รายงานข่าวจากเยอรมนี ระบุว่า ค่าย Daimler ผู้ผลิตรถยนต์หรู ระดับโลก และรถเพื่อการพาณิชย์ หลากหลายรูปแบบ ภายในสิ้นปีนี้ เตรียมแยกการบริหารงาน ระหว่างรถยนต์นั่ง Mercedes-Benz และรถเพื่อการพาณิชย์ ในชื่อ Daimler TruckOla Kallenius ซีอีโอ Daimler กล่าวว่า การแยกตัวในครั้งนี้ เพื่อให้การบริหารงานเป็นไปด้วยความสะดวกมากขึ้น โดยเขาระบุว่าเป็นการปรับโครงสร้างองค์กรครั้งใหญ่ “Mercedes-Benz Cars & Van และ Daimler Trucks and Buses ทำธุรกิจกันคนละประเภท เพื่อตอบสนองผู้บริโภคคนละกลุ่ม ทั้งเทคโนโลยี และความจำเป็นในการใช้เงินลงทนด้วย” เขากล่าวว่า “การแยกตัวครั้งนี้ เราเชื่อว่าจะช่วยให้การบริหารงาน กระทำได้คล่องตัว และมีประสิทธิภาพมากขึ้น พร้อมโครงสร้างการบริหารที่สามารถดูแลธุรกิจได้ทั้งโลก” Sanford C. Bernstein นักวิเคราะห์ ระบุว่า “การแยกตัวครั้งนี้ เป็นผลดีกับผู้ถือหุ้นทั้งหลาย รวมทั้งเราเชื่อว่าจะเป็นผลดีกับพนักงานของ Daimler ด้วยเช่นกัน เพราะชื่อเสียงที่มั่นคง และสถานภาพทางการเงินที่ดีมากอยู่ในตลาดหลักทรัพย์เยอรมนี” ส่วนของ Daimler Truck คาดว่าจะมีมูลค่าราว 29 พันล้านยูโร หรือประมาณ 1,160 พันล้านบาท ซึ่งเป็นมูลค่าที่ใกล้เคียงกับ Volvo AB และจะต้องมีการปรับปรุงรายรับ เพื่อให้ใกล้เคียงกับมูลค่าดังกล่าว โดย Deutsche Bank ระบุในรายงานเมื่อต้นปีว่า ประเมินมูลค่าทรัพย์สินแล้วมากกว่า 35 พันล้านยูโร ในปีนี้ สำหรับ ค่าย Volvo ประเมินตลาดของรถบรรทุกว่าจะมีผลดีในไตรมาสแรก มากกว่าที่ประเมินไว้ก่อนหน้านี้ เพราะการขนส่งและการก่อสร้าง ฟื้นตัวกลับมาในตลาดส่วนใหญ่ รวมทั้งผู้บริโภคมีความเชื่อมั่นมากขึ้น รวมทั้งคาดว่า ยอดการขายรถบรรทุกและรถบัสในยุโรป และอเมริกาเหนือในปีนี้ น่าจะได้ถึง 90,000 คัน Volvo มีผลการบริหารงาน สามารถทำกำไรได้ในอดีตถึงเกือบ 13 % ซึ่งทำให้ Daimler ต้องกลับมามองการบริหารงานของตัวเอง ที่อยู่ภายใต้ Daimler Truck และประกาศการปรับโครงสร้างดังกล่าว ในปี 2562 จากรายงานประจำปีของบริษัท Daimler Truck ทำกำไรได้ 40.2 พันล้านยูโร ด้วยยอดขาย 488,521 คัน สร้างรายได้ให้กับบริษัท 2.46 พันล้านยูโร ก่อนหักภาษี