รายงานข่าวจากทวีปยุโรป ระบุว่า ค่ายผู้ผลิตรถบรรทุกเพื่อจำหน่ายในทวีปยุโรป Mercedes-Benz และ Volkswagen ยืนยันว่า การใช้ระบบ Fuel Cell มีความเหมาะสมเมื่อนำมาใช้กับรถบรรทุก มากกว่าการใช้กับรถยนต์ขณะที่ผู้ผลิตรถยนต์รายใหญ่ทั้ง Toyota และ Hyundai ระบุว่า ระบบ Fuel Cell ใช้พลังงานไฮโดรเจนเป็นเชื้อเพลิง ก็ไม่เหมาะสม สำหรับการใช้งานในรถยนต์ ซึ่งแตกต่างจากความเห็นของ BMW และ Jaguar Land Rover ขณะที่ Hyundai เตรียมใช้เทคโนโลยี Fuel Cell โดยจะพัฒนาเพื่อใช้งานในรถหลากหลายประเภท ทั้งรถบรรทุกขนาดใหญ่ ไปจนถึงรถสปอร์ท และคาดว่าจะเปิดเผยรถทุกรุ่นได้ภายในปี 2573 ส่วน Ola Kallenius ซีอีโอ Daimler กล่าวยืนยัน ขณะให้สัมภาษณ์ในงานมหกรรมยานยนต์มิวนิค ระบุว่า Mercedes-Benz พร้อมแนะนำรถยนต์พลังงานแบทเตอรี ในรถทุกรุ่นที่ออกจำหน่าย ภายในปี 2568 แต่เมื่อถามถึงเทคโนโลยีสำหรับพลังงานไฮโดรเจน โดยเขายืนยันว่า เทคโนโลยี Fuel Cell จะใช้กับรถยนต์พลังงานไฮโดรเจนเท่านั้น Ola Kallenius กล่าวว่า “เชื่อว่าการพัฒนาเทคโนโลยีเพื่อให้รถยนต์ปลอดมลภาวะ เรากำลังเร่งมือเพื่อให้รถทุกรุ่น มีรถพลังงานแบทเตอรีภายในศตวรรษนี้ เพื่อตอบรับความต้องการของตลาดในปัจจุบัน” สำหรับ Mercedes-Benz เทคโนโลยี Fuel Cell จะพัฒนาเพื่อใช้งานกับรถขนาดใหญ่ ระดับรถบรรทุกเท่านั้น “สำหรับรถบรรทุกน้ำหนักระดับ 40 ตัน ที่ต้องเดินทางประมาณ 1,000 กม. ทุกวัน ไม่เหมาะสมสำหรับการแบกรับน้ำหนักของชุดแบทเตอรีขนาดใหญ่มากๆ ระหว่างการเดินทาง แต่เหมาะสมที่จะใช้ Fuel Cell พลังงานไฮโดรเจน” เขายังให้ความเห็นต่ออีกว่า แทนที่จะสร้างโครงข่ายสถานีบริการเชื้อเพลิงไปมากมาย สำหรับรถบรรทุกหนักแล้ว การสร้างสถานีบริการไฮโดรเจนตามเส้นทางหลวง ที่ใช้ในการเดินทาง จะมีความเหมาะสมมากกว่า แต่ความเห็นนี้ตรงกันข้ามกับฟากคู่แข่งอย่าง BMW, Jaguar Land Rover รวมทั้งผู้พัฒนา Fuel Cell แนวหน้า ทั้ง Toyota และ Hyundai ที่ยืนยันว่า ในอนาคตพร้อมจะแนะนำรถยนต์นั่ง Fuel Cell พลังงานไฮโดรเจน รุ่นใหม่ แต่ทางด้าน General Motors และ กลุ่ม Volkswagen ต่างพากันถอดใจ ยกเลิกการพัฒนารถยนต์นั่งพลังไฮโดรเจนไปเรียบร้อย Herbert Diess ซีอีโอ Volkswagen เคยกล่าวไว้เมื่อช่วงเมื่อเดือนมีนาคมที่ผ่านมา ว่า “คุณจะไม่ได้เห็นการใช้งานพลังงานไฮโดรเจน ในรถยนต์นั่ง” สำหรับ Audi ที่เคยเปิดตัวรถต้นแบบ h-tron เมื่อปี 2559 รวมทั้งยืนยันว่า จะเร่งการพัฒนา Fuel Cell ภายในปี 2563 ก็ประกาศยกเลิกการพัฒนา เพื่อมุ่งด้านพลังงานไฟฟ้าโดยเฉพาะ Silja Pieh หัวหน้าฝ่ายแผนงาน Audi กล่าวในงานมหกรรมยานยนต์มิวนิค ว่า “เราไม่คิดว่าจะสามารถนำเทคโนโลยี Fuel Cell มาใช้ในรถยนต์นั่งตามปกติ” และ เธอกล่าวว่า “เรามีแผนงาน Vorsprung 2030 ที่ระบุชัดเจน จะมุ่งเป้าหมายไปยังการเดินทางด้วยพลังงานไฟฟ้า” Audi ประกาศจะระงับการผลิตเครื่องยนต์สันดาปภายใน ในปี 2569 และจำหน่ายเฉพาะรถยนต์พลังงานไฟฟ้า ภายในปี 2576 รวมทั้งจะไม่มีการใช้งานพลังงานไฮโดรเจน แม้ว่า Volkswagen จะยังต้องรับผิดชอบการพัฒนาเทคโนโลยีนี้เช่นเดิม “มีความเป็นไปได้ที่เทคโนโลยี Fuel Cell จะสามารถนำมาใช้งานได้จริง แต่ผมเชื่อว่า สำหรับ Audi ไม่น่าจะเป็นเรื่องสำคัญ”
บทความแนะนำ