ธุรกิจ
กองทัพโมเดิร์นคลาสสิคจาก Triumph ที่ใครๆ ก็หันมอง
หากพูดถึง Triumph (ทไรอัมฟ์) เชื่อว่าคนรักรถจักรยานยนต์ส่วนใหญ่จะนึกถึงรถสไตล์คลาสสิคอันเลื่องชื่อ และเพื่อตอกย้ำหัวใจในการทำงานของ Triumph ที่ต้องการมุ่งมั่นสร้างสรรค์รถจักรยานยนต์ที่มีเอกลักษณ์โดดเด่น ผสมผสานงานออกแบบที่สวยคลาสสิคร่วมสมัย เข้ากับความแม่นยำในการควบคุมรถและสมรรถนะอันเป็นเลิศ เพื่อประสบการณ์การขับขี่ที่สมบูรณ์แบบตามสโลแกน “For The Ride” ครั้งนี้จะพาทุกคนไปชมรถจักรยานยนต์สไตล์โมเดิร์นคลาสสิคที่มีจำหน่ายในประเทศไทยกันว่ามีรุ่นอะไรบ้าง เพื่อเป็นข้อมูลสำหรับคนรักรถจักรยานยนต์โมเดิร์นคลาสสิคที่กำลังมองหารถคู่ใจเอาไว้ครอบครอง
“Triumph Thruxton RS café racer ในตำนาน”
ประเดิมกันที่รถสไตล์ café racer ในตำนานตัวจริงเสียงจริงสุดเร้าใจอย่าง Thruxton RS (ธรักซ์ตัน อาร์เอส) ที่มาพร้อมเครื่องยนต์ขนาด 1,200 ซีซี ที่มีเอกลักษณ์เฉพาะตัว มอบความสมดุลที่ลงตัวระหว่างสไตล์อันโดดเด่น สมรรถนะสุดเร้าใจ การบังคับที่ยอดเยี่ยม และขีดความสามารถระดับชั้นนำที่ไม่เคยมีมาก่อน เพื่อให้สมกับสไตล์อันดุดันและงามสง่า เป็นการกลับมาอย่างยิ่งใหญ่ของตำนานรถจักรยานยนต์เจ้าสนามแข่งของ Triumph อย่างแท้จริง“Triumph Street Scrambler” โมเดิร์นคัสตอม Scrambler พร้อมภาพลักษณ์สไตล์ออฟโรด
ส่วนใครเป็นสายคลาสสิคแต่ก็ชื่นชอบรถจักรยานยนต์ที่สามารถลุยด้วยได้ ต้องไม่พลาดสไตล์อันงดงามของ Street Scrambler (สตรีท สแกรมบเลอร์) รถจักรยานยนต์ที่มาพร้อมเครื่องยนต์ 900 ซีซี ความเป็นโมเดิร์นคลาสสิคแบบวิถีชีวิตในเมืองที่โดดเด่น แต่พร้อมลุยบนเส้นทางที่แบบออฟโรด รวมทั้งความอเนกประสงค์ในการใช้งาน ซึ่งทำให้รถรุ่นนี้มีชื่อเสียงในฐานะหนึ่งใน มอเตอร์ไซค์ที่ทั้งขี่ง่ายและมีสไตล์“Triumph Scrambler 1200ขับขี่สนุกเร้าใจทั้งบนถนน และทางวิบาก
ยกระดับไปอีกขั้นด้วยมาตรฐานใหม่ในด้านความสามารถและความมีสไตล์ของรถจักรยานยนต์ Scrambler 1200 XC (สแกรมบเลอร์ 1200 เอกซ์ซี) และ Scrambler 1200 XE (สแกรมบเลอร์ 1200 เอกซ์อี) สุดยอดการผสมผสานของเครื่องยนต์ขุมพลังสูบคู่ 1,200 ซีซี เข้ากับเทคโนโลยีสนับสนุนผู้ขี่ที่ล้ำสมัยระดับแนวหน้า สไตล์การตกแต่งแบบโมเดิร์นคัสตอมสุดงดงาม และ DNA การดีไซจ์นแบบดั้งเดิมที่ดีที่สุด พร้อมไปกับคุณในทุกสภาพถนน ให้คุณสามารถบุกตะลุยบนทางวิบากได้อย่างมั่นใจ และมีสไตล์“Triumph Street Twin” สไตล์ต้นแบบที่โดดเด่นเหนือกาลเวลา
Street Twin (สตรีท ทวิน) รถจักรยานยนต์อันเป็นจิตวิญญาณแห่งการสร้างแรงบันดาลใจของ Bonneville รุ่นดั้งเดิมปี 1959 ที่ยังคงถูกสานต่อมาถึงปัจจุบัน โดยได้รับการรังสรรค์ด้านสมรรถนะด้วยเครื่องยนต์ขนาด 900 ซีซี ที่มาพร้อมกับรูปลักษณ์สวยงามขึ้นและขี่สนุกยิ่งขึ้น ที่สำคัญ คือ รถคัสตอมคลาสสิคที่ประสบความสำเร็จที่สุด เหมาะสำหรับนักขี่ที่ต้องการใส่ความเป็นตัวของตัวเองต่อยอดจากคุณลักษณะสายพันธุ์แท้ของรถโมเดิร์นคลาสสิค ซึ่งโด่งดังไปทั่วโลกจากสมรรถนะที่รอบด้าน ประโยชน์ใช้สอยสูง ขี่ง่าย ขี่สนุก และสไตล์ต้นแบบที่โดดเด่นเหนือกาลเวลา“Triumph Speed Twin” มาตรฐานใหม่ของการขับขี่แบบไดนามิค
ส่วน Speed Twin (สปีด ทวิน) ตำนานรถจักรยานยนต์ที่หวนกลับมาสู่ Triumph อีกครั้ง ถือเป็นรถจักรยานยนต์โฉมใหม่สุดเร้าใจที่เกิดจากการผสมผสานขีดความสามารถแบบโมเดิร์นคัสตอมสมัยใหม่ เข้ากับ DNA ที่โดดเด่นเหนือกาลเวลาของ Triumph โดยได้รับการออกแบบมาเพื่อสร้างมาตรฐานใหม่ด้านขีดความสามารถการขับขี่แบบไดนามิค มาพร้อมเครื่องยนต์ขนาด 1,200 ซีซี ควบคู่ไปกับเทคโนโลยีสนับสนุนผู้ขี่ขั้นสูง พร้อมสมรรถนะและสัมผัสแบบโรดสเตอร์สุดล้ำสมัย“Triumph Bonneville” คุณลักษณะเฉพาะตัว แฝงด้วย DNA ตามแบบฉบับของ Bonneville รุ่นแรก
และหากพูดถึงรถจักรยานยนต์โมเดิร์นคลาสสิคอันเป็นเอกลักษณ์ของ Triumph ทุกคนต้องคุ้นเคยย่างแน่นอน ไม่ว่าจะเป็น Bonneville T100 (บอนเนวิลล์ที 100) และ Bonneville T100 Black (บอนเนวิลล์ ที 100 บแลค) ถือเป็นจุดเริ่มต้นที่สมบูรณ์แบบในการทำความรู้จักกับรถคลาสสิคตระกูล Bonneville ด้วยเอกลักษณ์ของต้นแบบขนานแท้ที่ได้รับบันดาลใจมาจาก Bonneville รุ่นต้นแบบปี 1959 มาพร้อมเครื่องยนต์ 900 ซีซี ซึ่งให้แรงบิดที่สูง ประหยัดน้ำมันอย่างดีเยี่ยม และมีเสียงท่อที่ทุ้มกระหึ่ม โดยเป็นรถจักรยานยนต์สไตล์โมเดิร์นคลาสสิคที่มีคุณลักษณะเฉพาะตัวซึ่งแฝงด้วย DNA ตามแบบฉบับของ Bonneville รุ่นแรก“Triumph Bonneville T120” ต้นแบบที่ล้ำสมัยเหนือกาลเวลา สู่การวิวัฒนาการอย่างงดงาม
ส่วนใครที่ชอบรุ่นใหญ่ขึ้นมาอีกระดับต้องลอง Bonneville T120 (บอนเนวิลล์ ที 120) และ Bonneville T120 Black (บอนเนวิลล์ ที 120 บแลค) ด้วยแรงบันดาลใจจากภาพลักษณ์แบบดั้งเดิม และความงามของต้นแบบ Bonneville ทำให้ทั้ง 2 รุ่น ได้ถือกำเนิดขึ้นอีกครั้งในยุคสมัยใหม่ โดยมาพร้อมวิวัฒนาการด้านสมรรถนะด้านเครื่องยนต์ขนาด 1,200 ซีซี ผสานเทคโนโลยีและขีดความสามารถที่ทันสมัยในขณะที่ยังคงมีสไตล์และคุณลักษณะแท้ๆ แบบสัญชาติอังกฤษของ Bonneville อยู่อย่างครบครัน ถือเป็นต้นแบบรถจักรยานยนต์อย่างไร้ข้อกังขา รถรุ่นนี้จึงเป็นที่รักของเหล่านักขี่ทุกวัยและทุกประเภททั่วโลก“Triumph Bonneville T120 BUD EKINS” และ “Triumph Bonneville T100 BUD EKINS” 2 รุ่น สเปเชียล เอดิชัน ระดับตำนาน
สำหรับสาวกรถ Triumph สายโมเดิร์นคลาสสิค ที่ชอบความเหนือระดับไปอีกขึ้น ต้องไม่พลาดถรุ่นสเปเชียล เอดิชัน ระดับตำนาน 2 รุ่น ได้แก่ Bonneville T120 BUD EKINS (บอนเนวิลล์ ที 120 บัด อีคินส์) และ Bonneville T100 BUD EKINS (บอนเนวิลล์ ที 100 บัด อีคินส์) ที่ถูกออกแบบขึ้นเป็นรุ่นพิเศษ เพื่อแสดงความชื่นชมในความสำเร็จของ Bud Ekins ตำนานแห่งวงการรถจักรยานยนต์อย่างแท้จริง ซึ่งเป็นทั้งสตันท์แมนระดับเทพ นักแข่งโมโท ครอสส์ และนักขี่ข้ามทะเลทรายชั้นแนวหน้า โดย 2 รุ่นพิเศษนี้ สร้างความแตกต่างด้วย 2 โทนสีสุดโดดเด่น ขาวและแดง ที่มีการลงลายเส้นด้วยมือ และตราสัญลักษณ์ Triumph แบบดั้งเดิมซึ่งถูกนำมาใช้เป็นครั้งแรกสำหรับการผลิตแบบเต็มรูปแบบสมัยใหม่ของ Triumph พร้อมด้วยการออกแบบตัวถังที่ได้รับแรงบันดาลใจจากสไตล์แคลิฟอร์เนีย ซึ่งมาพร้อมกับตราโลโก “Flying globe” ในสไตล์แคลิฟอร์เนียสุดโดดเด่น รวมถึงโลโกบ่งบอกความพิเศษของรุ่น Bonneville “Bud Ekins” สุดโดดเด่นบนแผงด้านข้าง“Triumph Bonneville Bobber” รถจักรยานยนต์รุ่นที่ขายดีที่สุดในประวัติศาสตร์ Triumph และ “Triumph Bonneville Bobber Black” ดุดันขึ้นด้วยสีดำล้วนสุดพรีเมียม
ต่อกันด้วยรุ่นคลาสสิคสวยสะกดทุกสายตาที่คุณจะต้องหลงใหลตั้งแต่ครั้งแรกที่ได้เห็นอย่าง Bonneville Bobber (บอนเนวิลล์ บอบเบอร์) และ Bonneville Bobber Black (บอนเนวิลล์ บอบเบอร์ บแลค) รถจักรยานยนต์คัสตอมคลาสสิคสายพันธุ์แท้ที่ผสมผสานการออกแบบทางวิศวกรรมสุดหรูเข้ากับเทคโนโลยีและขีดความสามารถระดับชั้นนำของกลุ่ม รวมทั้งรูปแบบการขี่และเสียงแบบ hot rod สุดเร้าใจ หัวใจสำคัญของรถจักรยานยนต์ทั้ง 2 รุ่น คือ เครื่องยนต์แรงบิดสูงสุดเร้าใจขนาด 1200 ซีซี พร้อมการปรับแต่งแบบ Bobber อันมีเอกลักษณ์เฉพาะตัว“Triumph Bonneville Speedmaster” คัสตอมสุดคลาสสิค ผสานความหรูหรา
ปิดท้ายกันที่ Bonneville Speedmaster (บอนเนวิลล์ สปีดมาสเตอร์) ด้วยภาพลักษณ์คัสตอมสุดคลาสสิค ที่มีความสวยงามตามแบบสัญชาติอังกฤษอย่างแท้จริง มาพร้อมเครื่องยนต์ขนาด 1,200 ซีซี และคุณสมบัติของเบาะนั่งที่สะดวกสบายจึงสามารถมอบประสบการณ์ขี่รถ Cruiser ที่มีเอกลักษณ์เฉพาะตัวให้คุณได้ อีกทั้งเทคโนโลยีประสิทธิภาพสูงที่มีไว้เพื่อสนับสนุนผู้ขี่โดยเฉพาะ เพื่อมอบการบังคับรถความสะดวกสบายและการควบคุมในระดับที่เหนือชั้น ผสมผสานกับวิศวกรรมที่หรูหรา ตลอดจนการออกแบบและผลิตอย่างดงามพิถีพิถัน มีการตกแต่งรายละเอียดต่างๆ ในระดับพรีเมียม และมีเอกลักษณ์เฉพาะตัว ทั้งนี้ เพื่อตอบรับกระแสความนิยมรถมอเตอร์ไซค์ตระกูลโมเดิร์นคลาสสิคอันเป็นเอกลักษณ์ของ Triumph อีกทั้งเพิ่มโอกาสในการเป็นเจ้าของรถมอเตอร์ไซค์ Triumph ได้ง่ายยิ่งขึ้น Triumph ได้ประกาศปรับลดราคารถมอเตอร์ไซค์ตระกูลโมเดิร์นคลาสสิคทั้งหมด 16 รุ่น สูงสุดถึง 6 หมื่นบาท สำหรับผู้สนใจสามารถสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่โชว์รูม Triumph ทั้ง 13 แห่งทั่วประเทศ หรือต้องการข้อมูลติดต่อ บริษัท ไทรอัมพ์ มอเตอร์ไซเคิลส์ (ไทยแลนด์) จำกัด เวบไซท์ www.triumphmotorcycles.co.th ตลอดจนติดตามข่าวสาร และกิจกรรมได้ที่ www.facebook.com/TriumphMotorcyclesThailand