ระเบียงรถใหม่
Volvo Embla รถเอสยูวีไฟฟ้า เรือธงของค่าย

Volvo XC90 เป็นรถ Mid-Size Luxury SUV ที่ผลิต และวางจำหน่ายตั้งแต่ปี 2545 โดยทำตลาดยาวนานถึง 12 ปี ส่วนรุ่นที่ 2 ที่เป็นโฉมปัจจุบันนั้นทำตลาดมาแล้ว 7 ปี และเพิ่ง Facelift ไปเมื่อปี 2562 ที่ผ่านมา โดยในปีหน้า Volvo Cars จะเปิดตัวรถที่คาดว่าจะมาแทน XC90 แต่ใช้พลังงานไฟฟ้าล้วน โดยจะใช้ชื่อว่า Embla และได้ยื่นขอจดชื่อเครื่องหมายการค้ากับ EUIPO (สำนักงานทรัพย์สินทางปัญญาของสหภาพยุโรป) ซึ่งชื่อ Embla มาจากชื่อของผู้หญิงคนแรกบนโลกในตำนานนอร์ส โดยจะเป็นรุ่นแรกของแบรนด์ที่สร้างขึ้นบนพแลทฟอร์ม SPA2 ที่ออกแบบ และสร้างขึ้นสำหรับรถยนต์ไฟฟ้าโดยเฉพาะ ร่วมกับรถ Polestar 3 ที่กำลังจะวางจำหน่าย โดยจะผลิตในโรงงานริดจ์วิลล์ เซาธ์แคโรไลนา ประเทศสหรัฐอเมริกา
Volvo Embla มาพร้อมระบบขับขี่อัตโนมัติระดับ Level 4 Autonomous Driving ที่จะช่วยให้ผู้ขับขี่สามารถปล่อยมือจากพวงมาลัย ทำกิจกรรมอื่นๆ เช่น อ่านหนังสือ ดูสมาร์ทโฟน หรือพักผ่อน เพื่อลดความเหนื่อยล้าจากการเดินทางได้
ด้วยการทำงานของ Volvo Ride Pilot เทคโนโลยีการขับขี่อัตโนมัติแบบใหม่ แต่ในช่วงแรก จะใช้ได้กับถนนหลวงที่ได้รับการอนุญาตเท่านั้น เช่น ทางเชื่อมระหว่างรัฐ ที่เป็นทางไฮเวย์ยาวๆ โดยจะเริ่มในรัฐแคลิฟอร์เนีย เพื่อหาข้อบกพร่องจากการใช้งานจริง
Volvo Embla จะสร้างมาตรฐานใหม่ของความปลอดภัย ซอฟท์แวร์ OTA ถูกร่วมพัฒนาโดย Zenseact ผู้ผลิตซอฟท์แวร์รถไร้คนขับ กับ Luminar และทีมงานในบริษัท Volvo พัฒนาระบบเซนเซอร์อันล้ำสมัย Luminar LiDAR จะมีเรดาร์ 5 ตัว, กล้อง 8 ตัว และ Ultrasonic Sensor 16 ชุด โดยใช้ชิพอันล้ำสมัยจาก Nvidia Drive Orin
LiDAR ย่อมาจาก Light Detection And Raging คือ อุปกรณ์ที่ใช้แสงเพื่อตรวจจับ และคาดคะเนระยะทางของวัตถุ ซึ่งคล้ายกับเรดาร์ แต่ใช้คลื่นแสงแทนคลื่นวิทยุในการตรวจจับวัตถุ ทำให้มีความแม่นยำมากขึ้น Volvo Embla เป็นรถเอสยูวี 3 แถว มีความยาวของตัวรถมากกว่า 5 เมตร ใช้วัสดุน้ำหนักเบา เช่น อลูมิเนียม และคาร์บอนไฟเบอร์ ทำให้น้ำหนักของตัวรถลดลง
ภายในห้องโดยสารมีความทันสมัย ล้ำยุค หน้าจอสัมผัสตรงกลางขนาด 15 นิ้ว นอกจาก Embla Volvo ยังจะมีการเปิดตัวเอสยูวีคูเป ซึ่งอาจใช้ชื่อ XC100 Recharge ตามมาโดยแบทเตอรีได้มีการพัฒนาร่วมกับ Northvolt และรวมเข้ากับพแลทฟอร์มโดยตรง เพื่อเพิ่มความแข็งแกร่งของโครงสร้าง และการกระจายน้ำหนักที่เหมาะสมที่สุด โดยตั้งเป้าที่จะเพิ่มประสิทธิภาพของแบทเตอรีขึ้น 50 % เมื่อเทียบกับแบทเตอรีปัจจุบัน โดยการเพิ่มความหนาแน่นของพลังงานของเซลล์ สามารถวิ่งได้ระยะทาง 1,000 กม./การชาร์จไฟ 1 ครั้ง
Volvo Embla มาพร้อมกับนวัตกรรมโครงสร้างใหม่ชื่อว่า New Mega-Casting โดยมีหลักการว่า โครงสร้างส่วนหนึ่งในรถยนต์ที่จากเดิมต้องมีส่วนประกอบหลายอย่าง กลายมาเป็นการลดชิ้นส่วนให้เหลือน้อยที่สุด โดยมีจุดประสงค์หลักเพื่อลดความซับซ้อนในการประกอบโครงสร้างตัวถัง (คล้ายกับ Tesla Model Y) Volvo จะใช้เทคโนโลยีนี้ในการสร้างโครงสร้างพื้นรถขนาดใหญ่ โดยใช้วัสดุอลูมิเนียม ที่มีจุดยึดมารองรับการติดตั้งชิ้นส่วนต่างๆ ไว้เลย เช่น ลิงค์ต่างๆ ของระบบช่วงล่าง และจุดวางของมอเตอร์ไฟฟ้าที่ติดตั้งมาแบบ Built-in ทำให้ไม่จำเป็นต้องมีซับเฟรม จุดยึดช่วงล่างต่างๆ
โดยทาง Volvo กล่าวว่า ด้วยเทคโนโลยีนี้ จะทำให้ลดชิ้นส่วนไปได้ถึงประมาณ 100 รายการ/รถ 1 คัน ส่งผลให้ตัวรถมีน้ำหนักเบาลง ให้การขับเคลื่อนด้วยไฟฟ้ามีประสิทธิภาพมากขึ้น และยังมีต้นทุนในการผลิตที่ต่ำลงด้วย
นอกจากนี้ ยังช่วยในเรื่องการลดการปล่อยไอเสียระหว่างการผลิต ที่ผ่านมาในอดีต พแลทฟอร์มของรถจะต้องมีการเปลี่ยนเมื่อมีการออกรถรุ่นใหม่ๆ แต่พแลทฟอร์มโครงสร้าง Mega-Casting ใหม่นี้ สามารถใช้ไปได้ต่อ เพราะสามารถปรับเปลี่ยนเพื่อให้เข้ากับรถแต่ละรุ่นได้เลย พร้อมการรองรับเทคโนโลยีใหม่ที่จะใส่เข้าไปกับรถรุ่นใหม่ๆ ด้วย ไม่ว่าจะเป็นจุดยึดของระบบช่วงล่าง ระบบส่งกำลังมอเตอร์ไฟฟ้า และแบทเตอรี
Volvo ได้ตัดสินใจที่จะทำให้สหรัฐอเมริกาเป็นศูนย์กลางการผลิตสำหรับรถยนต์ไฟฟ้าทั้งหมดในอนาคต รวมถึงแบรนด์ Polestar ในสหรัฐอเมริกาด้วย โดยโรงงานของ Volvo ในจีนจะเป็นผู้ผลิตหลักสำหรับตลาดในเอเชีย และออสเตรเลีย โดย Volvo มีแผนจะผลิตรถยนต์ทั้งหมดเป็นพลัก-อิน ไฮบริด ภายในปี 2568 และจะเป็นรถไฟฟ้าล้วน ภายในปี 2573 
บทความแนะนำ

