ธุรกิจ
Toyota ประกาศยอดขายตลาดรวมครึ่งปีแรก
โนริอากิ ยามาชิตะ กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท โตโยต้า มอเตอร์ ประเทศไทย จำกัด กล่าวว่า อุตสาหกรรมยานยนต์ของประเทศไทยในช่วงครึ่งปีแรก ยังคงได้รับผลกระทบจากสถานการณ์เศรษฐกิจภายในประเทศที่อยู่ในภาวะฟื้นตัวอย่างค่อยเป็นค่อยไป ท่ามกลางปัญหาการขาดแคลนเซมิคอนดัคเตอร์ ที่ยังคงยืดเยื้อ ส่งผลโดยตรงต่อยอดการผลิต และต้นทุนการผลิตรถยนต์ที่ปรับตัวสูงขึ้นเพื่อจำหน่ายทั้งภายในประเทศ และการส่งออก รวมทั้งแรงกดดันจากภาวะเงินเฟ้อที่ยังปรับตัวสูงขึ้น และทิศทางของอัตราดอกเบี้ยในปีนี้ เป็นปัจจัยที่มีส่วนทำให้กำลังการซื้อของผู้บริโภคยังฟื้นตัวได้อย่างจำกัด ล้วนส่งผลกระทบต่อการดำเนินธุรกิจ และความเชื่อมั่นผู้บริโภคที่มีต่อเศรษฐกิจไทยโดยรวม
อย่างไรก็ดี ยังคงมีปัจจัยบวกจากการที่ภาครัฐเริ่มผ่อนคลายมาตรการลอคดาวน์ และการดำเนินมาตรการส่งเสริมเศรษฐกิจ และการท่องเที่ยวภายในประเทศ รวมถึงสัดส่วนของการฉีดวัคซีนที่เพิ่มสูงขึ้นทั้งในไทย และต่างประเทศ ทำให้ประชาชนสามารถใช้ชีวิต และดำเนินกิจกรรมทางเศรษฐกิจได้เกือบเป็นปกติ ล้วนเป็นส่วนช่วยให้สถานการณ์เศรษฐกิจในประเทศทยอยกลับเข้าสู่ภาวะปกติได้มากยิ่งขึ้น ซึ่งสะท้อนมายังตลาดรถยนต์ด้วยเช่นกัน เห็นได้จากการเพิ่มขึ้นของยอดขายรถยนต์จากงาน บางกอก อินเตอร์เนชั่นแนล มอเตอร์โชว์ ครั้งที่ 43 ที่ผ่านมา ตลอดจนแรงกระตุ้นจูงใจผู้บริโภคด้วยแคมเปญการขายเชิงรุกของบรรดาบริษัทผู้ผลิตรถยนต์ทั้งหลาย ล้วนมีส่วนผลักดันตลาดรถยนต์โดยรวมให้ฟื้นตัวดีขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ ส่งผลให้ตัวเลขยอดขายตลาดรวมในช่วงครึ่งปีแรกอยู่ที่ 427,303 คัน เพิ่มขึ้น 14.5 % จากช่วงเวลาเดียวกันของปีที่แล้ว
“สำหรับผลการดำเนินงานของ Toyota ในช่วงครึ่งแรกของปี 2565 มียอดขายโดยรวมเพิ่มขึ้น 21.2 % หรือคิดเป็นจำนวน 142,032 คัน มีส่วนแบ่งทางการตลาดเป็นอันดับ 1 หรือเท่ากับ 33.2 % ของยอดขายรถยนต์ทั้งหมด ส่วนหนึ่งเป็นผลมาจากการที่เราสามารถกลับมาดำเนินการผลิต และส่งมอบรถให้ลูกค้าได้มากขึ้นภายหลังจากที่ได้มีมาตรการผ่อนคลายการลอคดาวน์ ตลอดจนความต้องการรถยนต์นั่งส่วนบุคคลของลูกค้ามีเพิ่มมากขึ้น และความสำเร็จจากการแนะนำผลิตภัณฑ์ใหม่เมื่อช่วงต้นปีในรุ่น Toyota Veloz ที่มียอดขายเฉลี่ยกว่า 1,000 คัน/เดือน ทำให้ Toyota สามารถครองส่วนแบ่งตลาดอันดับ 1 ได้ทั้งตลาดรถอีโคคาร์ และตลาดรถยนต์นั่งขนาดกลาง”
สำหรับแนวโน้มตลาดรถยนต์ของปี 2565 คาดการณ์ว่า จากมาตรการผ่อนคลาย และการกระตุ้นเศรษฐกิจจากภาครัฐ ส่งผลให้กิจกรรมทางเศรษฐกิจปรับไปในทิศทางที่ดีขึ้น และจะส่งผลบวกต่อทิศทางของตลาดรถยนต์ในปีนี้ ทำให้ความเชื่อมั่นว่า เศรษฐกิจในช่วงครึ่งปีหลังนี้จะสามารถฟื้นตัวไปในทิศทางที่ดีขึ้น ดังนั้นเราจึงคาดการณ์ว่า ยอดขายรถยนต์ในปี 2565 จะอยู่ที่ 880,000 คัน เพิ่มขึ้น 16 % เมื่อเทียบกับปีที่ผ่านมา
ยามาชิตะ กล่าวเพิ่มเติมว่า Toyota เรามีเป้าหมายการขายในปี 2565 อยู่ที่ 290,000 คัน เพิ่มขึ้น 21 % จากปีที่ผ่านมา คิดเป็นส่วนแบ่งตลาดที่ 33 % โดยเราเชื่อมั่นว่า แผนการแนะนำรถยนต์รุ่นใหม่ๆ ในช่วงครึ่งปีหลัง รวมถึงแนวทางในการทำกิจกรรมทางการตลาด และการบริการที่เราพยายามมุ่งเน้นให้สามารถเข้าถึง และใกล้ชิดกับลูกค้า Toyota ได้มากยิ่งขึ้น ตลอดจนความเข้มแข็งของเครือข่ายผู้แทนจำหน่าย Toyota ทั่วประเทศ จะมีส่วนช่วยให้เราได้รับความเชื่อมั่น และการสนับสนุนจากลูกค้าเพื่อบรรลุสู่เป้าหมายของเราได้เป็นผลสำเร็จ
สำหรับปริมาณการส่งออกของ Toyota ในช่วงครึ่งแรกของปี 2565 บริษัทฯ ได้ส่งออกรถยนต์สำเร็จรูปจำนวน 179,730 คัน เพิ่มขึ้น 24.4 % จากช่วงเวลาเดียวกันของปีที่ผ่านมา โดยยอดการผลิตสำหรับการขายภายในประเทศ และการส่งออกมีจำนวนรวมทั้งสิ้น 308,734 คัน เพิ่มขึ้น 19.5 % จากปีที่แล้ว
ทั้งนี้สำหรับเป้าหมายการส่งออกรถยนต์สำเร็จรูปของ Toyota ในปีนี้ คาดการณ์ว่า ปริมาณการส่งออกจะอยู่ที่ 380,000 คัน เพิ่มขึ้น 29.8 % จากปีที่แล้ว จากสัญญาณการฟื้นตัวของเศรษฐกิจประเทศคู่ค้าที่ดีขึ้น ซึ่งสะท้อนให้เห็นจากความต้องการของลูกค้าในต่างประเทศซึ่งมีแนวโน้มเติบโตดีขึ้น ส่งผลให้ปริมาณการผลิตรถยนต์ของ Toyota ในปี 2565 มีแนวโน้มดีกว่าที่คาดการณ์ไว้ก่อนหน้านี้ โดยอยู่ที่ระดับ 659,400 คัน หรือเพิ่มขึ้น 28.3 % จากปีที่แล้ว ซึ่งสอดคล้องกับเป้าหมายการขายของทั้งในประเทศ และส่งออก
ยามาชิตะ ยังได้กล่าวอีกด้วยว่า Toyota ได้มีการประกาศเจตนารมณ์ไปเมื่อช่วงต้นปีที่ผ่านมาว่า ปีนี้ถือเป็นวาระสำคัญที่ Toyota ครบรอบ 60 ปี ของการดำเนินธุรกิจในประเทศไทย โดยเรายังคงมุ่งมั่นที่จะส่งมอบความสุขให้แก่คนไทย และเติบโตเคียงคู่ไปกับสังคมไทย ด้วยวิสัยทัศน์ใหม่กับการเป็น "ผู้นำพาการขับเคลื่อนยุคใหม่ เพื่อเสริมสร้างความสุขของผู้คน และความยั่งยืนของสังคม” โดยในช่วงครึ่งปีแรกที่ผ่านมา เราได้มีการดำเนินงานตามแนวทางพันธกิจใหม่ของเราในรูปแบบต่างๆ เพื่อส่งมอบความสุขให้แก่คนไทย
ในด้านผลิตภัณฑ์ และบริการสำหรับลูกค้า เราได้มีการเปิดตัวโครงการ Toyota Alive ที่เป็นจุดศูนย์รวมประสบการณ์แห่งความสุข ด้วยการนำเสนอเทคโนโลยี และบริการต่างๆ ของ Toyota ได้อย่างครบวงจร เป็นแหล่งรวมกิจกรรมในรูปแบบต่างๆ เพื่อสร้างประสบการณ์ และความสัมพันธ์ร่วมกับลูกค้าให้ใกล้ชิดกันมากยิ่งขึ้น รวมถึงมีการร่วมมือกับหลากหลายพันธมิตรทางธุรกิจเพื่อนำเสนอการให้บริการในรูปแบบต่างๆ แก่ลูกค้า ไม่ว่าจะเป็นการนำเทคโนโลยี Connected มาใช้ผ่าน Digital Platform เพื่อสนับสนุนการให้บริการเกี่ยวกับการเคลื่อนที่ในทุกด้าน ในรูปแบบของ “Mobility as a Service”-MaaS ให้แก่ลูกค้า และนำเสนอเป็นบริการเพื่อมอบประโยชน์สูงสุดให้กับลูกค้าในทุกด้าน อาทิ ความปลอดภัย ประหยัด สะดวกสบาย และตอบสนองรูปแบบการใช้ชีวิตของลูกค้าให้ดียิ่งขึ้น
ในด้านสังคม Toyota มุ่งเน้นการขับเคลื่อนสังคมไทย สู่ “ยุคแห่งการพัฒนาอย่างยั่งยืน” เพื่อพัฒนาความเป็นอยู่ และยกระดับคุณภาพชีวิตของคนไทย พร้อมทั้งเสริมสร้างสิ่งแวดล้อม เศรษฐกิจ และสังคมที่ดี ตลอดจนความพยายามมุ่งสู่เป้าหมายความเป็นกลางทางคาร์บอน (Carbon Neutrality) ซึ่งถือเป็นพันธกิจสำคัญของกลุ่ม Toyota ทั่วโลก ผ่านการดำเนินกิจกรรมในด้านต่างๆ อาทิ เช่น โครงการพัฒนาเมืองต้นแบบที่ยั่งยืนปราศ จากมลภาวะร่วมกับเมืองพัทยา ซึ่ง Toyota ได้มีการนำรถยนต์พลังงานสะอาดทุกรูปแบบไปทดลองให้บริการเพื่อตอบสนองการเดินทางที่มีความหลากหลายแก่ประชาชน และนักท่องเที่ยวในเมืองพัทยา และมีแผนที่จะขยายผลการดำเนินงานเต็มรูปแบบในช่วงปลายปีนี้ รวมทั้งขยายผลการดำเนินงานของโครงการ "โตโยตาธุรกิจชุมชนพัฒน์" ในการเปิดศูนย์การเรียนรู้แห่งที่ 3 ณ จังหวัดเชียงราย เพื่อถ่ายทอดองค์ความรู้ และประสบ การณ์ในการปรับปรุงธุรกิจแก่วิสาหกิจชุมชนในภาคเหนือ นอกจากนี้ยังได้ร่วมมือกับพันธมิตรในการดำเนินโครงการ “การพัฒนาทักษะบุคลากรภายใต้ 12 กลุ่มอุตสาหกรรมเป้าหมาย” ในการพัฒนาความรู้ ทักษะ และศักย ภาพ ให้แก่บรรดาบุคลากรต่างๆ ในเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก (EEC) เพื่อเตรียมความพร้อมในการก้าวสู่อุตสาหกรรมยานยนต์ยุคใหม่ ตลอดจนการกิจกรรมยกระดับความปลอดภัยบนท้องถนนของโครงการ "โตโยตา ถนนสีขาว" กับแผนการลดอุบัติเหตุทางท้องถนน โดยปรับปรุงจุดเสี่ยงจำนวน 60 จุด ทั่วประเทศ เป็นต้น”
ปริมาณการจำหน่ายรถยนต์ เดือนมิถุนายน 2565
1.) ตลาดรถยนต์รวม ปริมาณการขาย 67,952 คัน เพิ่มขึ้น 4.6 %
อันดับที่ 1 Toyota 21,026 คัน ลดลง 5.9 % ส่วนแบ่งตลาด 30.9 %
อันดับที่ 2 Isuzu 20,146 คัน เพิ่มขึ้น 42.9 % ส่วนแบ่งตลาด 29.6 %
อันดับที่ 3 Mitsubishi 4,815 คัน เพิ่มขึ้น 22.1 % ส่วนแบ่งตลาด 7.1 %
2.) ตลาดรถยนต์นั่ง ปริมาณการขาย 19,598 คัน ลดลง 13 %
อันดับที่ 1 Toyota 5,884 คัน เพิ่มขึ้น 8.7 % ส่วนแบ่งตลาด 30.0 %
อันดับที่ 2 Honda 2,518 คัน ลดลง 60.8 % ส่วนแบ่งตลาด 12.8 %
อันดับที่ 3 Mitsubishi 2,068 คัน ลดลง 34.3 % ส่วนแบ่งตลาด 10.6 %
3.) ตลาดรถเพื่อการพาณิชย์ ปริมาณการขาย 48,354 คัน เพิ่มขึ้น 13.9 %
อันดับที่ 1 Isuzu 20,146 คัน เพิ่มขึ้น 42.9 % ส่วนแบ่งตลาด 41.7 %
อันดับที่ 2 Toyota 15,142 คัน ลดลง 10.5 % ส่วนแบ่งตลาด 31.3 %
อันดับที่ 3 Ford 2,756 คัน เพิ่มขึ้น 1.3 % ส่วนแบ่งตลาด 5.7 %
4.) ตลาดรถกระบะขนาด 1 ตัน (Pure Pick Up และรถกระบะดัดแปลง PPV)
ปริมาณการขาย 37,619 คัน เพิ่มขึ้น 13.4 %
อันดับที่ 1 Isuzu 18,640 คัน เพิ่มขึ้น 48.4 % ส่วนแบ่งตลาด 49.5 %
อันดับที่ 2 Toyota 12,629 คัน ลดลง 12.7 % ส่วนแบ่งตลาด 33.6 %
อันดับที่ 3 Ford 2,756 คัน เพิ่มขึ้น 1.3 % ส่วนแบ่งตลาด 7.3 %
ปริมาณการขายรถกระบะดัดแปลง ในตลาดรถกระบะขนาด 1 ตัน: 4,186 คัน
Isuzu 1,564 คัน-Toyota 1,454 คัน-Mitsubishi 671 คัน-Ford 396 คัน-Nissan 101 คัน
5.) ตลาดรถกระบะ Pure Pick up ปริมาณการขาย 33,433 คัน เพิ่มขึ้น 13.9%
อันดับที่ 1 Isuzu 17,076 คัน เพิ่มขึ้น 49.5 % ส่วนแบ่งตลาด 51.1 %
อันดับที่ 2 Toyota 11,175 คัน ลดลง 12.0 % ส่วนแบ่งตลาด 33.4 %
อันดับที่ 3 Ford 2,360 คัน เพิ่มขึ้น 1.3 % ส่วนแบ่งตลาด 7.1 %
สถิติการจำหน่ายรถยนต์ เดือนมกราคม-มิถุนายน 2565
1.) ตลาดรถยนต์รวม ปริมาณการขาย 427,303 คัน เพิ่มขึ้น 14.5 %
อันดับที่ 1 Isuzu 109,889 คัน เพิ่มขึ้น 18.0 % ส่วนแบ่งตลาด 25.7 %
อันดับที่ 2 Honda 40,161 คัน ลดลง 6.0 % ส่วนแบ่งตลาด 9.4 %
2.) ตลาดรถยนต์นั่ง ปริมาณการขาย 135,900 คัน เพิ่มขึ้น 12.9 %
อันดับที่ 1 Toyota 38,894 คัน เพิ่มขึ้น 30.9 % ส่วนแบ่งตลาด 28.6 %
อันดับที่ 2 Honda 29,574 คัน ลดลง 19.2 % ส่วนแบ่งตลาด 21.8 %
อันดับที่ 3 Mazda 12,111 คัน เพิ่มขึ้น 11.2 % ส่วนแบ่งตลาด 8.9 %
3.) ตลาดรถเพื่อการพาณิชย์ ปริมาณการขาย 291,403 คัน เพิ่มขึ้น 15.3 %
อันดับที่ 1 Isuzu 109,889 คัน เพิ่มขึ้น 18.0 % ส่วนแบ่งตลาด 37.7 %
อันดับที่ 2 Toyota 103,138 คัน เพิ่มขึ้น 17.9 % ส่วนแบ่งตลาด 35.4 %
อันดับที่ 3 Mitsubishi 16,292 คัน เพิ่มขึ้น 11.8 % ส่วนแบ่งตลาด 5.6 %
4.) ตลาดรถกระบะขนาด 1 ตัน (Pure Pick Up และรถกระบะดัดแปลง PPV)
ปริมาณการขาย 227,842 คัน เพิ่มขึ้น 15.7 %
อันดับที่ 1 Isuzu 101,439 คัน เพิ่มขึ้น 19.3 % ส่วนแบ่งตลาด 44.5 %
อันดับที่ 2 Toyota 89,232 คัน เพิ่มขึ้น 20.4 % ส่วนแบ่งตลาด 39.2 %
อันดับที่ 3 Mitsubishi 16,168 คัน เพิ่มขึ้น 13.7 % ส่วนแบ่งตลาด 7.1 %
ปริมาณการขายรถกระบะดัดแปลง ในตลาดรถกระบะขนาด 1 ตัน : 29,586 คัน
Toyota 13,466 คัน-Isuzu 9,095 คัน-Mitsubishi 4,154 คัน-Ford 2,246 คัน-Nissan 625 คัน
5.) ตลาดรถกระบะ Pure Pick Up ปริมาณการขาย 198,256 คัน เพิ่มขึ้น 17.3 %
อันดับที่ 1 Isuzu 92,344 คัน เพิ่มขึ้น 22.1 % ส่วนแบ่งตลาด 46.6 %
อันดับที่ 2 Toyota 75,766 คัน เพิ่มขึ้น 22.5 % ส่วนแบ่งตลาด 38.2 %
อันดับที่ 3 Ford 12,655 คัน ลดลง 8.0 % ส่วนแบ่งตลาด 6.4 %
สถิติการขายรถยนต์ในประเทศ มค.-มิย. 2565 | ยอดขายปี 2565 | เปลี่ยนแปลง เทียบกับปี 2564 |
|
427,303 คัน | +14.5 % |
|
135,900 คัน | +12.9 % |
|
291,403 คัน | +15.3 % |
|
227,842 คัน | +15.7 % |
|
198,256 คัน | +17.3 % |
สถิติการขายรถยนต์ของ Toyota มค.-มิย. 2565 | ยอดขายปี 2565 | เปลี่ยนแปลง เทียบกับปี 2564 | ส่วนแบ่งตลาด |
|
142,032 คัน | +21.2 % | 33.2 % |
|
38,894 คัน | +30.9 % | 28.6 % |
|
103,138 คัน | +17.9 % | 35.4 % |
|
89,232 คัน | +20.4 % | 39.2 % |
|
75,766 คัน | +22.5 % | 38.2 % |
ประมาณการยอดขายรถยนต์ในประเทศปี 2565 | ยอดขาย ประมาณการปี 2565 | เปลี่ยนแปลง เทียบกับปี 2564 |
|
880,000 คัน | +16 % |
|
290,500 คัน | +15 % |
|
589,500 คัน | +16 % |
ประมาณการขายรถยนต์ของ Toyota ในปี 2565 | ยอดขาย ประมาณการปี 2565 | เปลี่ยนแปลง เทียบกับปี 2564 | ส่วนแบ่งตลาด |
|
290,000 คัน | +21 % | 33.0 % |
|
82,000 คัน | +31 % | 28.2 % |
|
208,000 คัน | +17 % | 35.3 % |
|
179,700 คัน | +19 % | 38.8 % |
|
152,200 คัน | +18 % | 38.5 % |
ปริมาณการส่งออกรถยนต์สำเร็จรูป และการผลิตของ Toyota มค.-มิย. ปี 2565 | ปริมาณปี 2565 | เปลี่ยนแปลง เทียบกับปี 2564 |
|
179,730 คัน | +24.4 % |
|
308,734 คัน | +19.5 % |
เป้าหมายการส่งออกรถยนต์สำเร็จรูป และการผลิตของ Toyota ปี 2565 | ปริมาณปี 2565 | เปลี่ยนแปลง เทียบกับปี 2564 |
|
380,000 คัน | +29.8 % |
|
659,400 คัน | +28.3 % |
ABOUT THE AUTHOR
นุสรา เงินเจริญ
บรรณาธิการข่าวธุรกิจและสังคม รักการอ่าน ขอบงานเขียน ชอบพบปะผู้คน ได้มีโอกาสสัมภาษณ์ผู้บริหารในวงการยานยนต์ไทย ท่องเที่ยว เป็นประสบการณ์ที่ดี พร้อมได้ เปิดโลก ได้พัฒนาตัวในแวดวงสื่อสารมวลชน
ภาพโดย : บริษัทผู้ผลิตคอลัมน์ Online : ธุรกิจ (บก. ออนไลน์)