หลังจากเปิดตัว All New Isuzu D-Max (อีซูซุ ดี-แมกซ์ ใหม่) ครบปี ก็ถึงเวลาของพี่ใหญ่อย่าง Isuzu MU-X (อีซูซุ มิว-เอกซ์) จะพลิกโฉม ซึ่งครั้งนี้เปลี่ยนใหม่หมดทั้งภายนอกจรดภายใน มาพร้อมเทคโนโลยีเพื่อความปลอดภัยล้ำสมัย Isuzu Matrix Safety Intelligence ที่ครบครัน เหนือกว่าด้วยระบบช่วยเหลือผู้ขับขี่ ADAS (Advanced Driver Assistance System) ที่มาพร้อมนวัตกรรมกล้องหน้าคู่อัจฉริยะ 3D Imaging Stereo Camera ช่วยตรวจจับวัตถุต่างๆ ด้วยการสแกนภาพ 3 มิติ แบบ Real Time แม่นยำกว่ากล้องระบบ Mono Camera ทั่วไป โดยทำงานร่วมกับเรดาร์ 2 จุด และเซนเซอร์ 8 จุดรอบคัน มีให้เลือก 4 รุ่น ได้แก่ Ultimate, Elegant, Luxury และ Active
ทดลองขับรอบแรกกับ Isuzu MU-X ใหม่ รุ่น 3.0 Ultimate 4WD
ภายนอก Isuzu MU-X ใหม่ แตกต่างจาก Isuzu MU-X เดิม และ Isuzu D-Max ใหม่ ไม่ว่าเป็น กระจังหน้า ไฟหน้า Bi-LED Projector ดีไซจ์นแบบ Arrow Signature เส้นสายด้านข้าง รวมถึงไฟท้าย LED ดีไซจ์นแบบ Winglet Signature และ 3-Line LED
อีกส่วนที่ช่วยให้ Isuzu MU-X หล่อเหลากว่าคู่แข่งในกลุ่มนี้ ก็เจ้าล้ออัลลอยขนาดใหญ่ ไดนามิคดีไซจ์น คมเข้ม ดุดันขนาด 20 นิ้ว ในรุ่น Ultimate
ห้องโดยสารกว้างขวาง โอ่อ่า ประณีตในรายละเอียด ผสมผสานความสะดวกสบายในทุกฟังค์ชัน คอนโซลหน้าเชื่อมต่อเป็นหนึ่งเดียวกับคอนโซลกลาง คอนโซลจัดวางเรียบหรู พร้อมเบรคมือไฟฟ้า และระบบ Auto Brake Hold ระบบช่วยหยุดอยู่กับที่โดยไม่ต้องเหยียบเบรคค้างไว้ และปลดเบรคอัตโนมัติเมื่อแตะคันเร่ง เบาะนั่งดีไซจ์นหรูสี Saddle Brown ตัดเย็บด้วยวัสดุพิเศษ เดินด้ายแบบเครื่องหนังชั้นหรู โอบกระชับรับทุกสัดส่วน พร้อมเทคโนโลยี Coolmax ช่วยลดการสะสมความร้อน พวงมาลัยมัลทิฟังค์ชัน พร้อม Sequential Paddle Shift เปลี่ยนเกียร์ได้เพียงปลายนิ้วสัมผัส เบาะนั่งแบบ 3 แถว 7 ที่นั่ง พร้อมปรับพับได้หลากหลายรูปแบบตามการใช้งาน เบาะคู่หน้าปรับไฟฟ้า ฝั่งคนขับปรับได้ 8 ทิศทาง และเบาะฝั่งผู้โดยสารปรับได้ 4 ทิศทาง ระบบความบันเทิง Isuzu Ultimate Entertainment หน้าจอ Infotainment Display ขนาดใหญ่ 9 นิ้ว รองรับ Apple CarPlay แบบไร้สาย และ Android Auto พร้อมลำโพง 8 จุด ให้มิติเสียงรอบทิศทาง ระบบปรับอากาศอัตโนมัติแบบ Dual Zone แยกอิสระซ้าย/ขวา พร้อมฟิลเตอร์กรองฝุ่น PM2.5 Charging Station รองรับการใช้งานอุปกรณ์ไฟฟ้าหลากหลาย ทั้ง USB Fast Charger ช่องต่อ AC Power Socket 220v และช่องต่อ DC 12v กุญแจ Isuzu Genius Entry สตาร์ทเครื่องยนต์ด้วย Remote Engine Start และใช้เปิด/ปิดประตูท้ายไฟฟ้า ระบบเปิด/ปิดประตูท้ายด้วยไฟฟ้า Power Tailgate ปลอดภัยด้วยระบบ Jam Protection พร้อมเทคโนโลยีเพื่อความบันเทิง และความสะดวกสะบายครบ โดยมี Ambient Light และ Dome Light ช่วยเติมแต่งบรรยากาศให้ดูหรูมีระดับ เครื่องยนต์ 3.0 Ddi Blue Power Gen 2 กำลังสูงสุด 190 แรงม้า ให้แรงบิดสูงทุกย่านความเร็ว เกียร์อัตโนมัติแบบ 6 จังหวะ ถ่ายทอดความแรงต่อเนื่องทุกช่วงความเร็ว แต่รอบนี้ได้ลองเพียงระบบขับเคลื่อน 2 ล้อ ส่วนระบบขับเคลื่อน 4 ล้อ พร้อมระบบขับเคลื่อน Rough Terrain Mode ยังต้องเก็บเอาไว้รอบหน้า ซึ่งคงจะได้พิสูจน์สมรรถนะกันมากกว่านี้ โดยเฉพาะในรุ่นขับเคลื่อน 4 ล้อ ว่าระบบต่างๆ จะช่วยควบคุมการทำงานของเครื่องยนต์ และเบรคให้เหมาะสม เพื่อให้สามารถผ่านอุปสรรคได้ดีขึ้นแค่ไหน ทั้ง 2H, 4H และ 4L Isuzu MU-X ใหม่ ใส่เทคโนโลยีความปลอดภัยมาให้เกินคาด ทั้ง Isuzu Matrix Safety Intelligence ระบบความปลอดภัยที่รวมระบบทำงานเป็นหนึ่งเดียว ล้ำหน้าไปอีกขั้นกับเทคโนโลยี ADAS (Advanced Driver Assistance Systems) ADAS ระบบช่วยเหลือผู้ขับขี่ ช่วยสอดส่อง เฝ้าระวัง ด้วยนวัตกรรมกล้องหน้าคู่ 3D Imaging Stereo Camera แม่นยำกว่ากล้องเดี่ยวแบบ Mono Camera ทั่วไป ช่วยตรวจจับเส้นถนน และวัตถุด้านหน้ารถแบบ Real Time ด้วยมิติที่ชัดเจน พร้อมเรดาร์ 2 จุด และเซนเซอร์ 8 จุดรอบคัน IMG_0518 เทคโนโลยี ADAS ประกอบด้วย ACC (Full Speed Range Adaptive Cruise Control) ระบบควบคุมความเร็วอัตโนมัติแบบแปรผัน พร้อมฟังค์ชัน Stop And Go FCW (Forward Collision Warning) ระบบแจ้งเตือนก่อนการชนด้านหน้า AEB (Autonomous Emergency Braking) ระบบเบรคฉุกเฉินอัตโนมัติ LDW (Lane Departure Warning) ระบบแจ้งเตือนออกนอกเลน AHB (Automatic High Beam) ระบบควบคุมไฟสูงอัตโนมัติ PMM (Pedal Misapplication Mitigation) ระบบตัดกำลังเครื่องยนต์เมื่อเหยียบคันเร่งผิดพลาด MSL (Manual Speed Limiter) ระบบตั้งค่าจำกัดความเร็วสูงสุดด้วยตัวเอง BSM (Blind Spot Monitoring) ระบบแจ้งเตือนจุดอับสายตา RCTA (Rear Cross Traffic Alert) ระบบช่วยเตือนขณะถอยรถยนต์ Parking Aid System ระบบเซนเซอร์ช่วยจอดรถยนต์ MCB (Multi-Collision Brake) ระบบเบรคอัตโนมัติหลังการเกิดอุบัติเหตุ ช่วยลดโอกาสการเกิดอุบัติเหตุซ้ำซ้อน ควบคู่ไปกับระบบความปลอดภัยพื้นฐานครบทุกรุ่น ABS, EBD, BA, BOS, ESC, TCS, HSA, HDC และ TSC โครงสร้างพแลทฟอร์มใหม่ ประกอบด้วยช่วงล่างใหม่ ออกแบบตามแนวคิด Isuzu Symmetric Mobility ให้โครงสร้างตัวถัง แชสซีส์ การวางตำแหน่งเครื่องยนต์ และช่วงล่างทำงานร่วมกันได้อย่างลงตัว ช่วงล่างหน้าแบบอิสระ ปีกนก 2 ชั้น (Double Wishbone) ออกแบบจุดยึดปีกนกด้านบนใหม่ พร้อมคอยล์สปริง ชอคอับแกส และเหล็กกันโคลงขนาดใหญ่ ช่วงล่างด้านหลังแบบ 5-Link Suspension ที่พัฒนาไปอีกขั้น ออกแบบจุดยึดคานใหม่ และเหล็กกันโคลงยาวขึ้น พร้อมคอยล์สปริง และชอคอับแกส ให้ความนุ่มสบาย และยึดเกาะถนน Isuzu MU-X ใหม่ นอกจากจะมีให้เลือก 4 รุ่น ได้แก่ Ultimate, Elegant, Luxury และ Active ยังมีให้เลือกถึง 6 สี ประกอบด้วย น้ำตาล (Marrakesh Brown) ขาวมุก (Dolomite Pearl White) แดง (Etna Red) ดำ (Bavarian Black Mica) เงิน (Iceberg Silver) และเงินเมทัลลิค (Bohemian Silver Metallic) โดยรุ่น 1.9 Active ราคา 1,121,000 บาท 1.9 Luxury M/T ราคา 1,266,000 บาท 1.9 Luxury A/T ราคา 1,304,000 บาท 1.9 Elegant ราคา 1,349,000 บาท 1.9 Ultimate ราคา 1,349,000 บาท 3.0 Ultimate ราคา 1,479,000 บาท และ 3.0 Ultimate 4WD ราคา 1,579,000 บาท รุ่นที่เราทดลองขับในครั้งนี้ Isuzu MU-X 3.0 Ultimate 4WD มีสมรรถนะเครื่องยนต์ดีเซล เทอร์โบ 3.0 ลิตร 190 แรงม้า และแรงบิดต่อเนื่อง การขับขี่ที่นุ่มนวล มั่นคง ปลอดภัยยิ่งขึ้นจากเทคโนโลยี ADAS และโครงสร้างพแลทฟอร์มที่ออกแบบใหม่