บริษัท กรังด์ปรีซ์ อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด (มหาชน) จับมือพันธมิตรประกาศความพร้อมจัด “การแข่งขันกอล์ฟอาชีพ ถ้วยพระราชทานพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ROYAL’S CUP 2020” ในวันที่ 12-15 มีนาคม 2563 ณ สนามกรังด์ปรีซ์ กอล์ฟ คลับ อำเภอบ่อพลอย จังหวัดกาญจนบุรี โดยมีนักกอล์ฟอาชีพแถวหน้าของโลกกว่า 150 คน เตรียมร่วมดวลวงสวิงชิงเงินรางวัล 400,000 เหรียญสหรัฐฯ พร้อมรางวัลพิเศษ รถยนต์หรู 7 คัน แบ่งเป็นรางวัลโฮล-อิน-วัน 4 คัน และรางวัลอัลบาทรอส 3 คัน รวมมูลค่ากว่า 12,000,000 บาท
การแข่งขันกอล์ฟอาชีพ ถ้วยพระราชทานพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ROYAL’S CUP 2020 จัดโดย บริษัท กรังด์ปรีซ์ อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด (มหาชน) โดยความร่วมมือกับการกีฬาแห่งประเทศไทย กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา และเอเชียน ทัวร์ ถือเป็นรายการแข่งขันกอล์ฟอาชีพ ถ้วยพระราชทานพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 10 เป็นครั้งแรกของประเทศไทย ซึ่งจะมีนักกอล์ฟเข้าร่วมการแข่งขันทั้งหมด 150 คน ประกอบด้วย นักกอล์ฟสมาชิกเอเชียน ทัวร์ 90 คน นักกอล์ฟไทย 40 คน และนักกอล์ฟรับเชิญ 20 คน ได้แก่ สกอตต์ เฮนด์ จากออสเตรเลีย, ชีฟ คาปูร์ จากอินเดีย รวมถึงนักกอล์ฟอาชีพชั้นนำชาวไทยทั้ง ภูมิ ศักดิ์แสนศิลป์, พชร คงวัดใหม่, ปวิธ ตั้งกมลประเสริฐ และกัญจน์ เจริญกุล ต่างตอบรับเข้าร่วมการแข่งขันเพื่อมาร่วมดวลวงสวิงชิงเงินรางวัลกว่า 400,000 เหรียญสหรัฐฯ
ดร.ปราจิน เอี่ยมลำเนา ประธานกรรมการบริหาร บริษัท กรังด์ปรีซ์ อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด (มหาชน) และประธาน สนามกรังด์ปรีซ์ กอล์ฟ คลับ อำเภอบ่อพลอย จังหวัดกาญจนบุรี กล่าวว่า การจัดการแข่งขันกอล์ฟอาชีพ ถ้วยพระราชทานพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ROYAL’S CUP 2020 มีวัตถุประสงค์เพื่อเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระปรเมนทรรามาธิบดีศรีสินทร มหาวชิราลงกรณ พระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัว ตลอดจนสร้างมูลค่าให้ประเทศไทยเป็นศูนย์กลางการจัดการแข่งขันกีฬาสู่ระดับสากล พัฒนาบุคลากรด้านการแข่งขันกอล์ฟอาชีพให้มีศักยภาพสูงขึ้น และส่งเสริมการท่องเที่ยวของประเทศไทยเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจทั้งในระดับท้องถิ่นและระดับประเทศ การจัดทัวร์นาเมนท์ภายในประเทศยังมอบโอกาสให้นักกอล์ฟอาชีพของไทยสามารถเข้าร่วมการแข่งขันกอล์ฟอาชีพระดับสากล อันจะก่อให้เกิดการเรียนรู้ และนำประสบการณ์ไปใช้พัฒนาศักยภาพต่อไปในอนาคต การจัดการแข่งขัน ROYAL’S CUP 2020 ในปีนี้ ยังถือเป็นส่วนหนึ่งของการเฉลิมฉลองในโอกาสที่ บริษัท กรังด์ปรีซ์ อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด (มหาชน) ที่ได้ดำเนินธุรกิจก้าวเข้าสู่ปีที่ 50 ในปี 2563
“นอกจากนี้ ROYAL’S CUP 2020 ยังถือเป็นการแข่งขันกอล์ฟอาชีพโลกรายการแรกที่มีค่ายรถยนต์ร่วมสนับสนุนการแข่งขันมากกว่าหนึ่งราย และสนามกรังด์ปรีซ์ กอล์ฟ คลับ ยังเป็นสนามกอล์ฟแห่งเดียวในโลกที่มีสปอนเซอร์ทุกหลุม ทำให้ในปีนี้มีการตั้งรางวัลพิเศษเพิ่มอีก 7 รางวัล โดยผู้ชนะที่สามารถทำโฮล-อิน-วัน ได้เป็นคนแรกในหลุมที่ 3, 5, 12 และ 16 จะได้รับรางวัลรถยนต์รุ่น MG ZS EV, Mitsubishi All-New Xpander, Mazda CX-5 2.0 SP และ Toyota Camry 2.5 Hybrid HV ตามลำดับ ส่วนผู้ชนะที่สามารถทำอัลบาทรอสได้เป็นคนแรกในหลุมที่ 2, 14 และ 18 จะได้รับรางวัลรถยนต์รุ่น Volkswagen Multivan, Fiat Classic Car-Fiat 850 Sport Spider (1968 - 1974) และ All-New Isuzu D-Max Hi-Lander 4 ประตู 1.9 Ddi Blue Power Gen 2 รุ่น Z รวมมูลค่ามากกว่า 12,000,000 บาท ซึ่งคาดว่าจะทำให้การแข่งขันกอล์ฟ ROYAL’S CUP 2020 ครั้งนี้ ทวีความยิ่งใหญ่และสนุกสนานเร้าใจยิ่งกว่าทัวร์นาเมนท์อื่น ๆ” ดร.ปราจิน กล่าว
สนามกรังด์ปรีซ์ กอล์ฟ คลับ ถือเป็นผลงานระดับมาสเตอร์พีศ และเป็นสนามกอล์ฟระดับนานาชาติ 5 ดาว บนพื้นที่กว่า 2,400 ไร่ ตั้งอยู่ท่ามกลางธรรมชาติที่สงบเงียบ และอุดมสมบูรณ์ โดยมีทิวเขาทอดยาวเป็นฉากหลังที่แสนงดงาม การวางผังสนามกอล์ฟแห่งนี้จึงมีความพิถีพิถันเป็นอย่างยิ่งเพื่อรักษาภูมิทัศน์ของธรรมชาติให้มากที่สุด และสร้างสรรค์เกมกอล์ฟที่สนุกสนาน และแฝงไว้ด้วยความท้าทาย ทำให้นักกอล์ฟต้องวางแผนในการเล่นทุกชอทอย่างรัดกุม สนามกรังด์ปรีซ์ กอล์ฟ คลับ ยังเพียบพร้อมด้วยสิ่งอำนวยความสะดวกครบครัน เพื่อมอบสุดยอดประสบการณ์ทั้งในการแข่งขัน และการพักผ่อนที่ดีเลิศแก่ทั้งนักกอล์ฟ และผู้มาเยือนทุกท่าน
“สำหรับงานเลี้ยงต้อนรับนักกอล์ฟที่จะเข้าร่วมการแข่งขันรายการ ROYAL’S CUP 2020 จะเป็นการล่องแพทานอาหารค่ำแม่น้ำแคว เพื่อให้นักกีฬาและผู้ติดตามจากทั่วโลก ได้สัมผัสกับธรรมชาติป่าฝนเขตร้อนอันอุดมสมบูรณ์ของจังหวัดกาญจนบุรี และเผยแพร่ภาพความงดงามนี้สู่สายตาของผู้ชมทั่วโลก ถือเป็นการประชาสัมพันธ์ และส่งเสริมการท่องเที่ยวและการกีฬาของเมืองไทยได้อย่างดีเยี่ยม”
พลัฏฐ์ สุวรรณาเมธากร ผู้อำนวยการกองบริหารงานและมาตรฐานกีฬาอาชีพ ฝ่ายกีฬาอาชีพและกีฬามวย การกีฬาแห่งประเทศไทย กล่าวว่า รายการ ROYAL’S CUP 2020 ถือว่ามีส่วนสนับสนุนอย่างมากในการยกระดับประเทศไทยให้เป็นศูนย์กลางการจัดการแข่งขันกีฬากอล์ฟระดับสากล จากการที่กลุ่มนักกอล์ฟชั้นนำเดินทางมาแข่งขันเพื่อสะสมคะแนน Golf World Ranking อีกทั้งยังช่วยสร้างโอกาสให้นักกอล์ฟอาชีพของไทยได้มีโอกาสเข้าร่วมการแข่งขันกอล์ฟอาชีพระดับสากลอันจะส่งผลถึงการพัฒนาศักยภาพสู่ระดับโลก รวมถึงการพัฒนาบุคลากรด้านผู้ตัดสินกอล์ฟอาชีพ ผู้ฝึกสอนกอล์ฟอาชีพ แคดดีอาชีพ และผู้จัดการแข่งขันกอล์ฟอาชีพให้มีมาตรฐานการปฏิบัติงานสูงขึ้น นอกจากนี้ รายการ ROYAL’S CUP 2020 ยังนำเสนอกิจกรรมกอล์ฟคลีนิค ซึ่งเปิดโอกาสให้กับบุคคลทั่วไปที่สนใจในกีฬากอล์ฟได้เข้าร่วม เพื่อเป็นการกระตุ้น และสร้างแรงบันดาลใจในการเรียนรู้เทคนิค และรับประสบการณ์ตรงจากนักกอล์ฟอาชีพ โดยมีเป้าหมายให้เกิดการพัฒนาฝีมือ และสั่งสมประสบการณ์ในการเล่นกอล์ฟ ซึ่งจะส่งผลให้กีฬากอล์ฟได้รับความนิยมมากขึ้นในอนาคต”
โช มินน์ ตันท์ ประธานบริหารและซีอีโอ เอเชียน ทัวร์ กล่าวว่า เอเชียน ทัวร์ รู้สึกยินดีเป็นอย่างยิ่งที่ได้ร่วมงานกับผู้จัดงานที่เปี่ยมศักยภาพอย่าง กรังด์ปรีซ์ อินเตอร์เนชั่นแนลฯ ในการจัดงานแข่งขันกอล์ฟอาชีพครั้งนี้ อีกทั้งเอเชียน ทัวร์ รู้สึกเป็นเกียรติอย่างมากที่ ดร. ปราจิน ได้เลือก เอเชียน ทัวร์ เป็นพันธมิตรจัดงาน เพื่อแสดงถึงศักยภาพอีกด้านหนึ่งของบริษัทนอกเหนือจากธุรกิจอุตสาหกรรมยานยนต์ ซึ่งถือเป็นครั้งแรกในประวัติศาสตร์การแข่งขันของเอเชียน ทัวร์ ที่จะมีการจัดทัวร์นาเมนท์แมทช์สำคัญที่จังหวัดกาญจนบุรี ภายใต้มาตรฐานการจัดงานและบริการระดับสูงของสนาม กรังด์ปรีซ์ กอล์ฟ คลับ โดยนักกอล์ฟสมาชิก เอเชียน ทัวร์ ที่มาร่วมงานครั้งนี้จะได้แข่งขันและร่วมเก็บคะแนนสะสมเพื่อทำอันดับให้ดีขึ้น ในประเทศที่สร้างแชมพ์นักกอล์ฟมาแล้วมากมาย และเรามั่นใจว่าผู้เข้าชมจะได้สัมผัสกับบรรยากาศการแข่งขันที่สนุกสนานเร้าใจ ภายในสนามกรังด์ปรีซ์ กอล์ฟ คลับ แห่งนี้อย่างแน่นอน
นอกจากทัวร์นาเมนท์การแข่งขัน รายการ ROYAL’S CUP 2020 ยังกำหนดจัดกิจกรรมนำร่องที่น่าสนใจก่อนการแข่งขัน เพื่อส่งเสริมวงการกีฬากอล์ฟในเมืองไทยอย่างเป็นรูปธรรม ได้แก่ กิจกรรมโฟโทคอล เพื่อการประชาสัมพันธ์การแข่งขันโดยกำหนดจัดในวันที่ 10 มีนาคม กิจกรรมกอล์ฟคลีนิค ซึ่งเป็นส่่วนหนึ่่งในการจัดกิจกรรมเพื่่อสังคม เปิดโอกาสให้กับผู้ที่สนใจกีฬากอล์ฟสามารถเข้าร่วมกิจกรรมเพื่อเป็นเสริมสร้างแรงบันดาลใจ ผ่านการเรียนรู้เทคนิคและรับประสบการณ์ตรงจากนักกอล์ฟระดับอาชีพ และการแข่งขันพโร-แอม ในวันที่ 11 มีนาคม เพื่อให้กลุ่มผู้สนับสนุนการจัดงานได้สัมผัสบรรยากาศก่อนการแข่งขันจริง และได้ออกรอบกับนักกอล์ฟที่เข้าร่วมการแข่งขัน
รายการ ROYAL’S CUP 2020 กำหนดถ่ายทอดสดภายในประเทศ 2 วันสุดท้ายของการแข่งขัน (14-15 มีนาคม 2563) ระยะเวลาวันละ 3 ชั่วโมง ตั้งแต่เวลา 13.00-16.00 น. โดยประมาณ ผ่านทางเครือข่ายของ True Visions ไปทั่วประเทศ ซึ่งสามารถเข้าถึงผู้ชมกว่า 20 ล้านหลังคาเรือน