Lifestyle
Skill Driving Experience จัดเต็มอีกครั้ง กับการฝึกอบรมประจำปีนี้ !

Skill Driving Experience: ขับเป็น ขับปลอดภัย กับ สื่อสากล การฝึกอบรมทักษะการขับขี่ขั้นสูง สามารถนำไปใช้งานได้จริงในชีวิตประจำวันยามประสบเหตุฉุกเฉิน ล่าสุดเพิ่งผ่านไปหมาดๆ กับการจัดงานประจำปี 2563 (วันที่ 19-20 กันยายน ที่ผ่านมา) แม้จะห่างหายไปหลายเดือนจากปีก่อนหน้านี้ เนื่องจากสถานการณ์ COVID-19 แต่เมื่อสถานการณ์คลี่คลายลง และเปิดรับสมัครอีกครั้ง ก็ได้รับความสนใจมากมาย จนมีจำนวนผู้เข้าฝึกอบรมครบในเวลาไม่นานhttps://youtu.be/d8qDh_UZgjM
ทางผู้จัดงาน นั่นคือ บริษัท สื่อสากล จำกัด ดำเนินโครงการ Skill Driving Experience: ขับเป็น ขับปลอดภัย กับ สื่อสากล มาเป็นเวลากว่า 10 ปีแล้ว มีจุดเด่นที่หลักสูตรการฝึกทักษะการขับขี่ที่เข้มข้น พร้อมรถยนต์ที่ใช้ในกิจกรรมที่หลากหลาย โดยในปีนี้ได้รับการสนับสนุนจากค่ายรถ BMW (บีเอมดับเบิลยู) Mercedes-Benz (เมร์เซเดส-เบนซ์) และ Subaru (ซูบารุ) กับหลากหลายรูปแบบตัวถัง และระบบขับเคลื่อน ได้แก่ ขับเคลื่อนล้อหลัง ขับเคลื่อนล้อหน้า และขับเคลื่อน 4 ล้อ
นอกจากนี้ทางผู้จัดยังคำนึงถึงสุขอนามัยเป็นอย่างดี ตามหลักปฏิบัติของสถานการณ์ COVID-19 มีการใส่หน้าผ้าตลอดเวลา ทั้งผู้เข้าฝึกอบรม และผู้ทำการฝึกสอน จัดเตรียมเจลแอลกอฮอลสำหรับล้างมือ และทำการฉีดพ่นสเปรย์ฆ่าเชื้อในห้องโดยสารของรถแต่ละคัน ก่อนเริ่มฝึกสอนในแต่ละสถานี
ตอนเช้าจะเริ่มต้นกับการอบรมภาคทฤษฎีที่มีความจำเป็นสำหรับผู้ใช้รถทุกคน ไม่ว่าจะเป็นรูปแบบของระบบขับเคลื่อน ล้วนมีผลต่อการตอบสนองขณะขับขี่ ถัดมา คือ ขั้นตอนการปรับตำแหน่งเบาะนั่งให้เหมาะสมกับการขับขี่ รวมถึงวิธีการจับพวงมาลัยในตำแหน่งที่ถูกต้อง และการหักเลี้ยวพวงมาลัยเพื่อการควบคุมรถให้มีประสิทธิภาพสูงสุด ช่วยลดโอกาสการเกิดอุบัติเหตุอย่างได้ผล
https://youtu.be/OHI-X6N_KEA
รถที่ใช้ฝึกอบรม (ขับเคลื่อนล้อหลัง): BMW 330e M Sport
การฝึกอบรมสถานี Oversteering จำลองสถานการณ์รถยนต์เกิดอาการ “ท้ายปัด” หรือหมุนในทางโค้ง จากการสูญเสียการยึดเกาะถนนของล้อคู่หลังขณะเข้าโค้ง การแก้ไขสถานการณ์ต้องอาศัยการหักเลี้ยวไปในทิศทางตรงกันข้าม (Counter Steering) ที่ทันท่วงที ผนวกกับการชะลอความเร็วโดยการยกคันเร่ง ทันที่รถออกอาการท้ายปัดบนพื้นผิวเปียกน้ำของสถานีนี้ ผู้เข้าร่วมการฝึกอบรมจะได้สัมผัสการหมุนของตัวรถด้วยตนเอง รวมถึงการฝึกจับอาการท้ายปัด และแก้ไขอย่างทันท่วงที
รถที่ใช้ฝึกอบรม (ขับเคลื่อนล้อหน้า): Mercedes-Benz A200 AMG Dynamic และ GLA 250 AMG Dynamic
Emergency Lane Changing คือ การฝึกวิธีการหลบหลีกสิ่งกีดขวางข้างหน้าในระยะกระชั้นชิดด้วยการหักเลี้ยวอย่างรวดเร็ว ดังนี้แล้วตำแหน่งการเบาะนั่งที่เหมาะสม ตลอดจนการจับพวงมาลัยที่ถูกต้องมีความจำเป็นมาก แม้ช่องว่างของการหักเลี้ยวรถจะค่อนข้างแคบ แต่ผู้ฝึกอบรมสามารถแล่นผ่านไปได้ แม้ใช้ความเร็วค่อนข้างมาก (40-60 กม./ชม.) เป็นอีกหนึ่งทักษะการขับขี่ที่มีประโยชน์ไม่น้อย ต่อด้วย Elk Test หรือการหลบหลีกสิ่งกีดขวางบนถนนในระยะกระชั้นชิด (เช่น สัตว์ใหญ่ หรือ วัตถุขนาดใหญ่) เป็นการหักเลี้ยว 2 ครั้งต่อเนื่องกันสลับซ้าย/ขวา จำลองสถานการณ์การหลบสิ่งกีดขวาง และหักเลี้ยวกลับมายังเลนเดิมสำหรับถนนที่เป็นเลนสวนทาง การควบคุมพวงมาลัย และสายตาที่มองไปยังจุดปลอดภัยแต่ละตำแหน่ง ช่วยให้ผู้ขับหลบสิ่งกีดขวางได้ทันท่วงที และหักเลี้ยวต่อเนื่องได้อย่างมั่นคง
รถที่ใช้ฝึกอบรม (ขับเคลื่อน 4 ล้อตลอดเวลา) : Subaru Forester 2.0i-S EyeSight
หนึ่งในวิธีลดโอกาสการเกิดอุบัติเหตุ คือ การเบรคอย่างทันท่วงที หรือ Emergency Braking นั่นคือ การกดแป้นเบรคอย่างรวดเร็ว และหนักแน่นจนกระทั่งระบบ ABS ทำงาน นอกจากนี้ผู้ฝึกอบรมจะได้ทำการเบรคที่ความเร็วแตกต่างกัน เพื่อรับรู้ระยะเบรคที่แตกต่างกันอย่างเห็นได้ชัด รวมถึงความสำคัญของ Reaction Time ของผู้ขับจากการพบเจอสิ่งกีดขวาง และทำการกดแป้นเบรคลงไป แม้เป็นเวลาเพียงเสี้ยววินาที แต่ก็ใช้ระยะทางหลายเมตรแล้ว การมีสติขณะขับรถเป็นสิ่งที่ควรตระหนักให้ดี ต่อกันด้วย Understeering หรือ ที่คุ้นเคยกับคำว่าอาการ “แหกโค้ง” ตัวรถจะหักเลี้ยวน้อยกว่าที่ต้องการ จากการใช้ความเร็วสูงเกินระดับที่ล้อคู่หน้าจะยึดเกาะถนนได้ ตามปกติความเคยชินของผู้ขับบางคนจะพยายามหักเลี้ยวมากขึ้น แต่ความจริงแล้ว อาการ Understeering จะยิ่งเกิดมากขึ้นแทน การแก้ไข คือ รีบลดความเร็วลงมาด้วยการยกคันเร่ง หรือ ทำการเบรคเบาๆ (ป้องกันรถไม่ให้เกิดอาการสะบัดในโค้ง) จนกระทั่งล้อคู่หน้ามีการยึดเกาะถนนอีกครั้ง สามารถควบคุมทิศทางได้ตามต้องการ อาการของตัวรถลักษณะนี้มักเจอได้บ่อยกว่ารูปแบบอื่นๆ ไม่ว่าจะเป็นรถยนต์ขับเคลื่อนล้อหน้า ล้อหลัง หรือ 4 ล้อก็ตาม
หลังจากการฝึกอบรมครบทั้ง 3 สถานี ผู้เข้าร่วมแต่ละคนจะได้ใช้ทักษะที่เรียนมาไปใช้งานกับส่วนสุดท้าย นั่นคือ การขับจับเวลาแบบ Gymkhana ทั้งการหักเลี้ยวต่อเนื่อง การเลี้ยววงแคบ การขับแบบสลาลอม และการเบรคในระยะที่กำหนด รวมถึงการนั่งรถแบบ Hotlap โดยครูฝึกผู้เชี่ยวชาญการขับขี่แบบเน้นสมรรถนะ เป็นความสนุกสนานปิดท้าย ก่อนถึงเวลามอบประกาศนียบัตรให้ผู้เข้าร่วมการฝึกอบรมแต่ละท่าน
ชมรูปบรรยากาศของ Skill Driving Experience: ขับเป็น ขับปลอดภัย กับ สื่อสากล ได้ที่นี่ (คลิค)
ขอขอบพระคุณผู้สนับสนุนอย่างเป็นทางการ ดังต่อไปนี้
พบกับกิจกรรม Skill Driving Experience ได้ที่งาน Thailand International Motor Expo 2020 ระหว่าง 2-13 ธันวาคม 2563 ที่ IMPACT Challenger เมืองทองธานี


