ธุรกิจ
Triumph เปิดตัว Tiger 1200
ไทรอัมพ์ มอเตอร์ไซเคิลส์ฯ เปิดตัวที่สุดแห่งสมรรถนะขั้นสุด Tiger 1200 Rally Pro และ Tiger 1200 Rally Explorer รถจักรยาน ยนต์ตระกูลแอดเวนเจอร์ 2 รุ่นทอพโฉมใหม่ล่าสุด
จิราพร สำเร็จกิจเจริญ ผู้จัดการฝ่ายการตลาด บริษัท ไทรอัมพ์ มอเตอร์ไซเคิลส์ (ไทยแลนด์) จำกัด กล่าวว่า ในช่วงไตรมาสสุดท้ายของปี 2565 ไทรอัมพ์ มอเตอร์ไซเคิลส์ฯ เปิดตัวรถจักรยานยนต์ตระกูลแอดเวนเจอร์ 2 รุ่นใหม่ล่าสุดที่จะมาเสริมทัพความแข็งแกร่งให้แก่แบรนด์ ได้แก่ Tiger 1200 Rally Pro และ Tiger 1200 Rally Explorer รถจักรยานยนต์แอดเวนเจอร์รุ่นทอพ ที่รวมความเป็นที่สุดในทุกด้าน มาพร้อมกับความพิเศษใหม่ที่มีความโดดเด่น ทั้งด้านน้ำหนักของตัวรถที่คล่องตัวขึ้น สมรรถนะ ขีดความสามารถ คุณสมบัติจำเพาะ และที่สำคัญยังคงความเป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัวกับเครื่องยนต์ 3 สูบอันทรงพลัง ตอบโจทย์ผู้ขับขี่ที่กำลังมองหารถจักรยานยนต์สไตล์แอดเวนเจอร์เพื่อเติมเต็มประสบการณ์การขับขี่ให้เร้าใจ และสนุกมากยิ่งขึ้น
นอกจากนี้ Triumph ยังได้จัดกิจกรรมส่งเสริมการตลาดเพื่อกระตุ้นยอดขายผ่านโปรโมชัน และข้อเสนอทางการเงิน รวมถึงการจัดกิจกรรมต่างๆ ให้แก่ลูกค้า ตอกย้ำภาพการเป็นแบรนด์ผู้ผลิตรถจักรยานยนต์ชั้นนำสัญชาติอังกฤษที่มีผลิตภัณฑ์ และบริการครอบ คลุมทุกไลฟ์สไตล์การขับขี่ระดับพรีเมียมที่ทุกคนสามารถสัมผัส และเข้าถึงได้ โดยคาดว่าทั้ง 2 รุ่นทอพนี้ จะเข้ามาสร้างปรากฏ การณ์ใหม่ให้แก่ตลาดรถจักรยานยนต์แอดเวนเจอร์พรีเมียมในไทย ซึ่งหลังจากเปิดตัวอย่างเป็นทางการ Triumph มั่นใจว่าจะสามารถชิงส่วนแบ่งการตลาดสำหรับรถจักรยานยนต์ในเซกเมนท์นี้ได้อย่างแน่นอน
สำหรับรถจักรยานยนต์ Triumph Tiger 1200 Rally Pro และ Tiger 1200 Rally Explorer ได้สร้างมาตรฐานใหม่ให้แก่วงการรถจักรยานยนต์แอดเวนเจอร์ โดยได้รับการพัฒนา และปรับแต่งมาเพื่อให้เหมาะกับการขับขี่แนวผจญภัยรองรับทุกความท้าทาย ครอบ คลุมทุกองค์ประกอบ โดยเฉพาะการเพิ่มประสิทธิภาพของเครื่องยนต์ที่ให้การตอบสนองต่อการขับขี่ได้ดียิ่งขึ้นอย่างเห็นได้ชัด ด้วยเครื่องยนต์ 3 สูบ ขนาด 1,160 ซีซี ให้พละกำลังสูงสุด 150 แรงม้า ที่ 9,000 รตน. และแรงบิดมากขึ้นถึง 13.3 กก.-ม. หรือ 130 นิวตัน-เมตร ที่ 7,000 รตน. นอกเหนือจากกำลัง และแรงบิดที่เพิ่มขึ้นแล้ว เครื่องยนต์ยังได้ปรับแต่งเพลาข้อเหวี่ยงแบบ T-Plane ใหม่ ช่วยเพิ่มอัตราเร่ง รวมถึงกระบอกสูบ และระยะชัก ฝาสูบ กระปุกเกียร์ คลัทช์ ตลอดจนเพลาขับ และเฟืองบีเวลแบบใหม่ทั้งหมด
นอกจากนี้ Tiger 1200 ทั้ง 2 รุ่น ยังมาพร้อมกับท่อเก็บเสียงแบบมีนีมอลน้ำหนักเบาแบบใหม่ทำให้เครื่องยนต์ส่งมอบเสียงที่นุ่มนวลขึ้นกว่าเดิม ที่สำคัญ ไฮไลท์ คือ รูปลักษณ์ที่ออกแบบมาให้มีความเพรียวบางคล่องตัวขึ้นด้วยน้ำหนักที่เบากว่ารุ่นก่อนถึง 25 กก. เฟรมน้ำหนักเบาแบบใหม่ พร้อมซับเฟรมหลัง และชุดพักเท้าอลูมิเนียมที่ยึดด้วยสกรู สวิงอาร์มแบบ "Tri-Link" แบบใหม่ที่เบาขึ้นและแข็งแกร่งขึ้น พร้อมตอบสนองความต้องการในการขับขี่ระยะทางไกล และการขี่แบบออฟโรดขั้นสูงด้วยเบรค Brembo Style ma ระบบเบรค ABS ขณะเข้าโค้ง พร้อมระบบ IMU และระบบกันสะเทือนแบบ Semi-Active ที่ล้ำสมัยของ Showa เพื่อสมรรถนะสูงสุดของการขับขี่ รวมถึงล้อซี่ลวดแบบ Tubeless ขนาด 21 และ 18 นิ้ว พร้อมยาง Metzeler Karoo Street เพื่อการขับขี่บนทุกสภาพถนน และยาง Michelin Anakee Wild เป็นอีกตัวเลือกที่แนะนำสำหรับการขี่แบบออฟโรด
อีกทั้งเบาะนั่งที่ปรับตำแหน่งได้พร้อมตัวถังแบบใหม่ที่ออกแบบตามหลักสรีรศาสตร์ เพื่อการทรงตัวที่ยอดเยี่ยมและให้ความรู้สึกถึงความสบายขณะขับขี่ และยังมีกระจกบังลมแบบใหม่ที่ปรับได้ง่ายพร้อมกลไกที่ปรับได้ด้วยมือเดียวขณะขับขี่ ด้านความสูงของเบาะนั่งอยู่ที่ 875 และ 895 มม. โดยลูกค้าสามารถลดตำแหน่งเบาะนั่งได้อีก 20 มม. ด้วยการติดตั้งอุปกรณ์เสริมเบาะนั่งแบบ Low Seat ตลอดจนด้านความจุถังน้ำมันขนาดใหญ่ โดย Tiger 1200 Rally Pro มาพร้อมถังน้ำมันขนาด 20 ลิตร และ Tiger 1200 Rally Ex plorer มาพร้อมถังน้ำมันขนาด 30 ลิตร
สำหรับอีกไฮไลท์ของ Tiger 1200 มาพร้อมกับเทคโนโลยีครบวงจรที่พัฒนาขึ้นใหม่ทั้งหมดในการกำหนดคุณสมบัติขั้นสูงของอุป กรณ์มาตรฐานที่ออกแบบมาเพื่อยกระดับการขับขี่ ความปลอดภัย ความสะดวกสบาย และการควบคุมรถ ประกอบด้วย แผงหน้าปัด TFT ขนาด 7 นิ้ว แบบใหม่ พร้อมระบบเชื่อมต่อ My Triumph Connectivity ที่ติดตั้งมาเป็นอุปกรณ์มาตรฐาน ซึ่งสามารถเข้าถึงระ บบนำทางแบบ Turn-by-Turn การควบคุมกล้อง GoPro รวมถึงสามารถใช้งานโทรศัพท์ และเล่นเพลงได้ และโหมดการขับขี่สูงสุดถึง 6 โหมด ได้แก่ Road, Rain, Sport, Rider-Configurable, Off-Road และ Off-Road Pro โดยการทำงานของเครื่องยนต์ควบ คุมด้วยระบบไร้กุญแจที่พัฒนาขึ้นใหม่ทั้งหมด ทั้งการสตาร์ทรถ ลอคพวงมาลัย และเปิดฝาถังน้ำมัน ในส่วนของระบบไฟมีการออก แบบไฟ LED แบบใหม่ พร้อมไฟ DRL และไฟหน้าปรับทิศทางตามการเข้าโค้ง (Adaptive Cornering Lights) รวมถึงระบบช่วยเปลี่ยนเกียร์แบบไม่ใช้คลัทช์ (Triumph Shift Assist) ระบบช่วยออกตัวบนทางลาดชัน และเบาะนั่งปรับอุณหภูมิสำหรับผู้ขับขี่ และผู้โดยสาร นอกจากนี้ยังมี Tire Pressure Monitoring System หรือระบบตรวจวัดแรงดันลมยาง (TPMS) ที่ช่วยตรวจสอบแรงดันลมยางเพื่อความปลอดภัยสูงสุดของผู้ขับขี่
ทั้งยังมีฟังค์ชันที่เพิ่มความสะดวกสบายด้วยปลอกแฮนด์แบบปรับความร้อนได้ ที่เก็บสัมภาระใต้ที่นั่งพร้อมช่องชาร์จไฟผ่านพอร์ท USB รวมถึงสวิทช์คิวบ์แบบมีไฟส่องสว่างที่แฮนด์บาร์ และจอยสติคควบคุม 5 ทิศทาง เพิ่มความพรีเมียมขึ้นอีกระดับ และช่วยเหลือผู้ขับขี่ในยามค่ำคืน พร้อมกันนี้ยังมีระบบควบคุมความเร็วคงที่อีเลคทรอนิคส์แบบปรับได้ และขาตั้งกลางที่ติดตั้งเป็นอุปกรณ์มาตร ฐานมาให้อีกด้วย
ในขณะที่รุ่น Tiger 1200 Rally Explorer มาพร้อมอุปกรณ์มาตรฐานที่มีความพิเศษเพิ่มเติมจากรุ่นอื่นๆ อาทิ เทคโนโลยีเรดาร์จุดอับสายตา (Triumph Blind Spot Radar) ระบบช่วยเหลือขณะเปลี่ยนเลน (Lane Change Assist) ซึ่งจะแจ้งเตือนได้แม่นยำยิ่งขึ้นหากผู้ขับขี่กำลังจะเปลี่ยนเลน และมีรถกำลังเข้ามาใกล้ เป็นต้น
นอกจากนี้สำหรับผู้ที่ชื่นชอบการคัสตอมยังสามารถเพิ่มเติมสมรรถนะของรถจักรยานยนต์ทั้ง 2 รุ่นให้ตรงกับไลฟ์สไตล์ผู้ขับขี่มากยิ่งขึ้นด้วยอุปกรณ์เสริมแท้มีให้เลือกมากกว่า 50 รายการ ที่จะช่วยเพิ่มขีดความสามารถ ความสะดวกสบาย สไตล์ และการปกป้องของรถจักรยานยนต์ เพื่อยกระดับประสบการณ์การผจญภัยของผู้ขับขี่ โดยทั้ง 2 รุ่นมาพร้อมความสุดพิเศษกับการรับประกันคุณภาพ Triumph Warranty 3 ปีแบบไม่จำกัดระยะทาง รวมถึงความคุ้มค่าของช่วงเวลาการเข้ารับบริการเชคระยะที่สูงถึง 16,000 กม. หรือ 12 เดือน ตลอดจนฟรี บริการช่วยเหลือฉุกเฉินบนท้องถนนตลอด 24 ชม. (Triumph Roadside Assistance) เป็นระยะเวลา 2 ปี
ทั้งนี้รถจักรยานยนต์ Tiger 1200 Rally Pro ราคาจำหน่ายอย่างเป็นทางการ 972,000 บาท และ Tiger 1200 Rally Explorer รา คาจำหน่ายอย่างเป็นทางการ 1,039,000 บาท โดยมีให้เลือกถึง 3 โทนสี ได้แก่ สี Snowdonia White สี Sapphire Black และสี Matt Khaki พร้อมรับรถได้ทันทีไม่ต้องรอที่โชว์รูม Triumph ทั้ง 13 แห่งทั่วประเทศ และพิเศษสุดๆ ! สำหรับลูกค้าที่จองรถจักร ยานยนต์ทั้ง 2 รุ่น 30 ท่านแรก ตั้งแต่วันนี้-6 พฤศจิกายน 2565 เท่านั้น รับฟรีทันที Pannier Set และ Top Box Set พร้อมอุปกรณ์ติดตั้ง และชุดเบาะ Low Seat มูลค่ารวมกว่า 92,000 บาท
นอกจากนี้ผู้ที่ต้องการพิสูจน์ความเร้าใจแห่งขุมพลังของตระกูล Tiger Triumph เตรียมจัดกิจกรรมสุดเอกซ์คลูซีฟ Tiger 1200 Weekend Test Ride ชวนไรเดอร์สายลุยให้ได้ยลโฉม และมาสัมผัสสมรรถนะเพื่อทดลองขับขี่ 2 พี่เสือรุ่นใหญ่ก่อนใคร ซึ่งมีกำ หนดจัดขึ้นระหว่างวันที่ 29-30 ตุลาคม 2565 ณ สนาม Rucker Park ถนนสุวินทวงศ์ กรุงเทพฯ อีกด้วย
เรื่องโดย : นุสรา เงินเจริญ
ภาพโดย : เกรียงศักดิ์ ปันสม
คอลัมน์ Online : ธุรกิจ (บก. ออนไลน์)
ลิงค์สำหรับแชร์ : https://autoinfo.co.th/online/425997