ธุรกิจ
แทกซีเฮ กระทรวงคมนาคมเตรียมปรับอัตราค่าโดยสาร

TDRI ศึกษาแล้วพบว่า ประชาชนเดินทางด้วยระยะทางที่สั้นลง เที่ยววิ่งในการให้บริการเดินรถน้อยลง ส่งผลให้ต้นทุนการเดินรถสูงขึ้น รายได้ของผู้ขับรถแทกซี จึงลดน้อยลง เป็นผลให้จำนวนผู้ให้บริการรถแทกซีลดน้อยลง โดยมีรถแทกซีที่ให้บริการจริงประมาณ 60,000 คัน/วัน จากจำนวนรถทั้งสิ้น 80,000 คัน หรือคิดเป็นร้อยละ 75 ของรถแทกซีทั้งหมด ซึ่งรายได้ของผู้ขับรถแทกซีมีทิศทางสวนทางกับค่าครองชีพในปัจจุบัน เมื่อเปรียบเทียบค่าครองชีพที่เพิ่มขึ้นระหว่างปี 2557 - 2565 พบว่ามีอัตราเพิ่มสูงขึ้นประมาณร้อยละ 7 คณะทำงานฯ จึงได้มอบหมายให้กรมการขนส่งทางบก นำข้อมูลการศึกษาของ TDRI และข้อเรียกร้องของผู้ขับรถแทกซี มาเปิดรับฟังความคิดเห็นของหน่วยงานต่างๆ ที่เกี่ยวข้อง ได้แก่ มูลนิธิคุ้มครองผู้บริโภค สำนักงานสภาองค์กรของผู้บริโภค สำนักงานคณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภค สำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ สำนักงานผู้ตรวจการแผ่นดิน TDRI และภาคประชาชน รวมถึงรับฟังความคิดเห็นในภาพรวมทาง Facebook ของกรมการขนส่งทางบก ซึ่งส่วนใหญ่เห็นด้วยกับการปรับอัตราค่าโดยสารให้สอดคล้องกับอัตราค่าครองชีพที่เปลี่ยนแปลง โดยขอให้กระทรวงคมนาคม และกรมการขนส่งทางบกพิจารณาอัตราค่าโดยสารที่สมดุลระหว่างข้อเสนอของผู้ขับรถแทกซีที่เสนอสูงเกินไปกับผลกระทบที่จะเกิดขึ้นกับประชาชน รวมทั้งต้องการให้รัฐควบคุมคุณภาพการให้บริการของกลุ่มรถแทกซีให้มีประสิทธิภาพ ตอบสนองความต้องการของประชาชนเป็นหลัก โดยขณะนี้คณะทำงานยังอยู่ระหว่างการพิจารณาการปรับขึ้นอัตราค่าบริการให้สอดคล้องตามความเห็นของทุกภาคส่วน โดยยืนยันจะมิให้มีผลกระทบต่อภาระค่าใช้จ่ายของประชาชนที่เกินกว่าดัชนีผู้บริโภคที่เพิ่มสูงขึ้น และเป็นธรรมกับทุกฝ่าย อีกทั้งจะต้องปรับปรุงคุณภาพการให้บริการด้วย
จิรุตม์ วิศาลจิตร อธิบดีกรมการขนส่งทางบก กล่าวเพิ่มเติมว่า หากมีการพิจารณาปรับอัตราค่าโดยสารผู้ขับรถแทกซีต้องพัฒนาคุณภาพในการให้บริการประชาชน โดยไม่ปฏิเสธผู้โดยสาร และกรมการขนส่งทางบกจะนำระบบตัดแต้มรถโดยสารสาธารณะมาใช้กำกับ ควบคุมคุณภาพการให้บริการอย่างเข้มงวด
อย่างไรก็ตาม ในระหว่างการพิจารณาคณะทำงานฯ หากประชาชนมีข้อเสนอแนะเพิ่มเติม สามารถแสดงความคิดเห็นผ่านทางระบบ Google Form ผ่านช่องทาง Facebook กรมการขนส่งทางบก PR.DLT.News 

