รายงานข่าวจากกรุงปักกิ่ง ระบุว่า Renault Group ประกาศการเป็นพันธมิตรกับ Geely Holding Group เพื่อผลิตและจำหน่ายรถยนต์ Renault ประเภทไฮบริด ในสาธารณรัฐประชาชนจีน ด้วยเทคโนโลยีของ Geely รวมทั้งสายการผลิต และระบบโลจิสติคส์ ในการขนส่งชิ้นส่วน ขณะที่ค่ายรถจากเมืองน้ำหอม จะทำหน้าที่ในการขายและการตลาดในบันทึกความเข้าใจ ระบุว่า ค่ายรถยนต์ทั้งสองสามารถใช้สายการผลิตของรถไฮบริด Lynk & CO ภายใต้ Geely Holding Group ในประเทศเกาหลีใต้ ซึ่ง Renault เป็นผู้ดำเนินการมานาน 2 ทศวรรษแล้ว ความร่วมมือครั้งนี้ มีเป้าหมายตลาดในจีน และเกาหลีใต้ พร้อมจะขยายไปยังตลาดที่กำลังเจริญเติบโตในอาเซียน แหล่งข่าวระบุว่า ในอนาคตทั้งสองฝ่าย พร้อมที่จะร่วมกันพัฒนารถไฟฟ้าด้วยเช่นกัน แผนงานนี้ เทียบเคียงได้กับการที่ Geely ร่วมเป็นพันธมิตรกับ Daimler เมื่อปี 2562 โดยมีเป้าหมายรถไฟฟ้า ที่จะขึ้นสายการผลิตในจีน ภายใต้ยี่ห้อ Smart ด้วยเทคโนโลยีของ Geely และใช้เครือข่าย Daimler ในการจำหน่าย แต่การเป็นพันธมิตรของ Renault-Geely จะแยกขาดจากการเป็นพันธมิตรของ Geely-Daimler สำหรับผู้ผลิตที่มียอดจำหน่ายสูงสุดในจีน อย่าง Geely การร่วมเป็นพันธมิตรครั้งนี้ จะช่วยกระชับความเป็นหุ้นส่วนกับผู้ผลิตรถยนต์จากค่ายอื่นๆ ในการใช้เทคโนโลยี, กระบวนการขนส่งชิ้นส่วน และสายการผลิต ช่วยให้สามารถลดค่าใช้จ่ายในการพัฒนาและเปลี่ยนถ่ายเทคโนโลยีการขับเคลื่อนได้ในอนาคต สำหรับ Renault แล้ว ความเป็นหุ่นส่วนครั้งนี้ ช่วยให้ผู้ผลิตจากฝรั่งเศส สามารถหวนกลับคืนสู่ตลาดในจีนได้อีกครั้ง หลังยกเลิกการเป็นหุ่นส่วนกับ Dongfeng Motor Group เมื่อปี 2563 แหล่งข่าวระบุว่า Renault และ Geely จะร่วมกันผลิตรถยนต์ ในโรงงานของ Geely เป้าหมายเพื่อการส่งออก ขณะที่ Renault และพันธมิตรรายอื่น อย่าง Nissan ร่วมเป็นพันธมิตรกับ Dongfeng ผู้ผลิตในจีน ก่อนที่ Renault จะแยกทางกับ Dongfeng โดย Renault ระบุว่า จะพุ่งเป้าไปที่การผลิตรถเพื่อการพาณิชย์ ขนาดเบา และรถไฟฟ้าในจีน ช่วงครึ่งปีแรกที่ผ่านมา Renault ขายรถยนต์นั่งและรถเพื่อการพาณิชย์ ขนาดเบา 101,000 คัน ใน เอเชีย-แปซิฟิค คิดเป็น 7 % ของยอดขายทั่วโลก ขณะที่ในภูมิภาคนี้ขายได้เท่าเดิม และตลาดขยายขึ้นไปถีง 27 %