รายงานข่าวจากกรุงโตเกียว ระบุว่า ผู้ผลิตมอเตอร์สำหรับใช้ในรถไฟฟ้าขนาดเล็ก ยืนยันยังคงทำการผลิตต่อไป แม้ปัจจุบัน จะมีการแข่งขันด้านราคาสูง จากผู้ผลิตในอุตสาหกรรมที่เสาะหาผู้ผลิตชิ้นส่วนเพื่อป้อนสายการผลิต โดยไม่พยายามที่จะพัฒนาเองShigenobu Nagamori ประธาน Nidec ผู้ผลิตมอเตอร์สำหรับรถไฟฟ้าขนาดเล็ก กล่าวว่า “เช่นเดียวกับเครื่องใช้ประจำบ้าน ราคาของรถไฟฟ้า ปัจจุบัน มีการแข่งขันสูงมาก โดยมีผู้เล่นหน้าใหม่ นอกวงการยานยนต์ ก้าวเข้ามาสู่ตลาด” ในปี 2568 จะเป็นจุดเปลี่ยน ที่ความต้องการมอเตอร์ไฟฟ้าสำหรับรถยนต์จะเพิ่มมากขึ้น เมื่อผู้ผลิตพยายามที่จะเลือกซื้อมอเตอร์จากบริษัทอื่น แทนที่จะผลิตเองเพื่อเป็นการลดค่าใช้จ่าย Nidec เริ่มผลิตมอเตอร์ไฟฟ้า ตั้งแต่ปี 2561 ตั้งเป้าที่จะครองตลาด 40-45 % ของมอเตอร์ไฟฟ้าขนาดเล็ก ให้ได้ด้วยการลงทุนอย่างหนักในสาธารณรัฐประชาชนจีน ตลาดรถไฟฟ้าที่ใหญ่ที่สุด ประธาน Nagamori ชี้ให้เห็นว่า รถไฟฟ้าขนาดเล็ก ที่ผลิตในจีน มูลค่าคันละ 5,000 เหรียญสหรัฐฯ หรือประมาณ 150,000 บาท สำหรับตลาดในประเทศ ชี้ให้เห็นว่าตลาดกำลังไปในทิศทางใด โดย Nidec ตั้งเป้าที่จะผลิตมอเตอร์ไฟฟ้าให้ได้ 3.5 ล้านชิ้น ภายในปีงบประมาณ 2568 รวมทั้งตั้งเป้าจะเพิ่มเป็น 10 ล้านชิ้น ภายในปี 2573 เขากล่าวว่า “เราจะพัฒนาอุปกรณ์การผลิต และแรงงานในการผลิต หรืออาจต้องควบรวมหากมีความจำเป็น” และ “เชื่อว่า เราเป็นหนึ่งในบริษัทในโลก ที่เตรียมการต้อนรับการแข่งขันในอนาคต ด้วยการลงทุนอย่างมหาศาล” ท่านประธาน กล่าวแก่ผู้สื่อข่าว หลังมีรายงานข่าวว่า ผู้ผลิตมอเตอร์ไฟฟ้า มีผลกำไรจากการดำเนินงานเพิ่มขึ้น 30 % เพียงครึ่งปีแรกของปี จากความต้องการที่เพิ่มมากขึ้น Nidec มีสำนักงานใหญ่อยู่ใน เกียวโต รายงานผลการดำเนินงาน และผลกำไร 90 พันล้านเยน หรือประมาณ 26.1 พันล้านบาท จากเป้าหมาย 80 พันล้านเยน โดยยอดขายเพียง 6 เดือน 910 พันล้านเยน เพิ่มขึ้น 21 % Nidec เป็นผู้ผลิตมอเตอร์ไฟฟ้าขนาดเล็ก เพื่อป้อนให้แก่ผู้ผลิตอุปกรณ์ไฟฟ้าภายในบ้าน, คอมพิวเตอร์ ฮาร์ดดิสค์, หุ่นยนต์ และชิ้นส่วนภายในรถยนต์ แต่กระนั้น ในปีนี้ ก็ถูกกระแสความเปลี่ยนแปลงทางอุตสาหกรรมเล่นงานด้วยเช่นกัน เพราะผู้ผลิตรถยนต์ ลดปริมาณการผลิตเนื่องจากความขาดแคลนชิพ จากการเกิดโรคระบาดร้ายแรง COVID-19 ในเวียดนาม โรงงานของบริษัท ซึ่งผลิตมอเตอร์ไฟฟ้าขนาดเล็ก แบบเฉพาะเจาะจง ก็ต้องระงับสายการผลิต แต่ยังหวังว่าจะสามารถกลับมาดำเนินการได้ต่อในไตรมาสที่ 3 และ 4
บทความแนะนำ