิค โดยพร้อมเปิดจองทั้ง 4 รุ่น และรับข้อเสนอสุดพิเศษในรุ่นอื่นๆ ภายในงาน "มหกรรมยานยนต์ ครั้งที่ 36" หรือ Motor Expo 2019 ณ บูธ ทไรอัมฟ์ G11 อาคารชาลเลนเจอร์ 3 อิมแพคท์ เมืองทองธานี ระหว่างวันที่ 29 พฤศจิกายน-10 ธันวาคม 2562
มาร์เซโล ซิลวา ผู้อำนวยการภูมิภาคเอเชียแปซิฟิกฝ่ายขาย และการตลาด บริษัท ไทรอัมพ์ มอเตอร์ไซเคิลส์ จำกัด เปิดเผยว่า สำหรับงาน "มหกรรมยานยนต์ ครั้งที่ 36" หรือ Motor Expo 2019 ไทรอัมพ์ มอเตอร์ไซเคิลส์ฯ ได้ขนกองทัพรถจักรยานยนต์ ทไรอัมฟ์ ทุกไลน์มาโชว์ภายในงาน รวมทั้งสิ้น 26 คัน ซึ่งไฮไลท์ของงานในปีนี้ คือ การเปิดตัวรถจักรยานยนต์ 4 รุ่นใหม่ล่าสุด ได้แก่ “รอคเกท 3 อาร์” (Rocket 3 R) และ “รอคเกท 3 จีที” (Rocket 3 GT) “ธรักซ์ตัน อาร์เอส” (All New Thruxton RS) และ “สตรีท ทริเพิล อาร์เอส” โฉมใหม่ (New 2020 Street Triple RS) ซึ่งถือเป็นการเผยโฉมให้ได้สัมผัสอย่างใกล้ชิดเป็นครั้งแรกก่อนใครในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิค
เริ่มต้นกันด้วยรถจักรยานยนต์ที่เป็นที่สุด ได้แก่ “รอคเกท 3 อาร์” (Rocket 3 R) และ “รอคเกท 3 จีที” (Rocket 3 GT) ที่พร้อมสืบทอดตำนานแห่งรถจักรยานยนต์รุ่นใหม่อีกครั้ง ด้วยเครื่องยนต์ขนาดอันทรงพลัง 2,500 ซีซี ซึ่งนับเป็นเครื่องยนต์สำหรับรถจักรยานยนต์ที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในโลก ที่ได้รับการผลิตบนสายพานการผลิต รวมถึงการผสมผสานกันระหว่างรูปลักษณ์ขนาดใหญ่ที่น่าประทับใจ สไตล์ที่หรูหรางดงาม เทคโนโลยีขั้นสูงสุด สัมผัสการควบคุมรถชั้นนำของ ทไรอัมฟ์ ภาพลักษณ์ที่มีชื่อเสียงระดับโลกของรถรุ่น รอคเกท และความสามารถในการขับขี่ทำให้รถทั้ง 2 รุ่นใหม่นี้มีความโดดเด่นเป็นของตัวเอง
โดย “รอคเกท 3 อาร์” (Rocket 3 R) สุดยอดรถจักรยานยนต์โรดสเตอร์ที่ทรงพลังขั้นสูงสุด มาพร้อมกับแรงบิดมหาศาลระดับชั้นนำของโลก ให้การควบคุมรถ ความสบาย และความสามารถในการขับขี่ได้อย่างไม่น่าเชื่อ ในขณะที่รุ่น “รอคเกท 3 จีที” (Rocket 3 GT) ถูกสร้างขึ้นมาเพื่อให้ก้าวล้ำ ทั้งในแง่มุมของความสบายอย่างที่สุด และความสามารถในการขับขี่ทางไกลได้อย่างง่ายดาย
ทั้งนี้ Rocket 3 ใหม่ทั้ง 2 รุ่น มาพร้อมเครื่องยนต์อันทรงพลัง 3 สูบ ขนาด 2,500 ซีซี นับว่าเป็นรถจักรยานยนต์ที่มีขนาดเครื่องยนต์ใหญ่ที่สุดในโลกในปัจจุบัน ที่ได้รับการผลิตบนสายพานการผลิตรถจักรยานยนต์ ซึ่งจะส่งมอบขีดความสามารถและประสิทธิภาพที่มากกว่ารุ่นก่อน ไม่ว่าจะเป็นอัตราเร่ง และการขับขี่ที่แสนสบาย ไม่ว่าจะเข้าเกียร์ใดได้ตลอดวันจะมีคนซ้อน หรือจะขี่คนเดียวก็ไม่เป็นปัญหา ซึ่งเครื่องยนต์ของ Rocket 3 ใหม่นี้ ก้าวล้ำไปอีกขั้นด้วยการส่งมอบพละกำลังสุดเร้าใจด้วยกำลังสูงสุด 167 แรงม้า ที่ความเร็ว 6,000 รตน. รวมถึงแรงบิดที่ทรงพลังที่สุดในบรรดารถจักรยานยนต์จากสายพานการผลิตทั้งหมด ด้วยแรงบิดสูงสุด 221 นิวตัน-เมตร ที่ความเร็ว 4,000 รตน. ตลอดจนให้พลังเสียงท่อ 3 สูบ คำรามนุ่มลึกตามแบบฉบับของรอคเกท จากคอท่อไอเสียผ่านวิธีการขึ้นรูปแบบไฮโดรฟอร์มสุดโดดเด่นอันเป็นเอกลักษณ์เฉพาะ อีกทั้งยังมีน้ำหนักเบากว่ารุ่นก่อน 40 กิโลกรัม
ด้านรูปลักษณ์ได้รับการออกแบบรายละเอียดที่โดดเด่นสวยงาม ไม่ว่าจะเป็นไฟหน้า LED คู่ ที่เป็นเอกลักษณ์ รวมไปถึงตราสัญลักษณ์ ทไรอัมฟ์ รูปสามเหลี่ยม และท่อไอเสียรวม 3 หัวแกะสลัก ทำให้ Rocket 3 ใหม่นี้มีทั้งรูปแบบโครงรถ และรูปลักษณ์ที่น่าทึ่ง นอกจากนี้ ล้ออลูมิเนียมหล่อขึ้นรูปแบบ 20 ก้านน้ำหนักเบาแบบใหม่ ยังช่วยเสริมความมีสไตล์แบบร่วมสมัยที่ทรงพลัง โดยล้อของรถรุ่น Rocket 3 R จะเป็นล้อสีดำสนิท ในขณะที่ Rocket 3 GT ก้าวล้ำไปอีกขั้นโดยการลงรายละเอียดด้วยการกัดผิวบริเวณซี่ล้อและขอบล้อ ที่ประกอบเข้ากับยางของ Avon Cobra Chrome ซึ่งพัฒนาขึ้นมาเพื่อใช้กับ Rocket 3 โดยเฉพาะ โดยความกว้างของยางหลังมีขนาด 240 มิลลิเมตร ซึ่งยางใหม่นี้มีการลงรายละเอียดสุดประณีต ด้วยรูปแบบของดอกยางที่พัฒนาขึ้นมาเพื่อการยึดเกาะที่ดีและความทนทานในการใช้งานทางไกล เพื่อให้สอดรับกับสไตล์ที่เรียบง่าย และดูสะอาดตาของ Rocket 3 ชิ้นส่วนต่างๆ อย่าง สวิงอาร์มเดี่ยว ที่ผ่านกระบวนทางวิศวกรรมออกมาอย่างสวยงาม ระบบกันการสั่นสะเทือนหลังเดี่ยวแบบ Offset เป็นต้น พร้อมกันนี้ Rocket 3 ใหม่ทั้ง 2 รุ่น ยังมีอุปกรณ์คุณลักษณะเฉพาะขั้นสูงสุด อันเป็นสุดยอดแห่งการควบคุมรถ และการขับขี่แบบสั่งการได้ ซึ่งรวมไปถึงเบรค Brembo Stylema Monobloc และระบบกันสะเทือนของ Showa แบบปรับได้ เทคโนโลยีเสริมการขับขี่ที่รวมถึง ชุดอุปกรณ์หน้าจอแสดงผลแบบ TFT รุ่นที่ 2 และปุ่มควบคุมแบบเรืองแสง ระบบความปลอดภัยด้วยระบบเบรค Optimised Cornering ABS และระบบการควบคุมการยึดเกาะถนน ตลอดจนรูปแบบการขับขี่ 4 โหมด แบบถนน (Road) ฝนตก (Rain) สปอร์ท (Sport) และการขับขี่ที่กำหนดตามลักษณะของผู้ขับขี่ (Rider configurable) ระบบส่องสว่างโดยใช้หลอด LED ทั้งหมด ระบบการช่วยออกตัวบนทางลาดชัน (Hill Hold Control) ระบบควบคุมความเร็วคงที่ ระบบสตาร์ทแบบไร้กุญแจ และปลอกมือปรับอุณหภูมิโดยเป็นชุดมาตรฐานในรุ่น GT และเป็นอุปกรณ์เสริมในรุ่น R
นอกจากนี้ ผู้ขับขี่ยังสามารถตกแต่ง Rocket 3 ใหม่ทั้ง 2 รุ่น เพิ่มเติมเพื่อให้เข้ากับความต้องการและสไตล์ของผู้ขับขี่ได้ด้วยอุปกรณ์เสริมของแท้จาก ทไรอัมฟ์ กว่า 50 รายการ ทั้งชุดใส่สัมภาระและอุปกรณ์เสริมใหม่ทั้งหมด เพื่อความสะดวกสบาย ใช้งานได้จริง ที่มีสไตล์สวยงาม และความปลอดภัยที่มากขึ้นกว่าเดิม รวมถึงชุดแต่ง “Highway” ใหม่ ที่แสดงให้เห็นถึงความสามารถในการขับขี่ทางไกลได้อย่างสมบูรณ์แบบ โดยรถจักรยานยนต์ ทไรอัมฟ์ “รอคเกท 3 อาร์” (Rocket 3 R) มาพร้อมกับทางเลือกเฉดสีสุดพรีเมียม 2 แบบให้เลือก ได้แก่ Korosi Red และ Phantom Black ส่วน “รอคเกท 3 จีที” (Rocket 3 GT) มีเฉดสีสุดพรีเมียม 2 แบบให้เลือกเช่นเดียวกัน ได้แก่ Silver Ice/Storm Grey พร้อมลาย Pinstripe Decal สี Korosi Red และ Phantom Black
มาร์เซโล กล่าวต่อว่า ขณะที่ภายในงานนี้ ทไรอัมฟ์ ยังเปิดตัว “ธรักซ์ตัน อาร์เอส” (All New Thruxton RS) รถจักรยานยนต์ในตำนานที่พัฒนาไปอีกขั้น โดยรวมเอา DNA การออกแบบ Cafe Racer ดั้งเดิม และสไตล์ต้นตำรับของแท้เข้ากับความสามารถของ ธรักซ์ตัน ในขณะเดียวกันก็สร้างประสิทธิภาพระดับใหม่ด้วยเครื่องยนต์ที่มีพละกำลังมากกว่าเดิม การควบคุมรถในสไตล์ Cafe Racer ที่ก้าวขึ้นไปอีกขั้น รวมถึงสไตล์การตกแต่งและรายละเอียดแบบร่วมสมัย โดยมาพร้อมขุมพลังเครื่องยนต์ขนาด 1,200 ซีซี ที่ให้กำลังสูงกว่าเดิม ส่งมอบกำลังสูงสุด 105 แรงม้า ที่ 7,500 รตน. และแรงบิดสูงสุด 112 นิวตัน-เมตร ที่ความเร็ว 4,850 รตน.
ด้านความปลอดภัยมาพร้อมเทคโนโลยีที่เน้นให้มีความเหมาะสมกับผู้ขับขี่เพื่อส่งมอบความปลอดภัย และการควบคุมรถที่ดีกว่าเดิม รวมไปถึงความมั่นใจของผู้ขับขี่ ผสานเข้ากับลักษณะและสไตล์ Cafe Racer ดั้งเดิมที่โดดเด่น รวมถึงการควบคุมรถที่ปราดเปรียว และใช้งานได้ง่ายขึ้นด้วยการลดน้ำหนักของชิ้นส่วนต่างๆ ในรถมอเตอร์ไซค์ทั้งหมด ทำให้มีน้ำหนักเบากว่ารุ่นก่อนหน้าถึง 6 กิโลกรัม จึงช่วยให้ขับขี่ได้อย่างปราดเปรียว และมีไดนามิคมากขึ้น นอกจากน้ำหนักที่น้อยลง ยังมีคาลิเพอร์เบรคแบบเรเดียลโมโนบลอค 4 สูบ Brembo M50 และจานเบรคคู่แบบลอยตัว และแม่ปั๊มเบรคของ Brembo ซึ่งจะช่วยส่งกำลังในการหยุดรถได้อย่างดีเยี่ยม รวมไปถึงยาง RR Metzeler Racetec ที่ยึดเกาะถนน และมีคุณลักษณะเฉพาะเหมาะกับการแข่งขัน และยังมีชอคอับหน้าคู่หัวกลับ Showa แบบปรับได้ สำหรับสายแข่ง และชอคหลังคู่ Öhlins ปรับได้เต็มรูปแบบ ซึ่งจะช่วยส่งมอบการขับขี่ ที่น่าตื่นเต้น และก้าวไปอีกขั้น
ในขณะที่ด้านรูปลักษณ์มาพร้อมสไตล์ที่ร่วมสมัย และทันสมัยมากกว่าเดิม ด้วยรูปลักษณ์สไตล์คัสตอมที่ใช้สีดำทั้งหมด ความสุขุมนุ่มลึกแต่ทรงพลัง และคุณลักษณะเฉพาะสุดพรีเมียมที่ออกแบบมาได้อย่างสวยงาม นอกจากนี้ผู้ขับขี่ยังสร้างสไตล์คัสตอมของ “ธรักซ์ตัน อาร์เอส” ในแบบฉบับของตนเองได้ จึงมาพร้อมกับชุดอุปกรณ์ตกแต่งกว่า 80 รายการ ที่จะช่วยให้คุณเพิ่มความสบาย สไตล์ การป้องกัน และความปลอดภัยให้กับรถจักรยานยนต์ ทั้งนี้ “ธรักซ์ตัน อาร์เอส” (All New Thruxton RS) มาพร้อม 2 เฉดสีใหม่ ได้แก่ Jet Black และ Matt Storm Grey/Matt Silver Ice
ปิดท้ายกันด้วยอีกหนึ่งรุ่นไฮไลท์ของงาน ได้แก่ “สตรีท ทริเพิล อาร์เอส” โฉมใหม่ (New Street Triple RS) ที่มาพร้อมกับคุณสมบัติเฉพาะขั้นสูงสุดของ ทไรอัมฟ์ และสมรรถนะที่ก้าวล้ำไปอีกขั้น ด้วยเครื่องยนต์ที่พัฒนาขึ้นโดยทีมเครื่องยนต์ Moto2 ด้วยสไตล์ที่ดุดัน และออกแบบมาเพื่อสร้างจุดเด่นในเรื่องของขีดความสามารถในการใช้งาน ทำให้ สตรีท ทริเพิล อาร์เอส โฉมใหม่นี้ กลายเป็นรถสไตล์สตรีทไบค์ที่มีสมรรถนะขีดสุด โดยมาพร้อมเครื่องยนต์ 3 สูบเรียง ขนาด 765 ซีซี พร้อมมาตรฐานไอเสีย Euro 5 ให้แรงบิดสูงสุดที่มากกว่าเดิมถึง 79 นิวตัน-เมตร ที่ 9,350 รตน. และส่งมอบกำลังสูงสุด 123 แรงม้า ที่ 11,750 รตน. โดย “สตรีท ทริเพิล อาร์เอส” โฉมใหม่ (New 2020 Street Triple RS) ถือเป็นอีกครั้งของการพลิกโฉมหน้าใหม่ให้แก่รถในกลุ่มเดียวกัน ด้วยการเป็นรถจักรยานยนต์ที่มีน้ำหนักเบาที่สุดในบรรดารถรุ่นเดียวกัน โดยได้ถูกออกแบบมาเพื่อสร้างมาตรฐานใหม่อีกครั้งหนึ่ง ทั้งรูปลักษณ์ที่ดุดัน และเทคโนโลยีเสริมการขับขี่ให้ดีกว่าเดิม ผสานกับความปราดเปรียวที่เป็นเหมือนสัญลักษณ์ของบแรนด์ การควบคุมการขับขี่ที่ทรงพลัง และระบบกันสะเทือน เบรค และยาง ที่มีคุณลักษณะเฉพาะสูง ทำให้กลายเป็นรถจักรยานยนต์ที่สมบูรณ์แบบในการขับขี่ทั้งบนท้องถนน และสนามแข่ง
ด้านรูปลักษณ์มาพร้อมสไตล์สุขุม และดุดันมากกว่าเดิม ไม่ว่าจะเป็นไฟหน้า LED เป็นแบบใหม่ทั้งหมด ทั้งรูปทรงที่ใหม่ สไตล์ที่เฉียบคม และใช้งานตามวัตถุประสงค์ได้มากยิ่งขึ้น รวมถึงโครงรถใหม่ทั้งหมดในรูปแบบที่เป็นเหลี่ยม และสปอร์ทมากกว่าเดิม รวมถึงลายเส้นที่ชัดเจนมากยิ่งขึ้น ท่อเก็บเสียงก็ได้ถูกออกแบบใหม่ให้มีความสปอร์ท และกะทัดรัดมากกว่าเดิม โดยในปัจจุบัน สตรีท ทริเพิล อาร์เอส โฉมใหม่นี้ มีโครงรถสีไททาเนียมซิลเวอร์ และจะใช้ชุดสีแบบเดียวกับที่ใช้ในรุ่น Speed Triple ด้วย ทั้งนี้ “สตรีท ทริเพิล อาร์เอส” โฉมใหม่ (New 2020 Street Triple RS) มี 2 สีหลักให้เลือก ได้แก่ สี Matt Jet Black/Aluminium Silver-Yellow decals และสี Silver Ice/Diablo Red-Aluminium Silver decals โดยชุดสีทั้ง 2 ตัวเลือกนี้ยังรวมถึงสีขอบล้อที่ลงด้วยมือ สี Diablo Red และโครงรถด้านหลังสี Aluminium Silver
อย่างไรก็ตาม บูธ ทไรอัมฟ์ ภายในงาน Motor Expo 2019 ยังขนกองทัพรถจักรยานยนต์ ทไรอัมฟ์ทุกไลน์มาโชว์ในงานจำนวน 26 คัน พร้อมคอลเลคชันเสื้อผ้าฤดูกาล Autumn/Winter 2019 ใหม่ล่าสุด ที่ขนกันมาให้เลือกชอพกันอย่างจุใจ พร้อมรับส่วนลดสูงสุด 30 % ภายในงานเท่านั้น โดยผู้สนใจสามารถเยี่ยมชม และสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ บูธ ทไรอัมฟ์ G11 อาคารชาลเลนเจอร์ 3 อิมแพคท์ เมืองทองธานี ระหว่างวันที่ 29 พฤศจิกายน-10 ธันวาคม 2562
สอบถามข้อมูลเพิ่มเติม ติดต่อ บริษัท ไทรอัมพ์ มอเตอร์ไซเคิลส์ (ไทยแลนด์) จำกัด เวบไซท์ www.triumphmotorcycles.co.th หรือติดตามข่าวสาร และกิจกรรมอื่นๆ ได้ที่
www.facebook.com/TriumphMotorcyclesThailand
ABOUT THE AUTHOR
ส
สุดาภรณ์ ไกรแก้ว
ภาพโดย : บริษัทผู้ผลิต, ฝ่ายภาพคอลัมน์ Online : ธุรกิจ (บก. ออนไลน์)