จากสถานการณ์น้ำท่วมในหลายพื้นที่ การนำถุงพลาสติคขนาดใหญ่ห่อหุ้มรถยนต์ไว้ทั้งคัน กลายเป็นกระเเสที่ถูกพูดถึงอย่างกว้างขวางในสื่ออนไลน์ ซึ่งวิธีนี้จะสามารถป้องกันรถโดนน้ำท่วมได้จริงหรือไม่ รวมถึงมีโอกาสที่น้ำจะซึมเข้าไป และทำให้เกิดเชื้อรามากน้อยแค่ไหน "autoinfo.co.th" มีคำตอบ...มีการนำเสนอข้อมูลว่า การใช้ถุงพลาสติคห่อหุ้มรถยนต์เพื่อกันน้ำท่วมแล้วปล่อยให้รถแช่น้ำ ไม่ใช่วิธีที่ดี เพราะมีความเสี่ยงที่ถุงอาจมีรอยรั่วจากเศษหินเล็กๆ ที่อยู่บนพื้น หรือติดมากับยางรถ มีโอกาสทำให้ถุงขาด และน้ำก็จะซึมผ่านเข้าไปได้ง่าย รวมถึงถ้าน้ำท่วมสูงมากๆ น้ำก็จะดันรถให้ลอยไปปะทะกับสิ่งกีดขวางอื่นๆ หรือรถอาจลอยสูญหายไปกับน้ำได้ ทั้งนี้ หากการใช้ถุงพลาสติคห่อหุ้มสามารถกันน้ำได้ 100 % ไม่มีการฉีกขาด แต่ก็อาจมีความเสี่ยงต่อการเกิดเชื้อราทั้งเบาะรถยนต์ และห้องเครื่อง เนื่องจากความชื้น และสภาพแวดล้อมที่รถต้องแช่น้ำอยู่เป็นเวลานาน วิธีที่ดีที่สุด คือ การเอารถไปจอดบนที่สูง ทั้งคอนโดมิเนียม ห้างสรรพสินค้า หรือสถานที่ที่เปิดให้จอดรถ แล้วเอาของออกจากรถ ลอครถให้เรียบร้อย หากใครที่อยากใช้วิธีคลุมรถด้วยถุงพลาสติค แนะนำว่า ให้ใช้สารกันความชื้น แล้วหาของหนักมาถ่วงเอาไว้ เช่น ล้อรถสิบล้อ ปูน หรือผูกรถไว้กับหมุด ทางที่ดีให้ถอดขั้วบวกขั้วลบ ถอดสมองกลของรถออกมา พยายามเลี่ยงความเสียหายให้น้อยที่สุด แก้ไขเบื้องต้น เมื่อรถจมน้ำ 1. เมื่อระดับน้ำลดลงแล้ว ให้ถอดขั้วแบทเตอรีออก ห้ามสตาร์ทเครื่องเด็ดขาด เพราะน้ำที่ค้างอยู่ อาจทำให้ระบบไฟฟ้าชอท และเครื่องยนต์เสียหาย 2. ส่งเข้าอู่ซ่อม หรือศูนย์บริการที่มีความชำนาญ เพื่อตรวจเชค และซ่อมส่วนที่เสียหาย รวมถึงเปลี่ยนของเหลวทั้งหมด อ่านเพิ่มเติม : หลังลุยน้ำลึก ต้องทำอย่างไร ?