ระเบียงรถใหม่
Polestar 3 เตรียมผลิตพร้อม New XC90 Electric ที่สหรัฐอเมริกาปลายปีนี้

ค่าย Volvo Cars เป็นผู้ถือหุ้นใหญ่ในแบรนด์ย่อย Polestar ดังนั้นทั้ง Volvo และ Geely Automobile จะได้รับประโยชน์จากเทคโนโลยีระบบขับเคลื่อนไฟฟ้าแบบใหม่ของ Polestar 3 มาสู่แบรนด์ตัวเองอย่างแน่นอน Thomas Ingenlath ซีอีโอของ Polestar กล่าว Polestar 3 SUV ไฟฟ้าแห่งอนาคต มีการออกแบบหรูหราระดับไฮเอนด์ และมีความสปอร์ทลงตัว
Missoni หัวหน้าฝ่ายออกแบบของ Polestar กล่าวว่า รถไฟฟ้า Polestar 3 มีการออกแบบ และการขับที่แตกต่างจากรถไฟฟ้า XC90 รุ่นถัดไป ซึ่งใช้พแลทฟอร์มเดียวกัน โดย Polestar 3 จะเน้นการออกแบบ และการควบ คุมการขับขี่แบบสปอร์ท แต่ New Volvo XC90 นั้น จะให้ความสำคัญกับความสะดวกสบายในสไตล์รถครอบครัว มีเบาะ 3 แถว 7 ที่นั่งขนาดใหญ่ ที่ใช้ระบบขับเคลื่อนไฟฟ้ามากกว่า
Polestar ถูกวางตัวในตลาด Luxury Electric Car เพื่อให้มีความสปอร์ท ล้ำอนาคต และมีพละกำลังการขับเคลื่อนที่มากกว่า แต่ยังคงใช้โทนสีอบอุ่น และสไตล์ตกแต่งห้องโดยสารคล้ายห้องนั่งเล่น เหมือนใน Volvo โดย Polestar 3 จะเป็นคู่แข่งโดยตรงของ Tesla Model X, Audi E-Tron และ Jaguar I-Pace
Polestar 3 ในประเทศจีน ถูกผลิตขึ้นที่โรงงานในเมืองเฉิงตู ทำให้สามารถคุมต้นทุนการผลิตให้ไม่สูงมาก และส่งออกไปยังทวีปยุโรป โดยมีกำลังการผลิต 150,000 คัน/ปี Polestar 3 มีความสูงของตัวรถต่ำกว่ารถเอสยูวีทั่วไป มีเส้นสายที่เฉียบคมจากด้านหน้า ต่อเนื่องไปยังด้านข้าง ไฟหน้ารูปตัว T แนวนอน กันชนแบบสปอร์ทที่เพิ่มความดุดัน แนวหลังคามีความลาดเอียงเล็กน้อยไปทางด้านหลัง โดย Polestar 3 มีค่าแอโรไดนามิคที่เหนือกว่ารถสันดาปภายในที่มีขนาดใกล้เคียงกัน นอกจากการปิดกระจังหน้าที่ไม่ต้องให้ลมผ่านเหมือนรถสันดาป เสา A ที่ลาดเอียงมากกว่า หลังคาต่ำกว่า
Polestar 3 จะแชร์พแลทฟอร์ม SPA2 และแบทเตอรีกับ Volvo New XC90 Electric (Volvo Embla) และอีกหลายรุ่นที่จะทยอยเปิดตัวตามมา ไม่ว่าจะเป็น Series 90 หรือ 60 พแลทฟอร์ม SPA2 มีลักษณะแผ่นสเกท บอร์ดไฟฟ้า ที่มีการติดตั้งแบทเตอรีโดยวางอยู่บนพื้นรถ ช่วยทำให้พื้นของห้องโดยสารมีความเรียบง่าย ต่อการออกแบบพื้นที่ให้กว้างมากกว่าเดิม ทำให้ฐานล้อกว้างมีส่วนยื่น หรือโอเวอร์แฮงค์มีขนาดที่สั้น และพื้นที่ระหว่างเบาะนั่งด้านหน้า ที่มากกว่ารถ SUV ที่ใช้เครื่องยนต์สันดาปที่มีขนาดเท่ากัน ตำแหน่งเบาะนั่ง ที่สูงขึ้นทำให้มีทัศนวิสัยที่ดี แม้จะมีความสูงของรถที่ต่ำกว่า
Polestar 3 ติดตั้งมอเตอร์ไฟฟ้าคู่อัตราเร่ง 0-100 กม./ชม. ภายใน 4 วินาที ชุดแบทเตอรีขนาด 103 กิโลวัตต์ชั่วโมง สามารถวิ่งได้ไกลกว่า 600 กม./ชาร์จ การใช้เครื่องชาร์จ DC 800 โวลท์ จะใช้เวลาประมาณ 20 นาที ในการชาร์จแบทเตอรีให้ไปถึงระดับพลังงานไฟ 80 % ในรถ EV รุ่นใหม่ของ Polestar จะสามารถจ่ายไฟให้แก่เครื่องใช้ในบ้าน และเติมพลังงานไฟฟ้าให้แก่รถ EV คันอื่นได้
Polestar 3 จะมาพร้อมกับเทคโนโลยี ความสะดวกสบาย และคุณสมบัติด้านความปลอดภัยระบบขับอัตโนมัติ "Highway Pilot" SAE ระดับ 3 เป็นระบบขับขี่อัตโนมัติบนทางหลวง จากการทำงานของเซนเซอร์ LiDAR จาก Luminar พลังประมวลผลจาก NVIDIA
ที่ผ่านมา Polestar ประสบความสำเร็จในในการขายรถยนต์กว่า 29,000 คัน ในปี 2564 และได้ตั้งเป้าหมายสำหรับปี 2565 คือ 65,000 คัน แต่ในช่วง 4 เดือนแรกของปี 2565 Polestar ผลิตรถยนต์เพียง 13,600 คัน จากปัญหาการขาดแคลนชิ้นส่วนชิพเซมิคอนดัคเตอร์ และแบทเตอรีทำให้ต้องลดเป้าหมายการขายในปี 2565 ลงเหลือประมาณ 50,000 คัน คาดว่า Polestar 3 จะเปิดตัวปลายปีนี้ และจะวางจำหน่ายในช่วงต้นปี 2566 หลังจาก Polestar 3 แล้ว Polestar 4 จะเปิดตัวตามมา ในช่วงกลางปี 2566 

