ธุรกิจ
Toyota ครบรอบ 60 ปี
ตลอดระยะเวลา 60 ปีที่ผ่านมา Toyota มุ่งมั่นในการดำเนินธุรกิจควบคู่ไปกับการขับเคลื่อนสังคม และเติบโตเคียงข้างคนไทยมาโดยตลอด โดยมีส่วนร่วมในการพัฒนาอุตสาหกรรมยานยนต์ในประเทศไทย มีโรงงานประกอบรถยนต์หลักทั้งสิ้น 3 แห่ง มีกำลังการผลิตมากถึง 770,000 คัน/ปี ผลิตและจำหน่ายรถยนต์ในประเทศสะสมกว่า 7 ล้านคัน ยกระดับสู่การเป็นฐานการผลิตรถยนต์หลักในระดับภูมิภาคเพื่อส่งออกสู่ตลาดโลกกว่า 5 ล้านคัน รวมเป็นยอดผลิตสะสมทั้งสิ้นกว่า 11 ล้านคัน เป็นผู้นำยานยนต์ในด้านการปฏิวัติเทคโนโลยีเพื่อสร้างปรากฏการณ์ใหม่สำหรับตลาดเมืองไทย และเป็นผู้ริ่เริ่มแนะนำเทคโนโลยียานยนต์ที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมสู่ตลาดในประเทศไทย ต่อยอดไปสู่การยกระดับผลิตภัณฑ์และการบริการในหลากหลายรูปแบบ เพื่อตอบสนองต่อความต้องการ และวิถีชีวิตของลูกค้าในปัจจุบัน
นอกจากนี้ Toyota แสดงถึงความมุ่งมั่นในการช่วยยกระดับคุณภาพชีวิตของคนไทย ผ่านโครงการเพื่อสังคมต่างๆ มากมาย ซึ่งถือเป็นความตั้งใจจริงที่ Toyota ต้องการจะส่งมอบความสุข และสร้างความยั่งยืนให้แก่สังคมไทย
ฮาว กวก เทียน ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร Toyota ประจำภูมิภาคเอเชีย Toyota Motor Corporation ประเทศญี่ปุ่น และกรรมการผู้จัดการใหญ่ Toyota Motor Asia Pacific กล่าวว่า ผมขอแสดงความขอบคุณจากใจจริงต่อรัฐบาล และประชาชนชาวไทยที่ได้ส่งเสริม และสนับสนุน Toyota อย่างดีเยี่ยมมาโดยตลอด รวมถึงการที่ประเทศไทย และบุคลากรของประเทศมีความสามารถในการแข่งขันที่โดดเด่น ไม่ว่าจะเป็นในด้านทักษะ คุณภาพ ผลิตภาพ อีกทั้งยังขึ้นชื่อในมิตรไมตรีจิตอันงดงาม การที่อุตสาหกรรมยานยนต์ของประเทศไทยเจริญเติบโตนั้น ส่งผลให้ผลิตภัณฑ์ และบริการของ Toyota ขายดี และได้รับการยอมรับทั้งในระดับภูมิภาค และระดับโลก ส่งผลให้ Toyota เติบโตอย่างต่อเนื่องยาวนานถึง 6 ทศวรรษ จวบจนสามารถจารึกประวัติศาสตร์แห่งความสำเร็จครั้งสำคัญของพวกเราในวันนี้ นี่คือบทพิสูจน์ว่า Toyota มีสายสัมพันธ์อันแข็งแกร่ง และแนบแน่นกับประเทศไทย และด้วยความท้าทายใหม่ที่เรากำลังเผชิญด้านสิ่งแวดล้อม พร้อมแผนการนำเสนอยานยนต์จาก Toyota ที่มีส่วนช่วยลดการปล่อยคาร์บอนไดออกไซด์ต่อจากนี้ ผมมั่นใจว่า บริษัท โตโยต้า มอเตอร์ ประเทศไทย จำกัด จะยังคงเดินหน้าเป็นผู้นำที่มีบทบาทสำคัญ ในประเทศที่สวยงามแห่งนี้ในอีก 60 ปีข้างหน้าอย่างแน่นอน
โนริอากิ ยามาชิตะ กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท โตโยต้า มอเตอร์ ประเทศไทย จำกัด กล่าวว่า ผมต้องขอแสดงความขอบคุณต่อผู้มีส่วนเกี่ยวข้องในทุกภาคส่วนสำหรับการสนับสนุน และมีส่วนช่วยให้ Toyota เติบโตควบคู่ไปกับอุตสาหกรรมยานยนต์ เศรษฐกิจ สิ่งแวดล้อม และสังคมไทยตลอดระยะเวลา 60 ปีที่ผ่านมา ในวาระโอกาสครบรอบ 60 ปีนี้ ถือเป็นการเริ่มก้าวเข้าสู่ยุคใหม่ของ Toyota ในการเป็นองค์กรแห่งการขับเคลื่อนที่ยังคงมุ่งมั่นที่จะส่งมอบความสุขให้แก่คนไทย และเติบโตเคียงคู่ไปกับสังคมไทย ด้วยวิสัยทัศน์ใหม่กับการเป็น "ผู้นำพาการขับเคลื่อนยุคใหม่ เพื่อเสริมสร้างความสุขของผู้คน และความยั่งยืนของสังคม” ภายใต้พันธกิจใหม่ของเรา ได้แก่
1) ส่งมอบการขับเคลื่อนที่ตอบสนองความต้องการของลูกค้าที่หลากหลาย และพร้อมในการเป็นผู้นำด้านยานยนต์ไฟฟ้าในประเทศไทย
2) นำเสนอประสบการณ์การขับเคลื่อนยุคใหม่แบบไร้รอยต่อ โดยร่วมกับพันธมิตรทางธุรกิจเพื่อให้บริการด้านการขับเคลื่อนในทุกรูปแบบ
3) เสริมสร้างสมดุลแห่งความเป็นกลางทางคาร์บอน ผ่านการดำเนินงานในทุกกระบวนการตลอดวงจรชีวิตของผลิตภัณฑ์
4) ดำเนินธุรกิจควบคู่กับการขับเคลื่อนความสุขสู่ผู้คน รวมถึงนำพาสังคมให้บรรลุเป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืน
5) ส่งเสริมการพัฒนาบุคลากรเพื่อเพิ่มความสามารถในการแข่งขันขององค์กรในยุคหน้า ตลอดจนยึดมั่นในการดำเนินธุรกิจอย่างมีจริยธรรมตามหลักธรรมาภิบาลที่ดี
ทั้งนี้ เพื่อบรรลุไปสู่เป้าหมายของพันธกิจใหม่ดังกล่าว หนึ่งในแผนงานที่ Toyota ให้ความสำคัญเป็นอย่างมาก คือ การบรรลุเป้าหมายการสร้างความเป็นกลางทางคาร์บอน ภายในปี 2050 ซึ่งถือเป็นพันธกิจหลักของกลุ่ม Toyota ทั่วโลก และสอดคล้องกับแนวทางของภาครัฐ โดยเฉพาะอย่างยิ่งด้านกลยุทธ์ที่เกี่ยวกับการส่งเสริมการใช้ยานยนต์พลังงานไฟฟ้าในประเทศ โดยได้เริ่มแนะนำรถยนต์ bZ4X ซึ่งถือเป็นรถยนต์พลังงานแบทเตอรีไฟฟ้ารุ่นแรกของ Toyota เข้าสู่ตลาด และยังมีแผนที่จะแนะนำยานยนต์ไฟฟ้าของ Toyota อีกหลากหลายรุ่นต่อไป เพื่อรองรับความต้องการ และการใช้งานที่หลากหลายของลูกค้าชาวไทย รวมถึงการเตรียมความพร้อมในด้านของกระบวนการผลิตด้วยมาตรฐานคุณภาพที่สูงสุด ตลอดจนการประสานความร่วมมือกับองค์กรพันธมิตรที่มีเป้าหมายเดียวกัน ในการศึกษาโครงการต่างๆ ร่วมกัน ทั้งในด้านการสร้างบุคลากรที่มีทักษะความรู้ด้านเทคโนโลยียานยนต์สมัยใหม่ การเตรียมความพร้อมด้านโครงสร้างพื้นฐานที่จำเป็นสำหรับยานยนต์ไฟฟ้า เพื่อเตรียมรองรับการเติบโต และความนิยมที่เพิ่มขึ้นของยานยนต์ไฟฟ้า และผลักดันให้ประเทศไทยเป็นฐานการผลิตหลักสำหรับการประกอบยานยนต์ไฟฟ้าอีกหลากหลายรุ่นต่อไปในอนาคต
สุรภูมิ อุดมวงศ์ รองกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท โตโยต้า มอเตอร์ ประเทศไทย จำกัด กล่าวว่า Toyota มีความมุ่งมั่นที่จะส่งมอบความสุข เพื่อสร้างรอยยิ้มให้แก่คนไทยทุกคน พร้อมขับเคลื่อนสังคมไทย สู่ “ยุคแห่งการพัฒนาอย่างยั่งยืน” เพื่อยกระดับคุณภาพชีวิต พร้อมทั้งเสริมสร้างสิ่งแวดล้อม เศรษฐกิจ และสังคมที่ดี ภายใต้กรอบของเป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืน หรือ "SDGs - Sustainable Development Goal"
ด้านสิ่งแวดล้อม
Toyota ให้ความสำคัญกับการสร้างความเป็นกลางทางคาร์บอน หรือ Carbon Neutrality เพื่อตอบสนองต่อนโยบายการสร้างสังคมคาร์บอนต่ำ เพื่อลดผลกระทบจากภาวะโลกร้อน โดยการที่จะบรรลุถึงเป้าหมายดังกล่าว Toyota ได้มีความพยายามเตรียมความพร้อมในหลากหลายแนวทาง (Multi Pathway) ผ่านการดำเนินงานในรูปแบบต่างๆ พร้อมกับความมุ่งมั่นในการลดการปล่อยคาร์บอน ผ่านการจัดการกระบวนการผลิตตลอดวงจรชีวิตผลิตภัณฑ์เพื่อลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม (Life Cycle Assessment) เริ่มตั้งแต่
• การออกแบบผลิตภัณฑ์โดยคำนึงถึงมลภาวะ เพื่อแก้ปัญหามลพิษทางอากาศ เช่น การใช้พลังงานทางเลือก ไม่ว่าจะเป็น แบทเตอรี หรือไฟฟ้า
• การนำเสนอยานยนต์ไฟฟ้าด้วยระบบส่งกำลังรูปแบบต่างๆ ที่ตอบสนองความต้องการใช้งานในทุกรูปแบบ เพื่อเป็นทางเลือกให้แก่ลูกค้า รองรับการเปลี่ยนผ่านสู่ยุคยานยนต์ไฟฟ้า
• การผลักดันให้ประเทศไทยเป็นฐานการผลิตหลักในภูมิภาค ควบคู่กับการส่งเสริมการใช้ชิ้นส่วนภายในประเทศ ซึ่งสอดคล้องกับนโยบายภาครัฐ โดยคณะกรรมการยานยนต์ไฟฟ้าแห่งชาติ
• การยกระดับการดำเนินงานในสายการผลิตเพื่อบรรลุเป้าหมาย โรงงานที่ปล่อย CO2 เป็นศูนย์ ทั้งการนำพลังงานหมุนเวียนมาใช้ในสายการผลิต การลดการใช้พลังงานในสายการผลิต และการเพิ่มประสิทธิภาพภายใต้ระบบการผลิตแบบ Toyota
• การร่วมกับผู้ผลิตชิ้นส่วน และผู้แทนจำหน่าย ในการจัดการระบบขนส่งอย่างมีประสิทธภาพ เพื่อให้ประหยัดพลังงาน และลดการปล่อยแกสคาร์บอนไดออกไซด์ การร่วมลดการใช้พลังงานในสำนักงาน ตลอดจนมีข้อกำหนดมาตรฐานการดำเนินงานด้านสิ่งแวดล้อมให้แก่คู่ค้าตลอดห่วงโซ่ธุรกิจ
• การขยายความร่วมมือกับพันธมิตรทางธุรกิจในการเตรียมความพร้อมในการกำจัดผลิตภัณฑ์เมื่อหมดอายุการใช้งานอย่างถูกวิธี (3R : Rebuilt, Reuse, Recycle)
• การจัดตั้งศูนย์การเรียนรู้ด้านสิ่งแวดล้อมที่เป็นกลางทางคาร์บอนแห่งแรกนอกโรงงาน "Toyota เมืองสีเขียว อยุธยา" เพื่อเผยแพร่องค์ความรู้ด้านสิ่งแวดล้อม รวมถึงการสร้างจิตสำนึกด้านสิ่งแวดล้อม เพื่อส่งเสริมให้ทุกคนได้มีส่วนร่วมในการลดการปล่อยคาร์บอนอย่างเป็นรูปธรรมผ่านกิจกรรมการให้ความรู้ด้านสิ่งแวดล้อม
• Toyota มีแผนที่จะริเริ่มโครงการ "ชุมชนสิ่งแวดล้อมยั่งยืน เพื่อมุ่งสู่ความเป็นกลางทางคาร์บอน" เพื่อยกระดับจากการสร้างศูนย์การเรียนรู้ ไปสู่การสร้างชุมชนต้นแบบที่จะสร้างจิตสำนึกด้านสิ่งแวดล้อมให้ทุกคนในชุมชนสามารถอยู่ร่วมกับธรรมชาติได้อย่างยั่งยืนต่อไปอีกด้วย โดยตั้งเป้าหมายให้ครอบคลุมพื้นที่ทุกภูมิภาคทั่วประเทศ
• มีการขยายผลของการดำเนินการไปสู่อีกระดับ โดยการประสานความร่วมมือกับพันธมิตรในหลากหลายโครงการ อาทิ โครงการพัฒนาเมืองต้นแบบที่ยั่งยืนปราศจากมลภาวะ ร่วมกับเมืองพัทยา โดย Toyota ได้มีการนำรถยนต์พลังงานสะอาดทุกรูปแบบ ทดลองให้บริการเพื่อตอบสนองการเดินทางที่มีความหลากหลายในเมืองพัทยา และร่วมมือกับพันธมิตรในโครงการพัฒนาระบบโครงสร้างพื้นฐานที่เกี่ยวเนื่อง อาทิ การใช้พลังงานสะอาด หรือระบบเชื่อมต่อการเดินทางที่ทันสมัย เข้ามาใช้ในโครงการ ภายใต้คอนเซพท์ “Modernized and Decarbonized Transportation”
ด้านเศรษฐกิจ
• มีการถ่ายทอดองค์ความรู้การจัดการธุรกิจตามแบบฉบับวิถี Toyota ให้แก่ธุรกิจชุมชนต่างๆ เพื่อส่งเสริมความเป็นอยู่ที่ดี ลดความเหลื่อมล้ำ และเสริมสร้างความเข้มแข็งแก่เศรษฐกิจฐานราก ผ่านการจัดตั้งศูนย์การเรียนรู้ของโครงการ "โตโยต้า ธุรกิจชุมชนพัฒน์" ให้ครอบคลุมพื้นที่ยุทธศาสตร์สำคัญทั่วทุกภูมิภาคของประเทศ
ด้านสังคม
Toyota ยังคงสานต่อการดำเนินกิจกรรมเพื่อพัฒนาความเป็นอยู่ และยกระดับคุณภาพชีวิตของคนไทย ผ่านกิจกรรมเพื่อสังคมในด้านต่างๆ อาทิ
• การยกระดับความปลอดภัยบนท้องถนนของ โครงการ "Toyota ถนนสีขาว" เพื่อสร้างจิตสำนึกของสังคมคนขับรถดี เพิ่มทักษะการขับขี่ที่ปลอดภัย มีการนำระบบการจราจรอัจฉริยะเข้าปรับปรุงโครงสร้างพื้นฐานในระบบการจราจร และมีแผนการลดอุบัติเหตุทางท้องถนน โดยปรับปรุงจุดเสี่ยง จำนวน 60 จุดทั่วประเทศ
• การเพิ่มเงินทุนกว่า 500 ล้านบาท เพื่อยกระดับการดำเนินงานของ "มูลนิธิโตโยต้าฯ" ให้สามารถขยายผลกิจกรรมการพัฒนาคุณภาพชีวิตแก่ผู้ด้อยโอกาสทางสังคม และเด็กผู้ยากไร้ได้อย่างคลอบคลุม ทั้งในด้านการศึกษา ด้านสุขภาพ และอื่นๆ"
นอกจากนี้ การก้าวเข้าสู่ยุคใหม่ในการดำเนินธุรกิจของ Toyota ถือเป็นการเผชิญกับความท้าทายครั้งสำคัญในการปรับเปลี่ยนเป็นองค์กรแห่งการขับเคลื่อน ที่ Toyota มุ่งมั่นที่จะ “ร่วมขับเคลื่อนอนาคต” ด้วยเจตนารมณ์ที่พร้อมรังสรรค์ผลิตภัณฑ์ และบริการที่ดียิ่งขึ้น ตามวิถีแห่งความยั่งยืนเพื่อสอดรับกับความต้องการอันหลากหลายของสังคม เพื่อส่งมอบ “การขับเคลื่อนสำหรับทุกคนโดยไม่ทิ้งใครไว้เบื้องหลัง”
สุรศักดิ์ สุทองวัน รองกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท โตโยต้า มอเตอร์ ประเทศไทย จำกัด กล่าวว่า ตลอดระยะเวลา 60 ปีที่ผ่านมา ที่ Toyota ได้เข้ามาร่วมเป็นส่วนหนึ่งของสังคมไทย กับความมุ่งมั่นที่จะนำเสนอสิ่งที่ดียิ่งกว่าให้แก่ลูกค้าของเรา ด้วยการเน้นในการสร้างยนตรกรรมที่ดียิ่งกว่า (Ever-better-car) ที่เราได้ผลิตรถยนต์ที่เปี่ยมสมรรถนะ มีความทนทาน เชื่อถือได้ และมีคุณภาพดี เพื่อตอบสนองการใช้งานของลูกค้า ด้วยการทุ่มเทในการวิจัย และพัฒนา รวมถึงการทดสอบรถยนต์ เพื่อผลิตรถยนต์ Toyota ที่สามารถวิ่งไปได้ในทุกสภาพถนน และทนทานในทุกสภาพอากาศของเมืองไทย เราไม่ได้หยุดเพียงแค่การพัฒนาผลิตภัณฑ์เท่านั้น หากแต่ยังได้ริเริ่มสร้างความรู้จัก และใส่ใจลูกค้าของเราให้ดียิ่งขึ้น เพื่อสร้างความพึงพอใจสูงสุดให้แก่ลูกค้าอย่างเหนือความคาดหมาย ทำให้เราเป็นบริษัทผู้ผลิตรถยนต์ที่ได้รับการยอมรับ และเป็นที่ชื่นชมจากลูกค้าชาวไทยเสมอมา
"วันนี้เป็นวันพิเศษ ที่เราจะเริ่มอีกพันธกิจใหม่ของเรา นั่นคือ การสร้างประสบการณ์การขับเคลื่อนที่มีชีวิตชีวาอย่างไร้รอยต่อ เพื่อร่วมขับเคลื่อนอนาคตไปด้วยกัน หรือ Move Your World โดยเราจะมุ่งเน้นการให้บริการแห่งการขับเคลื่อน ร่วมกับลูกค้า และพันธมิตรอย่างแนบแน่น ซึ่ง Toyota มุ่งมั่นที่จะมอบผลิตภัณฑ์ที่มีคุณภาพ มาตรฐานสูง เพื่อนำเสนอให้แก่ลูกค้าครบทุกเซกเมนท์ รวมถึงยานยนต์ไฟฟ้าของ Toyota ที่สามารถรองรับความต้องการใช้งานของลูกค้าในทุกรูปแบบ มีผู้แทนจำหน่ายฯ และศูนย์บริการที่ครอบคลุมพื้นที่ทั่วประเทศ มีบริการระบบการเชื่อมต่อที่ครอบคลุมดูแลตลอดทุกการเดินทางของลูกค้า เพื่อสร้างความสุขให้แก่ประสบการณ์การเดินทาง ไลฟ์สไตล์ ครอบครัว และธุรกิจ ด้วย Digital Platform “T-Connect” ตลอดจนเทคโนโลยี Telematics และ Smartphone ที่จะสามารถเปลี่ยนประสบการณ์ของลูกค้าไปตลอดกาล ทั้งประสบการณ์การซื้อรูปแบบใหม่ (New Buying Experience) และประสบการณ์การใช้รูปแบบใหม่ (New Usage Experience) ในรูปแบบของบริการต่างๆ สำหรับลูกค้า Toyota โดยเฉพาะ"
"นอกจากนี้ เพื่อแสดงถึงความมุ่งมั่นของเราในความต้องการเข้าถึง และใกล้ชิดกับลูกค้า Toyota มากยิ่งขึ้น เราจึงได้ทำการแนะนำโครงการใหม่ในรูปแบบของคอมเพลกซ์ นั่นคือ โครงการ Toyota Alive โดยมีแนวคิดเพื่อให้สถานที่แห่งนี้เป็นจุดศูนย์รวมกิจกรรมต่างๆ ทั้งในรูปแบบ Online และ Offline เพื่อสร้างประสบการณ์ และความสัมพันธ์ร่วมกับลูกค้าให้ใกล้ชิดกันมากยิ่งขึ้น มีการนำเสนอเทคโนโลยี และบริการต่างๆ ของ Toyota ได้อย่างครบวงจร นอกจากนี้ ยังเป็นแหล่งวิจัยข้อมูลจากลูกค้า ตลอดจนเป็นสถานที่พบปะผู้คนที่มีแนวคิด และไลฟ์สไตล์ที่หลากหลาย เพื่อร่วมกันขับเคลื่อนอนาคตไปด้วยกัน ถือเป็นไลฟ์สไตล์คอมมูนิที ที่ลูกค้าทั่วไป พันธมิตร นักศึกษา คนรุ่นใหม่ ทุกเพศ ทุกวัย สามารถเข้ามาใช้บริการร่วมกันได้ทุกวัน"
"ในโอกาสครบรอบ 60 ปี Toyota มีแผนแนะนำรถยนต์ "รุ่นพิเศษฉลองครบรอบ 60 ปี" จำหน่ายในจำนวนจำกัด 6,000 คัน รวมถึงมีการจัดเตรียมกิจกรรม และแคมเปญพิเศษต่างๆ มากมาย เพื่อเป็นการร่วมฉลองกับลูกค้า Toyota ทุกคนในโอกาสพิเศษนี้อีกด้วย
ABOUT THE AUTHOR
นุสรา เงินเจริญ
บรรณาธิการข่าวธุรกิจและสังคม รักการอ่าน ขอบงานเขียน ชอบพบปะผู้คน ได้มีโอกาสสัมภาษณ์ผู้บริหารในวงการยานยนต์ไทย ท่องเที่ยว เป็นประสบการณ์ที่ดี พร้อมได้ เปิดโลก ได้พัฒนาตัวในแวดวงสื่อสารมวลชน
ภาพโดย : จินดา ลัยนันท์คอลัมน์ Online : ธุรกิจ (บก. ออนไลน์)