ธุรกิจ
BMW เปิดตัวรถไฟฟ้าอเนกประสงค์
BMW iX และ BMW iX3 รถยนต์อเนกประสงค์ Sports Activity Vehicle (SAV) ขับเคลื่อนด้วยพลังงานไฟฟ้า 100 % จะมาสร้างนิยามใหม่ให้แก่ประสบการณ์การขับขี่ด้วยพลังงานสะอาดในประเทศไทย มาในรุ่น BMW iX xDrive50 Sport สร้างสุนทรียภาพการขับขี่แบบไร้มลพิษ พร้อมความคล่องตัวสไตล์สปอร์ท และดีไซจ์นสุดล้ำ ที่สื่อถึงความยั่งยืนในทุกอณู ขับเคลื่อนด้วยขุมพลังไฟฟ้า พร้อมเทคโนโลยี BMW eDrive และเทคโนโลยีเซลล์แบทเตอรีรุ่นใหม่ล่าสุด สามารถขับขี่ด้วยพลังงานไฟฟ้าได้ไกลถึง 630 กม. ขณะที่ BMW iX3 M Sport เปิดตัวเป็นครั้งแรกในประเทศไทย ด้วยความโดดเด่นจากตระกูล X3 ที่ผสานความปราดเปรียว โฉบเฉี่ยว เข้ากับสมรรถนะอันทรงพลังของ BMW eDrive เจเนอเรชันที่ 5
BMW iX xDrive50 Sport ราคาจำหน่าย 5,999,000 บาท (รวมภาษีมูลค่าเพิ่ม แพคเกจบำรุงรักษา BSI Standard นาน 4 ปี ไม่จำกัดระยะทาง)
BMW iX มาพร้อมเทคโนโลยีระบบขับเคลื่อนด้วยไฟฟ้าใหม่ล่าสุด พร้อมความล้ำยุคด้านเทคโนโลยีขับขี่อัตโนมัติ และการเชื่อมต่ออีกมากมาย เพื่อมอบประสบการณ์การขับขี่ที่ตรงกับความต้องการของผู้บริโภคยิ่งขึ้น มาพร้อมเทคโนโลยี BMW eDrive และระบบขับเคลื่อน 4 ล้อ แบบไฟฟ้า ซึ่งทำงานร่วมกัน เพื่อสร้างสมรรถนะการขับขี่ในระยะยาวไกลยิ่งขึ้น และอัตราเร่งที่ทรงพลัง BMW iX xDrive50 Sport ส่งพละกำลังรวมสูงสุด 385 กิโลวัตต์/523 แรงม้า ระบบ BMW eDrive เจเนอเรชันที่ 5 นี้ยังทำงานพร้อมเทคโนโลยีเซลล์แบทเตอรีล่าสุด มอบระยะทางขับเคลื่อนตามมาตรฐาน WLTP สูงสุดถึง 630 กม. สร้างแรงบิดรวมได้สูงสุดถึง 765 นิวตัน-เมตร ระบบป้องกันการลื่นไถลของล้อ (near-actuator wheel slip limitation) ได้รับการติดตั้งควบคู่กับระบบขับเคลื่อน 4 ล้อ เป็นครั้งแรก ช่วยป้องกันการลื่นไถลของล้อ และเพิ่มความเสถียรภาพในการควบคุมรถยิ่งขึ้นอีกระดับ จึงโลดแล่นด้วยความเร็วจาก 0-100 กม./ชม. ได้ภายใน 4.6 วินาที
แบทเตอรีแรงดันสูงใน BMW iX xDrive50 Sport มีความจุพลังงานสุทธิ 105.2 กิโลวัตต์ชั่วโมง และความจุพลังงานรวม 111.5 กิโลวัตต์ชั่วโมง หัวชาร์จแบบ Combined Charging Unit (CCU) ได้รับการออกแบบมาเพื่อมอบการชาร์จที่ยืดหยุ่น รองรับการชาร์จแบบ DC ได้สูงสุด 200 กิโลวัตต์ จึงสามารถชาร์จจาก 0-80 % ได้ในเวลาเพียง 39 นาที อีกทั้งยังเพิ่มระยะขับขี่ได้สูงสุดถึง 100 กม. หลังชาร์จแบทเตอรีด้วยการชาร์จแบบ DC 50 กิโลวัตต์ เพียง 21 นาที
ระบบการนำพลังงานกลับมาใช้ใหม่แบบแปรผัน (Adaptive Recuperation) ช่วยเสริมประสิทธิภาพ และระยะการขับขี่ของ BMW iX xDrive50 Sport ด้วยการดึงพลังงานจากระบบเบรคกลับมาใช้ใหม่ให้เหมาะสมกับสภาวะการขับขี่ โดยใช้ข้อมูลจากระบบนำทาง และเซนเซอร์จากระบบช่วยเหลือผู้ขับขี่ เช่น เมื่อรถเข้าใกล้ทางแยก ระดับการดึงพลังงานกลับมาใช้ใหม่จะเพิ่มสูงขึ้น เพื่อเติมพลังงานไฟฟ้ากลับเข้าสู่แบทเตอรีแรงดันสูง ขณะเดียวกันก็จะทำให้ความเร็วในการขับขี่ลดลง และจะทำงานสลับกับฟังค์ชัน Coasting ขณะขับขี่บนท้องถนน ซึ่งช่วยให้รถเคลื่อนที่ได้โดยไม่ต้องใช้พลังงานเมื่อผู้ขับขี่ยกเท้าออกจากแป้นคันเร่ง ผู้ขับขี่สามารถเลือกระดับการนำพลังงานกลับมาใช้ใหม่ได้ตามต้องการ ระหว่างระดับสูง ปานกลาง และต่ำ โดยเมื่อเลือกขับขี่ด้วยเกียร์ B ระบบ Recuperation จะทำงานที่ระดับสูงสุดโดยอัตโนมัติ เพื่อสร้างประสบการณ์ในการขับขี่แบบ one-pedal feeling
โครงสร้างตัวถัง ปรัชญาการดีไซจ์น และการออกแบบแชสซีส์ของ BMW iX ได้รับการพัฒนาเพื่อหลอมรวมความสะดวกสบายเหนือระดับในการขับขี่ และการควบคุมที่โฉบเฉี่ยวสไตล์สปอร์ท โครงสร้างของ BMW iX มาในวัสดุอลูมิเนียมแบบ Spaceframe ส่วนหลังคามาในโครงสร้าง Carbon Cage ซึ่งประกอบด้วย วัสดุคาร์บอนไฟเบอร์บริเวณด้านข้าง และด้านหลัง ผสานการใช้วัสดุ 2 ประเภทเข้าไว้ด้วยกัน เพื่อเสริมทั้งความแข็งแกร่ง และลดน้ำหนักให้เบาลงได้อย่างชาญฉลาด ส่วนค่าสัมประสิทธิ์แรงต้านอากาศ (Drag Coefficient) ที่ต่ำเพียง 0.25 จากองค์ประกอบด้านอากาศพลศาสตร์ต่างๆ ยังช่วยเสริมประสิทธิภาพการทำงานของเครื่องยนต์ และระยะการขับขี่ด้วยเช่นกันแบทเตอรีแรงดันสูงใน BMW iX ที่ติดตั้งอยู่ใต้ท้องรถ ช่วยลดจุดศูนย์ถ่วงให้ต่ำลง เมื่อประสานเข้ากับการกระจายน้ำหนักอย่างสมดุล จึงทำให้ตอบสนองต่อการควบคุมได้ฉับไวยิ่งขึ้น
นอกจากนี้ รูปแบบการขับขี่ที่มีความสมดุลของ BMW iX ยังช่วยเพิ่มความมั่นคง และความสบายขณะขับขี่ ขณะที่ยังคงความคล่องตัวไว้ได้อย่างดีเยี่ยม
เทคโนโลยีแชสซีส์ที่ใช้ในการพัฒนา BMW iX ประกอบด้วย เพลาหน้าแบบปีกนกคู่ เพลาหลังแบบ five-link ช่วงล่างแบบปรับระดับได้ และระบบพวงมาลัยไฟฟ้าที่ปรับน้ำหนักตามความเร็วรถขณะขับขี่ (Servotronic) แปรผันตามการหมุน และความเร็ว มาพร้อมระบบช่วงล่างแบบถุงลมที่ควบคุมด้วยไฟฟ้า ระบบปรับองศาของล้อหลังเพื่อการเข้าโค้ง หรือเลี้ยว (Integral Active Steering) และเบรคแบบสปอร์ท ล้อแอโรไดนามิค ขนาด 22 นิ้ว แบบสลับสี ขัดเงา 3 มิติ เสริมด้วยยางล้อลดเสียงรบกวนที่มีชั้นโฟมบริเวณพื้นผิวด้านในเพื่อลดการเกิดเสียง ได้รับการติดตั้งมาเป็นมาตรฐาน
อีกหนึ่งเอกลักษณ์ใหม่ที่ไม่ซ้ำใครของ BMW iX คือ ดีไซจ์นภายนอกที่มีเส้นสายในการออกแบบชัดเจน ทรงพลัง แต่ยังมีความเรียบง่าย และคงความบึกบึนสไตล์ SAV รายละเอียดขององค์ประกอบต่างๆ สื่อถึงความประณีต และความหรูหราล้ำยุค โดดเด่นสะดุดตาด้วยกระจังหน้าทรงไตคู่ที่เกือบปิดทึบ สะท้อนถึงนวัตกรรมการผลิตที่ล้ำสมัย ส่วนกล้อง และเรดาร์เซนเซอร์ฝังอยู่ภายใต้พื้นผิวของกระจังหน้า โดดเด่นด้วยไฟหน้า และไฟท้ายที่เรียวยาวที่สุดของ BMW มือจับประตูที่เปิดด้วยการกดปุ่ม หน้าต่างไร้ขอบ และประตูท้าย สอดประสานกลมกลืนเป็นหนึ่งเดียว ตั้งแต่หน้ารถจรดท้ายรถ โดยไม่มีช่องว่าง
การออกแบบภายในห้องโดยสารมุ่งนำเสนอแนวคิดของการใช้ชีวิตที่เปี่ยมด้วยคุณภาพ มาพร้อมพื้นที่กว้างขวาง และเบาะที่นั่งแบบใหม่ พร้อมพนักพิงศีรษะเสริมความหรูหรายิ่งขึ้น มีพื้นที่วางขามากขึ้น เนื่องจากไม่ต้องมีท่อส่งน้ำมันกลางตัวรถ ช่วยเพิ่มพื้นที่เก็บสัมภาระ คอนโซลกลางมาในดีไซจ์นเฉียบไม่แพ้เฟอร์นิเจอร์หรู ปุ่มควบคุมระบบสัมผัส และระบบเปลี่ยนเกียร์แบบ Rocker Switch เติมเต็มความทันสมัยยิ่งขึ้น ภายในห้องโดยสาร พร้อมเน้นย้ำถึงการออกแบบห้องโดยสารเพื่อผู้ขับขี่ด้วยจอ BMW Curved Display พวงมาลัยทรงหกเหลี่ยม และจอ Head-Up Display
ระบบปรับอากาศอัตโนมัติมาพร้อมฟิลเตอร์นาโนไฟเบอร์ที่สามารถกรองอากาศบริสุทธิ์ ควบคุมผ่านจอระบบสัมผัสแบบใหม่ ซึ่งใช้ควบคุมการหมุนเวียนของอากาศภายในห้องโดยสาร รวมถึงระบบทำความร้อนที่เบาะนั่ง และพวงมาลัย มาพร้อมตัวเลือกอุปกรณ์เสริมคุณภาพเสียงทรงพลังยิ่งขึ้น อย่างระบบเสียงรอบทิศทางคุณภาพสูง Bowers & Wilkins Diamond Surround Sound System ที่ฝังอยู่ในพนักพิงศีรษะ และระบบเสียงแบบ 4D ที่มีฟังค์ชันสั่นตามเสียงเบสส์ในเบาะหน้า
BMW iX ยังมาพร้อมเสียงประกอบการขับขี่ที่ออกแบบมาเป็นพิเศษ เติมเต็มความเร้าใจในการขับขี่ทุกครั้งที่เร่งความเร็ว นอกจากนี้ฟังค์ชัน BMW Iconic Sounds Electric ซึ่งสามารถซื้อได้ผ่าน BMW Shop ยังมาพร้อมตัวเลือกเสียงใหม่ล่าสุดจากนักแต่งเพลงประกอบภาพยนตร์ชื่อดังระดับโลกอย่าง Hans Zimmer
BMW iX xDrive50 Sport ยังมาพร้อมหน้าจอแสดงผล และระบบทำงาน iDrive เจเนอเรชันใหม่ ซึ่งเปิดตัวเป็นครั้งแรกใน BMW iX ต่อยอดการสื่อสารระหว่างผู้ขับขี่ และรถยนต์ ให้เป็นธรรมชาติมากขึ้น ทำงานด้วยระบบปฏิบัติการ BMW Operating System 8 ที่ออกแบบสำหรับทำงานร่วมกับจอระบบสัมผัสแบบโค้ง BMW Curved Display รองรับการโต้ตอบด้วยเสียงกับ BMW Intelligent Personal Assistant ซึ่งได้รับการอัพเกรดจากรุ่นก่อนหน้า โดยจอ BMW Curved Display เป็นกลุ่มจอแสดงผลดิจิทอล ประกอบด้วยจอ Information Display ขนาด 12.3 นิ้ว และจอ Control Display ขนาด 14.9 นิ้ว รวมเข้าด้วยกันภายใต้แผงกระจกชิ้นเดียวที่หันหน้าเข้าหาผู้ขับขี่ ส่วนระบบช่วยเหลือผู้ขับขี่ดิจิทอล มาพร้อมฟีเจอร์ใหม่ และแสดงกราฟิคดีไซจ์นใหม่ขณะสื่อสารกับผู้ใช้งาน ระบบ My Modes ใหม่ ขยายการตั้งค่าต่างๆ ของรถยนต์ให้ครอบคลุมประสบการณ์ขับขี่ทุกรูปแบบ
BMW iX ยังมาพร้อมระบบช่วยเหลือผู้ขับขี่ และนวัตกรรมหลากหลาย เหนือกว่ารถยนต์ทุกรุ่นจาก BMW พร้อมเซนเซอร์เจเนอเรชันใหม่ ซอฟท์แวร์ใหม่ และพแลทฟอร์มในการประมวลผลที่ทรงพลัง ใช้กล้อง 5 ตัว เรดาร์เซนเซอร์อีก 5 ตัว และอุลทราโซนิคเซนเซอร์ 12 ตัว ในการตรวจจับสภาพแวดล้อมรอบคัน ระบบเตือนขณะเปลี่ยนเลน ระบบควบคุมความเร็วอัตโนมัติพร้อมฟังค์ชัน Stop & Go รวมถึงอีก 2 ระบบใหม่ล่าสุด - ระบบเตือนขณะเปิดประตูรถ ในกรณีที่มีจักรยาน หรือคนเดินเท้าอยู่ใกล้ประตูรถ (Exit Warning Function) และระบบ Remote Theft Recorder เสริมการทำงานของระบบที่ติดตั้งมาเป็นมาตรฐาน อย่างระบบช่วยนำรถเข้าที่จอดอัตโนมัติ รุ่น Plus (Parking Assistant Plus) ประกอบด้วย กล้องแสดงภาพรอบทิศทาง(Surround View Camera) แสดงภาพพื้นที่โดยรอบของรถให้เห็นแบบ 3 มิติ ผ่านระบบ Remote 3D
กระบวนการผลิต BMW iX ยังครอบคลุมถึงการใช้ทรัพยากรอย่างมีประสิทธิภาพ โดยใช้อลูมิเนียมที่ผ่านกระบวนการหล่อ และนำกลับมาใช้ใหม่ รวมถึงการนำพลาสติคกลับมาใช้ใหม่ในปริมาณมาก ภายในห้องโดยสาร ประกอบด้วยวัสดุไม้ที่รับรองจาก FSC หนังฟอกด้วยสารสกัดจากใบมะกอก และยังมีส่วนประกอบจากธรรมชาติอื่นๆ อีกมากมาย และยังใช้แหจับปลาที่ผ่านการรีไซเคิลเป็นหนึ่งในวัสดุสำหรับผลิตพรมปูพื้นรถอีกด้วย
ลูกค้าสามารถเลือกสีตัวถังได้ถึง 5 สไตล์ตามความต้องการ ได้แก่ Aventurin Red, Black Sapphire, Mineral White, Phytonic Blue, Sophisto Grey และ Storm Bay
BMW iX3 M Sport ใหม่ ราคาจำหน่าย 3,399,000 บาท (รวมภาษีมูลค่าเพิ่ม แพคเกจบำรุงรักษา BSI Standard นาน 4 ปี ไม่จำกัดระยะทาง)
BMW iX3 M Sport มาพร้อมเอกลักษณ์สุดล้ำ ประสานประสิทธิภาพของมอเตอร์ไฟฟ้าเข้ากับความหนาแน่น และความจุพลังงานไฟฟ้าที่เพิ่มขึ้นของแบทเตอรีแรงดันสูง พร้อมมอเตอร์ไฟฟ้าแผงวงจรไฟฟ้า เทคโนโลยีการชาร์จ และแบทเตอรีแรงดันสูงรุ่นล่าสุดที่ได้รับการยกระดับในด้านสมรรถนะการทำงาน
การใช้พลังงานไฟฟ้า และระยะทางในการขับขี่ อีกทั้งยังเพิ่มความหนาแน่น และศักยภาพของกำลังไฟฟ้า ด้วยการรวมมอเตอร์ไฟฟ้า วงจรอีเลคทรอนิคส์ และระบบเกียร์ ไว้ภายใต้โครงสร้างเดียวกัน เช่นเดียวกับ BMW iX
ระบบขับเคลื่อนรุ่นใหม่ใน BMW iX3 M Sport ส่งพละกำลังสูงสุด 210 กิโลวัตต์/286 แรงม้า และแรงบิดสูงสุด 400 นิวตัน-เมตร ซึ่งโดดเด่นกว่ามอเตอร์ไฟฟ้าในรุ่นอื่นๆ ด้วยความสามารถในการคงแรงบิดได้แม้ระหว่างรอบสูง โลดแล่นจาก 0-100 กม./ชม. ภายใน 6.8 วินาที ทำความเร็วสูงสุด 180 กม./ชม. ขับขี่สนุกอย่างอุ่นใจด้วยระบบป้องกันการลื่นไถลของล้อ (near-actuator wheel slip limitation) ปริมาตรความจุแบทเตอรีเพิ่มขึ้นกว่าเดิมอย่างมากเมื่อเปรียบเทียบกับพื้นที่การติดตั้ง และน้ำหนัก ส่วนความจุพลังงานรวมอยู่ที่ 80 กิโลวัตต์ชั่วโมง โดยสามารถนำมาใช้งานได้สูงสุด 74 กิโลวัตต์ชั่วโมง เพื่อขับเคลื่อนให้ BMW iX3 ขับขี่ได้ไกลถึง 460 กม. ตามมาตรฐาน WLTP และ 470 กม. ตามมาตรฐาน NEDC
เทคโนโลยีระบบชาร์จใหม่ล่าสุดเติมพลังงานสู่แบทเตอรี 400 โวลท์ และแหล่งจ่ายไฟ 12 โวลท์ แก่อุปกรณ์ต่างๆ ในรถ หากใช้ไฟฟ้ากระแสสลับ สามารถชาร์จด้วยระบบไฟแบบ 1 เฟส และ 3 เฟส ได้สูงสุด 11 กิโลวัตต์ และเมื่อชาร์จแบบรวดเร็วด้วยไฟฟ้ากระแสตรง จะรับพลังงานได้สูงสุด 150 กิโลวัตต์ แบทเตอรีแรงดันสูงใน BMW iX3 ยังรองรับการชาร์จจาก 0-80 % ได้ภายใน 34 นาที
BMW iX3 M Sport มาพร้อมระบบการนำพลังงานกลับมาใช้ใหม่แบบแปรผัน (Adaptive recuperation) เพิ่มสมรรถนะ และความสะดวกสบายระหว่างการขับขี่ ระดับการดึงพลังงานจากระบบเบรคกลับมาใช้ใหม่จะแปรผันตามสภาวะถนน ซึ่งอ้างอิงจากข้อมูลในระบบนำทาง และเซนเซอร์ในระบบช่วยเหลือผู้ขับขี่ นอกจากนี้ ผู้ขับขี่สามารถเลือกระดับการนำพลังงานกลับมาใช้ใหม่ได้ตามต้องการ ระหว่างระดับสูง ปานกลาง และต่ำ เมื่อเข้าเกียร์ D และระบบ Recuperation จะทำงานอัตโนมัติในระดับสูงเมื่อเข้าเกียร์ B เพื่อสร้างประสบการณ์ในการขับขี่ยนตรกรรมไฟฟ้าอันเฉพาะตัวของ BMW
แบทเตอรีแรงดันสูงรุ่นล่าสุดนี้ติดตั้งอยู่ใต้ตัวรถ จึงช่วยลดจุดศูนย์ถ่วงลงประมาณ 7.5 ซม. เมื่อเทียบกับ X3 รุ่นอื่นๆ ระบบช่วงล่างแบบ Adaptive ปรับระดับด้วยไฟฟ้าตามสภาพถนน และสภาวะการขับขี่
รูปโฉมภายนอกของ BMW iX3 M Sport ยังคงสัดส่วนที่โฉบเฉี่ยวสไตล์ SAV มาพร้อมความแข็งแกร่งระดับพรีเมียม และความอเนกประสงค์ของตระกูล X โดดเด่นด้วยองค์ประกอบการดีไซจ์นเฉพาะรุ่น อย่างชิ้นส่วนแอโรไดนามิคส์ต่างๆ สอดแทรกด้วยดีไซจ์นที่สื่อถึงความยั่งยืน กระโปรงหน้า และกระจังหน้าทรงไตคู่ขนาดใหญ่ มาในดีไซจ์นปิดทึบ ท้ายรถมาพร้อมการออกแบบเพื่อลดแรงต้านอากาศ
ไฮไลท์ของ BMW iX3 ยังอยู่ที่ความหลากหลายในการใช้งาน มาพร้อมพื้นที่กว้างขวางกว่า X3 รุ่นอื่นๆ เบาะหลังพับได้แบบ 40:20:40 ซึ่งช่วยเพิ่มปริมาตรการบรรจุสัมภาระจาก 510-1,560 ลิตร เสริมความเอกซ์คลูซีฟด้วยระบบเสียง BMW Iconic Sounds Electric ซึ่งมาเป็นมาตรฐาน สร้างทำนองเสียงไม่ซ้ำใครเมื่อสตาร์ท หรือดับเครื่องยนต์ จากผลงานของ Hans Zimmer มาพร้อมล้อ M aerodynamic ขนาด 20 นิ้ว แบบสลับสี ที่เสริมประสิทธิภาพด้านแอโรไดนามิคส์ยิ่งขึ้น ไฟหน้า Adaptive LED เสริมฉนวนกันเสียงที่ประตูหน้า และยังมีอุปกรณ์มาตรฐานเพื่อเสริมความสะดวกสบายแบบพรีเมียมอีกมากมาย ไม่ว่าจะเป็น ระบบปลดลอคประตู Comfort Access เบาะหนัง Vernasca ตอนหน้าดีไซจ์นแบบสปอร์ท จอ BMW Head-Up Display ระบบปรับการทำงานไฟสูงอัตโนมัติ และระบบช่วยนำรถเข้าที่จอดอัตโนมัติ รุ่น Plus พร้อมกล้องแสดงภาพรอบทิศทาง ยกระดับความสะดวกสบาย และความปลอดภัยแบบเอกซ์คลูซีฟยิ่งขึ้น ด้วยระบบ BMW Gesture Control ระบบเสียงรอบทิศทาง Harman Kardon พร้อมด้วยระบบ BMW Live Cockpit Professional และ BMW Intelligent Personal Assistant
BMW iX3 M Sport มาให้เลือกใน 5 สี ได้แก่ Carbon Black, Mineral White, Phytonic Blue, Piemont Red และ Sophisto Grey
อเลกซันเดร์ บาราคา ประธาน บีเอ็มดับเบิลยู กรุ๊ป ประเทศไทย
กฤษฎา อุตตโมทย์ ผู้อำนวยการฝ่ายสื่อสารกิจการองค์กร บีเอ็มดับเบิลยู กรุ๊ป ประเทศไทย