ศบค. เผยผลวิจัยมหาวิทยาลัยจอร์เจีย ประเทศสหรัฐอเมริกา หากนำรถจอดตากแดดในอุณหภูมิสูงกว่า 54 องศาเซลเซียส นาน 20 นาที จะช่วยฆ่าไวรัส COVID-19 ได้ 99.99 % พร้อมแนะประชาชนเป็นวิถีชีวิตใหม่จอดรถกลางแจ้ง แม้จะร้อนแต่ปลอดโรคศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (ศบค.) เผยถึงประเด็นที่น่าสนใจในต่างประเทศเกี่ยวกับไวรัส COVID-19 โดยมหาวิทยาลัยจอร์เจีย ในประเทศสหรัฐอเมริกา มีผลการวิจัยพบว่าเชื้อไวรัสดังกล่าวสามารถอาศัยอยู่บนพื้นผิวต่างๆ ได้ 2-3 วัน แต่ไวรัสจะตายเร็วขึ้น ถ้าโดนความร้อนสูงขึ้น และมีชีวิตนานขึ้น ถ้าอุณหภูมิต่ำลง ดังนั้น อุณหภูมิในรถยนต์ที่สูงขึ้นจากการจอดรถตากแดด จะสามารถฆ่าเชื้อไวรัส COVID-19 ได้ 99.99 % โดย ศบค. ได้แนะนำให้ประชาชนเอารถไปตากแดดเป็นเวลาไม่ต่ำกว่า 20 นาที และอุณหภูมิในรถต้องเกินกว่า 50 องศาเซลเซียส จึงจะทำให้ปลอดภัยจากเชื้อไวรัส COVID-19 ทั้งนี้ ศบค. ยังได้แนะนำอีกว่า นอกจากจะเอารถไปจอดเพื่อให้โดนแดดจัดแล้ว ต้องปิดกระจกขณะจอดด้วย เพื่อให้ความร้อนถึงจุดที่สามารถฆ่าเชื้อ COVID-19 ได้ ซึ่งตัวผู้ขับขี่ที่เข้ามาในรถจะรู้สึกว่าร้อนหน่อย แต่จะปลอดภัยจากโรคอย่างแน่นอน อย่างไรก็ตาม การจอดรถกลางแจ้งเป็นเวลานาน ก็อาจทำให้เกิดปัญหาอื่นๆ ได้ ทั้งความเสียหายจากสิ่งของที่เก็บไว้ในรถ ซึ่งหากเป็นอุปกรณ์ที่มีแบทเตอรี เช่น โทรศัพท์ แทบเลท หรือคอมพิวเตอร์พกพา รวมถึงไฟแชค ซึ่งความร้อนที่สูงระดับนี้อาจทำให้เกิดความร้อนสะสมเป็นสาเหตุให้เกิดการระเบิดได้ อีกทั้งความร้อนสูงที่เกิดขึ้นในห้องโดยสารยังทำให้ของเหลวต่างๆ เช่น น้ำหอมปรับอากาศ หรือสารเคลือบจากพลาสติค และเบาะหนัง เกิดการระเหยขึ้นมา จนทำให้เกิดอาการแพ้ หรือการเจ็บป่วยในระบบทางเดินหายใจ นอกจากนี้ ยังส่งผลเสียต่อพลาสติคต่างๆ เช่น คอนโซล ยางขอบกระจก ยางขอบประตู ยางปัดน้ำฝน ฯลฯ อุปกรณ์เหล่านี้จะเสื่อมสภาพเร็วก่อนเวลาอันควร รวมถึงสีตัวรถที่จะซีดจางเร็วขึ้นด้วย