ธุรกิจ
Mazda CX-5 ต้นกำเนิดเทคโนโลยีสกายแอคทีฟ
รถอเนกประสงค์เอสยูวี Mazda CX-5 (มาซดา ซีเอกซ์-5) เจเนอเรชันแรก เผยโฉมสู่สาธารณชนครั้งแรกของโลกเมื่อเดือนพฤศจิกายน 2555 ณ ประเทศญี่ปุ่น ทั่วโลกต่างตั้งข้อสงสัยว่าเหตุใด Mazda จึงเริ่มต้นการพัฒนาเทคโนโลยี และดีไซจ์นใหม่ทั้งหมดลงไปยังรถอเนกประสงค์ ซึ่งขณะนั้นเป็นเซกเมนท์เล็กๆ แต่ในทางตรงกันข้าม Mazda กลับมองถึงโอกาสในอนาคตที่ต้องการสร้างความแตกต่าง กล้าที่ฉีกจะออกจากกฎเกณฑ์แบบเดิมๆ ที่สำคัญ คือ ต้องเปลี่ยนพฤติกรรมของผู้บริโภคทั่วโลกให้หันมานิยมรถอเนกประสงค์มากขึ้น วันนี้สิ่งที่ Mazda เล็งเห็น และลงมือบุกเบิกนั้นได้ส่งผลลัพธ์ต่อผู้บริโภคให้หันมานิยมรถอเนกประสงค์เอสยูวีมากขึ้นจนถึงปัจจุบันอย่างชัดเจน
จากวันนั้นถึงวันนี้ การมุ่งพัฒนาครอสส์โอเวอร์ เอสยูวีรุ่นแรก ที่ถูกพัฒนาขึ้นภายใต้เทคโนโลยีสกายแอคทีฟ และการออกแบบจาก “โคโดะ ดีไซจ์น” Soul of Motion หรือจิตวิญญาณแห่งการเคลื่อนไหว เกิดจากการแสดงออกถึงความแข็งแกร่ง มีพลัง และความคล่องแคล่วปราดเปรียวของเสือซีตาห์ ที่กำลังตะครุบเหยื่อซึ่งเป็นท่วงท่าที่สง่างาม นั่นคือ แรงบันดาลใจของการออกแบบ รวมถึงความยอดเยี่ยมในทุกมิติ จึงได้รับการตอบรับอย่างดียิ่งจากลูกค้าทั่วโลก ภายในเวลาอันรวดเร็ว รวมถึงการคว้ารางวัลรถยนต์ยอดเยี่ยมจากประเทศญี่ปุ่น และรางวัลอันทรงเกียรติจากทั่วทุกมุมโลกมาครองได้มากมาย เดือนพฤศจิกายน 2556 คือ การเดินทางมาถึงประเทศไทยเป็นครั้งแรกของ CX-5 เจเนอเรชันแรก พร้อมสร้างชื่อเสียงอย่างรวดเร็ว เพียง 4 ปี มียอดขายสูงถึง 17,000 คัน
Mazda CX-5 เจเนอเรชันแรกที่เปิดตัวในประเทศไทย
ถัดมาเดือนพฤศจิกายน 2560 คือ การเดินทางมาของเจเนอเรชันที่ 2 ซึ่งแน่นอนว่าได้รับการตอบรับอย่างดีเช่นกัน กลายเป็นหนึ่งในรถอเนกประสงค์ที่ขายดีที่สุดของ Mazda จนถึงปัจจุบันขายไปแล้วกว่า 15,000 คัน ที่สำคัญ นอกจากในประเทศไทยแล้ว ลูกค้าทั่วโลกต่างให้การยอมรับสูงสุดเช่นเดียวกัน และมียอดขายสะสมมากกว่า 8 ล้านคัน
Mazda CX-5 รุ่นปัจจุบัน
อะไร คือ ปัจจัยสำคัญที่ทำให้ Mazda CX-5 ประสบความสำเร็จมากมายเช่นนี้ แน่นอนว่า เกิดจากการนำเอาความสมบูรณ์แบบของเทคโนโลยีสกายแอคทีฟ พแลทฟอร์มเจเนอเรชันใหม่ที่ Mazda คิดค้นขึ้น เพื่อพัฒนาสมรรถนะของรถ และเครื่องยนต์ที่ให้พละกำลังแรง แต่ประหยัดน้ำมัน มาผนวกเข้ากับการทำงานร่วมกันระหว่างเครื่องยนต์ ระบบเกียร์ โครงสร้างตัวถัง และแชสซีส์ ไว้ด้วยกัน เพื่อให้ทุกส่วนทำงานประสานสอดคล้องกัน และเกิดประสิทธิภาพสูงสุด พร้อมกับการศึกษาเชิงสรีระ และธรรมชาติการเดินของมนุษย์ มาประยุกต์ใช้ เพื่อเพิ่มความเป็นหนึ่งเดียวกันระหว่างคนกับรถที่สมบูรณ์แบบ และมอบความสะดวกสบายให้ผู้โดยสารตลอดการเดินทาง ด้วยเทคโนโลยีสกายแอคทีฟ ที่สร้างชื่อให้ Mazda CX-5 ประกอบด้วยหัวใจหลักสำคัญดังต่อไปนี้
- จุดเริ่มต้นของความสำเร็จ ปฏิเสธไม่ได้ว่า แม่เหล็กสำคัญที่ดึงผู้บริโภคให้เข้าหา Mazda คือ การนำเอาเทคโนโลยีสกายแอคทีฟมาใส่ไว้ในรถยนต์ทุกรุ่นในเจเนอเรชันที่ 6 ควบคู่ไปกับการนำแนวคิดการออกแบบที่เรียกว่า “โคโดะ ดีไซจ์น” (KODO Design) มาใช้ตั้งแต่ปี 2556 จนทำให้รถยนต์ของ Mazda ได้รับเสียงตอบรับอย่างดียิ่ง ทำให้ Mazda สร้างประวัติศาสตร์หน้าใหม่ให้เกิดขึ้นในตลาดรถยนต์เมืองไทย และอาเซียนได้อย่างน่าสนใจ
- เครื่องยนต์ Skyactiv Engine Mazda เป็นค่ายแรกที่มีเครื่องยนต์ให้เลือกมากที่สุดถึง 3 เครื่องยนต์ เพิ่มทางเลือกให้ลูกค้าได้มากยิ่งขึ้น นอกเหนือจากกลุ่มลูกค้าที่ชื่นชอบรถสไตล์เอสยูวี ขยายไปสู่กลุ่มลูกค้าที่ต้องการรถยนต์สมรรถนะสูง และการตอบสนองได้ดั่งใจ ประกอบด้วย
- Skyactiv-G 2.5T เครื่องยนต์สกายแอคทีฟเบนซิน เทอร์โบ 2.5 ลิตร ให้กำลังสูงถึง 231 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 420 นิวตัน-เมตร มาพร้อมระบบเทอร์โบแบบ Dynamic Pressure ตอบสนองได้รวดเร็ว และแม่นยำ อีกทั้งยังมีระบบขับเคลื่อน 4 ล้อ อัตโนมัติ i-Activ AWD ที่ช่วยปรับระบบการขับขี่ให้เหมาะสมกับสภาพถนน นับเป็นอีกก้าวของความสำเร็จในการพัฒนาเครื่องยนต์สกายแอคทีฟ
- Skyactiv-G 2.0 เครื่องยนต์สกายแอคทีฟเบนซิน 2.0 ลิตร เป็นนวัตกรรมของ Mazda ที่ใช้เทคโนโลยีที่ทำให้เครื่องยนต์สันดาปภายในฉีดเชื้อเพลิงเข้าสู่ห้องเผาไหม้โดยตรง ทำให้เกิดการเผาไหม้อย่างมีประสิทธิภาพ ด้วยอัตราส่วนกำลังอัดสูงถึง 14.0:1 ทำให้ประหยัดน้ำมันมากขึ้น ได้แรงบิดเพิ่มขึ้นจากการทำงานของระบบ Direct Injection Spark Ignitions ที่เพิ่มประสิทธิภาพของส่วนผสมระหว่างน้ำมันกับอากาศ จนได้การเผาไหม้ที่สมบูรณ์ ให้พละกำลังแรงถึง 165 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 210 นิวตัน-เมตร ประหยัดน้ำมันถึง 13.9 กม./ลิตร
- Skyactiv-D 2.2 เครื่องยนต์สกายแอคทีฟคลีนดีเซลขนาด 2.2 ลิตร พร้อมเทอร์โบแปรผันแบบ 2 ขั้น ให้พละกำลังถึง 190 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 450 นิวตัน-เมตร ประหยัดน้ำมันถึง 2 กม./ลิตร ได้รับการยกระดับเทคโนโลยี เช่น หัวฉีดแบบหลายรู ช่วยให้ฉีดน้ำมันได้อย่างแม่นยำ ลูกสูบเป็นร่องรูปไข่ที่ช่วยรักษาสภาวะการเผาไหม้ที่สมบูรณ์ ให้อัตราส่วนกำลังอัดต่ำสุดเพียง 14.4:1 มีน้ำหนักเบา และทนทานสูง ได้รับการพัฒนาให้ตัวรถมีน้ำหนักลดลงถึง 10 % ปล่อยค่าไอเสีย CO2 ลดลงถึง 20 % และเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม
- เกียร์อัตโนมัติ Skyactiv-Drive แบบ 6 จังหวะ ถูกออกแบบเพื่อมอบสิ่งที่ดีที่สุดด้วยการรวมข้อดีของเกียร์อัตโนมัติทุกระบบเข้าไว้ด้วยกัน ให้การตอบสนองได้อย่างแม่นยํา การเปลี่ยนเกียร์ที่ราบรื่น ให้อัตราเร่งต่อเนื่อง และประหยัดน้ำมันในทุกรอบความเร็ว ไม่ว่าจะเป็นเครื่องยนต์เบนซิน หรือดีเซลแรงบิดสูง ขณะออกตัวแรงเปลี่ยนเกียร์ได้รวดเร็ว และเร่งแซงได้อย่างนุ่มนวล
- โครงสร้างตัวถัง Skyactiv Body ผลิตจากเหล็กกล้าคุณภาพสูง (High Tensile Steel) น้ำหนักเบา แข็งแกร่ง และทนต่อแรงบิดมากขึ้น มีความปลอดภัยขั้นสูงสุดหากเกิดการชนปะทะ ให้การควบคุมรถที่มั่นคง ช่วยลดแรงสะเทือนจากถนน และกระจายแรงปะทะที่จะเข้าสู่ห้องโดยสารในกรณีที่เกิดอุบัติเหตุ รวมถึงช่วยประหยัดน้ำมันมากยิ่งขึ้น
- ช่วงล่าง และระบบบังคับเลี้ยว Skyactiv-Chassis เทคโนโลยีช่วงล่าง และระบบบังคับเลี้ยวเจเนอเรชันใหม่ ที่พัฒนาให้มีน้ำหนักลดลง แต่ให้ความแข็งแกร่ง และคล่องตัว ให้การควบคุมที่ดีในทุกช่วงความเร็ว ระบบบังคับเลี้ยวเจเนอเรชันใหม่ด้วยพลังงานไฟฟ้า ช่วยให้ควบคุมได้ดั่งใจ รองรับแรงสั่นสะเทือนได้ดียิ่งขึ้น เพิ่มสมรรถนะในการขับขี่ และรักษาเสถียรภาพในการทรงตัวได้อย่างเหนือชั้น รวมถึงช่วยเพิ่มประสบการณ์การขับขี่แบบ Jinba-ittai ที่ผสานความเป็นหนึ่งเดียวระหว่างผู้ขับขี่กับรถได้ดียิ่งขึ้น
- ระบบควบคุมสมรรถนะการขับขี่อัฉริยะขั้นสูง G-Vectoring Control Plus (GVC Plus) Mazda CX-5 ได้รับการติดตั้งเทคโนโลยีใหม่ล่าสุด G-Vectoring Control Plus ซึ่งเป็นหนึ่งในเทคโนโลยี Skyactiv-Vehicle Dynamics ที่พัฒนาต่อจากระบบ GVC ช่วยควบคุมสมรรถนะการขับขี่ให้แม่นยำ และสมดุล โดยเฉพาะการเข้าโค้ง และสถานการณ์ฉุกเฉินได้ดียิ่งขึ้น เพื่อให้ผู้ขับขี่สัมผัสถึงความรู้สึกเป็นหนึ่งเดียวกันระหว่างคนกับรถได้สมบูรณ์แบบมากยิ่งขึ้น
- ระบบ i-Activsense ได้รับการพัฒนาให้มีความปลอดภัยระดับโลก ความปลอดภัยเชิงป้องกัน Mazda Proactive Safety เป็นวิธีการอันเข้มข้นในการเพิ่มสภาวะที่ผู้ขับขี่สามารถขับรถได้อย่างปลอดภัยให้ได้มากที่สุด และมั่นใจยิ่งขึ้น มีจุดมุ่งหมายเพื่อให้เกิดความสุขในการขับขี่ที่แท้จริงสำหรับลูกค้าทุกคน ฟังค์ชัน และคุณลักษณะความปลอดภัยก่อนเกิดเหตุที่เพิ่มขึ้นใหม่ ทำให้เทคโนโลยีความปลอดภัยขั้นสูงของ Mazda ช่วยให้ผู้ขับขี่สามารถระบุความเสี่ยงที่อาจเกิดขึ้นก่อน และลดโอกาสที่จะเกิดความเสียหาย หรือการบาดเจ็บ รวมถึงการเริ่มนำเอาเทคโนโลยีใหม่ๆ เข้ามาใช้เพื่อสนับสนุนการรับรู้ และการขับขี่ที่ปลอดภัยยิ่งขึ้น
- KODO design ความสวยงามอันละเอียดอ่อนที่แสดงถึงความแข็งแกร่งอันประณีต การพัฒนา CX-5 มุ่งเป้าไปที่การกระตุ้นอารมณ์ และความมีชีวิตชีวาอันทรงพลัง ภายใต้แนวคิด “Kodo design” Soul of Motion หรือจิตวิญญาณแห่งการเคลื่อนไหว มาต่อยอดไปสู่ระดับที่สูงขึ้น ด้วยการสร้างความรู้สึกถึงความงามอย่างสดชื่นที่ดึงดูดความรู้สึกอ่อนไหว ด้วยความมุ่งมั่นในการออกแบบที่เป็นเอกลักษณ์เฉพาะที่บรรจงสรรค์สร้างขึ้น ทีมออกแบบมุ่งเน้นไปที่สุนทรียศาสตร์แบบญี่ปุ่น เริ่มต้นด้วยรูปแบบที่เรียบง่าย ปราศจากชิ้นส่วนที่ไม่จำเป็น เฉกเช่นเดียวกับที่ใช้ในงานหัตถกรรมสไตล์ญี่ปุ่น โดยนำแนวคิด “ความแข็งแกร่งอันประณีต” มาใช้เป็นแกนหลัก ได้แก่ “รูปทรงที่ใหญ่โต” “รูปแบบที่สง่างาม” และ “ความลงตัว และงานตกแต่งที่ใส่ใจในทุกรายละเอียด” เป็นแกนหลักในการออกแบบภายนอก และภายใน
- เอกสิทธิ์เฉพาะ Mazda กับสีแดง Soul Red Crystal Mazdaได้สร้างสีสันของตัวถังให้สดใส และความลึกที่บริสุทธิ์ เพื่อสร้างความประทับใจเสมือนหนึ่งว่าได้ชาร์จพลังงานมาอย่างเต็มที่ด้วยสี Soul Red Crystal ด้วยความเชื่อที่ว่า สี คือ องค์ประกอบสำคัญของการออกแบบ Mazda ได้พัฒนาคุณลักษณะนี้อีกครั้ง เพื่อให้เห็นถึงความสวยงาม และคุณภาพของรูปทรงของตัวถังตาม Kodo design ด้วยการเพิ่มระดับความสว่าง และเพิ่มความลึกของสีให้ดูมีมิติมากขึ้น ใช้การเคลือบสี 3 ชั้น ได้แก่ ชั้นสะท้อนแสง ชั้นโปร่งแสง และเคลือบใสด้านบน เป็นความก้าวหน้าครั้งสำคัญของเทคโนโลยีการพ่นสี Takuminuri เพื่อให้ได้สีแดงที่สดใสขึ้น ชั้นโปร่งแสงใช้เม็ดสีที่มีความเข้มสูง พัฒนาขึ้นโดยพิจารณาถึงลักษณะทางกายภาพของแสง ชั้นสะท้อนแสงเป็นทินเนอร์ และใช้เกล็ดอลูมิเนียมขนาดเล็กที่มีความสว่างสูง ตลอดจนเกล็ดที่ดูดซับแสงบนพื้นผิวของตัวถัง ผลลัพธ์ที่ได้ คือ การสะท้อนที่ก่อให้เกิดไฮไลท์ของแสง และเงา ที่สดใสดูมีมิติ
- รางวัลรถยนต์ยอดเยี่ยมของประเทศญี่ปุ่น หรือ Japan Car of the Year ประจำปี 2555 - 2556
- รางวัล Car of the Year 2012: Crossover of the Year ประจำปี 2555 จากประเทศนิวซีแลนด์
- รางวัล Autocar Asean Car of the Year Awards 2012 Small/Midsize SUV (อาเซียน) ในปี 2555
- รางวัล JNCAP Five-star Award ประเทศญี่ปุ่น เมื่อปี 2556
- IIHS Top Safety Pick+ Safety Award ประเทศสหรัฐอเมริกา ปี 2556
- Top honors in J.D. Power APEAL Survey Compact SUV Segment ประเทศสหรัฐอเมริกา ในปี 2558
- Top ASV + Rating in JNCAP Safety Performance Assessment ประเทศญี่ปุ่น ในปี 2558
- ได้รับคะแนนความปลอดภัยสูงสุดของโครงสร้างตัวถังสกายแอคทีฟ-บอดี “Top Safety Pick” จากสถาบันเพื่อความปลอดภัยบนถนนหลวงของประเทศสหรัฐอมริกา Insurance Institute for Highway Safety (IIHS) ในปี 2558
- รางวัล National Car Clubs ประเภท Most economical medium SUV ประเทศออสเตรเลีย ในปี 2559
- รางวัลด้านความปลอดภัย มาตรฐานความปลอดภัยสูงสุดระดับ 5 ดาว จากยุโรป หรือ Euro NCAP ในปี 2560
- รางวัล Best SUV Under 2,500 cc Diesel จาก Thailand Car of the Year ในปี 2563
ABOUT THE AUTHOR
นุสรา เงินเจริญ
บรรณาธิการข่าวธุรกิจและสังคม รักการอ่าน ขอบงานเขียน ชอบพบปะผู้คน ได้มีโอกาสสัมภาษณ์ผู้บริหารในวงการยานยนต์ไทย ท่องเที่ยว เป็นประสบการณ์ที่ดี พร้อมได้ เปิดโลก ได้พัฒนาตัวในแวดวงสื่อสารมวลชน
ภาพโดย : บริษัทผู้ผลิตคอลัมน์ Online : ธุรกิจ (บก. ออนไลน์)