รายงานจาก Bloomburg ประเทศนอร์เวย์ ระบุว่า จากการส่งเสริมการใช้รถไฟฟ้าภายในประเทศอย่างแข็งขัน ทำให้ปริมาณการใช้ไฟฟ้า ช่วงระหว่างเวลา 08.00-09.00 น. ของชาวนอร์เวย์ ซึ่งมีอยู่ราว 5 ล้านคน ใช้ปริมาณไฟฟ้าเทียบเท่ากับผู้ใช้ราว 10 ล้านคน ในประเทศสวีเดน เพื่อนบ้านปริมาณการใช้กระแสไฟฟ้าที่สูงมากนี้ ไม่เพียงแต่ใช้ในการชาร์จรถไฟฟ้าเท่านั้น แต่ยังรวมถึงกระแสไฟฟ้าที่ใช้ในเครื่องทำความร้อนประจำแต่ละบ้าน รวมทั้งในที่ทำงานราว 85 % ด้วยเช่นกัน ข้อมูลนี้สอดคล้องกับรายงานของ World Bank ที่ระบุว่า ปริมาณการใช้กระแสไฟฟ้า หรือการบริโภคกระแสไฟฟ้า/หน่วยบุคคลในประเทศ ซึ่งสูงเป็นอันดับ 2 ของโลก เป็นรองเพียงประเทศไอร์แลนด์ เท่านั้น รวมทั้งคาดหมายว่า ในปี 2583 ความต้องการใช้งานกระแสไฟฟ้าจะเพิ่มสูงขึ้นอีก 30 % แต่กระนั้น จากรายงานของ International Energy Agency (IEA) ระบุว่า อัตราการบริโภคพลังงาน/รายได้ประชาชนไม่ได้เติบโตขึ้นแบบพรวดพราด พร้อมระบุว่า นอร์เวย์ เป็นประเทศหนึ่งที่พัฒนาการใช้งานพลังงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ โดยเฉพาะเพื่อการชาร์จรถไฟฟ้า ประเทศนอร์เวย์ ได้ชื่อว่าเป็นตัวอย่างของการสนับสนุนให้มีการใช้รถยนต์พลังงานไฟฟ้า ได้อย่างมีประสิทธิภาพ โดยผ่านการให้เงินสนับสนุน การติดตั้งโครงสร้างเพื่อการชาร์จรถไฟฟ้า และสร้างแรงจูงใจในการเดินทาง โดยเฉพาะการเดินทางระยะใกล้ หลายเส้นทาง ยอดขายรถไฟฟ้า ในปี 2563 มีจำนวนถึง 54 % ของรถยนต์นั่งขนาดเล็กที่จำหน่ายในนอร์เวย์ เมื่อเปรียบเทียบกับจำนวน 2 % ที่จำหน่ายในสหรัฐอเมริกา รัฐบาลนอร์เวย์ ทำการตลาดสำหรับรถไฟฟ้า และไฮบริด อย่างจริงจัง โดยในปีที่ผ่านมา รัฐบาลสั่งห้ามการโฆษณารถยนต์ไฮบริด ของ Lexus ที่ใช้คำพูดว่า “Self-Charging"
บทความแนะนำ