ระเบียงรถใหม่
ส่องรถเด่น Tokyo Auto Salon 2023 คึกคักจนล้นฮอลล์ (ภาค1)
เริ่มแล้ว ! Tokyo Auto Salon 2023 งานแสดงรถยนต์สมรรถนะสูง ที่เน้นรถตกแต่งพิเศษเป็นหลัก ที่รวบรวมจากสำนักแต่งชื่อดังมากมาย โดยปีนี้ยังจัดขึ้นที่ Makuhari Messe ณ กรุงโตเกียว ประเทศญี่ปุ่น เหมือนเดิม ตั้งแต่วันที่ 14 มค. 2566 ถึง 16 มค. 2566 ซึ่งนับเป็นครั้งที่ 41 แล้ว แต่ยังคงได้รับความสนใจอย่างล้นหลามทั้งจากผู้เข้าชม และผู้สื่อข่าว เนื่องจากมีการปรับรูปแบบที่มุ่งเน้นให้ผู้ชมมีส่วนร่วมมากขึ้น ไม่เน้นงานขาย ทำให้เกิดความหลากหลายของรถที่นำมาจัดแสดง รวมถึงอุปกรณ์ตกแต่งรถที่สามารถเข้าถึงได้มากขึ้น จึงทำให้ Tokyo Auto Salon ได้รับความนิยมจากคนรักรถทุกมุมโลก
Tokyo Auto Salon 2023 ปีนี้ เริ่มมีความเคลื่อนไหวของรถพลังงานทางเลือกที่เยอะขึ้น มีการนำรถพลังงานทางเลือกมาใช้กับการแต่งรถ ทั้งรถไฮบริด HํYBRID ที่ใช้พลังงานเครื่องยนต์และจากไฟฟ้า และรถที่ใช้พลังงานเครื่องยนต์กับเชื้อเพลิงไฮโดรเจน (HEV), รถปลั๊กอินไฮบริด (PHEV) และรถไฟฟ้า (BEV)
ในส่วนของบูธจากค่ายรถยนต์อย่างเป็นทางการ เน้นรถการตกแต่งที่ต่างกันไป ไม่ได้เน้นเปิดตัวรถรุ่นใหม่แต่อย่างใด ส่วนใหญ่ถูกนำมาตกแต่งให้มีความแตกต่างจากเดิม หลายค่ายเสริมทัพด้วยรถแข่งตัวเก่งในรายการ ซูเพอร์ จีที ที่ Honda สร้างเซอร์ไพรส์ด้วยการนำ Civic Type R มาทำเป็นรถซูเพอร์ จีที 500 รวมถึงค่ายยักษ์ใหญ่อย่าง Toyota ที่ปีนี้มาในคอนเซพท์ GR SPORT แต่ก็มี Toyota AE86 มาจับใส่มอเตอร์ไฟฟ้า และพลังงานไฮโดรเจนด้วย
Honda
เริ่มต้นที่ค่าย Honda ปีนี้สร้างความฮือหาให้แฟนๆ ไปไม่น้อย ด้วยการเปิดตัว Civic Type R แต่มาในรูปของรถแข่ง ซูเพอร์ จีที 500 ซึ่งถือเป็นครั้งแรกของ Honda ที่จับเจ้า Civic มาทำเป็นรถแข่ง จีที 500 ต้องบอกเลยว่าเซอร์ไพรส์มากๆ
จากรูปจะเห็นว่ามีการสร้างเฟรมขนาดใหญ่ขึ้นมาใหม่ ตั้งแต่กันชนด้านหน้าขนาดใหญ่ มีช่องระบายอากาศหลายช่อง แต่ยังคงรูปแบบของกระจังหน้า และโลโกหน้าสีแดง รวมถึง ไฟหน้าเหมือนเดิม ซึ่งสัญลักษณ์ความเป็น Civic Type R
โปร่งล้อขนาดใหญ่ทั้งหน้าและหลัง บ่งบอกความเป็นรถตัวแข่ง ซูเพอร์ จีที โดยใช้ตัวรถสีขาวที่คาดสติกเกอร์ HRC สีแดง น้ำเงิน อันเป็นสัญลักษณ์ Honda Racing อย่างชัดเจน
ถัดมาอีกนิดจะพบกับ Civic Type R Mugen Concept ที่มาพร้อม Part Mugen ทั้งคัน ตั้งแต่กันชนหน้าพร้อมสเกิร์ทลายเคฟลา ฝากระโปรงเคฟลาทรงใหม่ล่าสุด ล้อ Mugen ขอบ 19 นิ้ว รัดด้วยยาง 265/30 R19
ด้านท้ายโดดเด่นด้วยสปอร์เลอร์หลังของ Mugen ขนาดใหญ่ กันชนหลังมีดิฟฟิวเซอร์ช่วยนะบายลมได้อย่างดี พร้อมท่อไอเสียท่อเดียวตรงกลางขนาดใหญ่ ทำให้ภายนอกมีความสวยงาม แต่แฝงไปด้วยความดุดัน
ภายในมีการตกแต่งเพิ่มเติมเล็กน้อยด้วยชุดเบาะบัคเกทซีทจาก Mugen และหัวเกียร์หนังกลับพร้อมเดินด้านตะเข็บสีแดง ดูลงตัวกว่าเดิม
Toyota
ค่าย Toyota ปีนี้มาในตรีม GR Sport สีแดงดำ ที่ตกแต่งทั้งความสวยงาม และความแรง เริ่มที่ Toyota GR Corolla ที่เพิ่งเปิดตัวในบ้านเราไปเมื่อปลายปีที่แล้ว ครั้งนี้มาในโทดทีเทา ที่ตกแต่งด้วยสเกิร์ทสีดำดูดุดัน
ด้านท้ายมีสปอย์เลอร์หลังสีดำขนาดกำลังดี มีการเปลี่ยนกันชนหลังใหม่ มีดิฟฟิวเซอร์อยู่ปลายล่าง พร้อมท่อไอเสียคู่อยู่ตรงกลาง สร้างความดุดันได้มาก
Toyota AE86 คันนี้ก็น่าสนใจไม่น้อย เพราะมองเผินๆ เหมือน AE86 ทั่วไป แต่จริงๆ แล้วมันคือ AE 86 BEV Concept ซึ่งถูกดัดแปลงให้เป็นรถไฟฟ้าล้วน 100% แต่ยังคงขับเคลื่อนล้อหลัง ทำให้สามารถดริฟได้เหมือนเดิม
ข้างๆ ยังมี AE 86 Trueno ไฟ Popup อีกคันหนึ่ง แต่คันนั้นยังคงใช้เครื่องยนต์อยู่ แต่ได้มีการปรับเปลี่ยนให้สามารถใช้เชื้อเพลิงไฮโดรเจนได้ ซึ่งติดตั้งถังแกสอยู่ที่บริเวณหลังรถ สร้างความสนใจให้กับบูท Toyota ได้เป็นอย่างดี
นอกจากนี้ ยังมีการนำรถแข่งของทีม Toyota อีกมากมายมาแสดง หนึ่งในนั้นคือรถแข่ง Endurance 25 ชั่วโมง ที่ใช้รถพลังงานไฮโดรเจนล้วน 100% ซึ่งแข่งกันที่สนามช้าง ประเทศไทย จ. บุรีรัมย์ ทำให้บูท Toyota ในงาน Tokyo Auto Salon 2023 มีความโดดเด่น และสมบูรณ์ไม่เบา
Nissan
บูท Nissan ภายในงาน Tokyo Auto Salon 2023 มีรถโชว์มากมายเช่นเดิม แต่รุ่นที่โดดเด่นบนเวที เป็นรุ่นไหนไปไม่ได้นอกจาก Nissan GT-R ปี 2024 หรือรหัส R35 T Spec & Nismo Special Edition ที่เปิดตัวภายใน Tokyo Auto Salon 2023 อย่างยิ่งใหญ่
สำหรับ Nissan GT-R R35 T Spec & Nismo Special Edition ปี 2024 นั้น มีการปรับปรุงประสิทธิภาพในเรื่องแอโรไดนามิก จะสังเกตุว่ากันชนหน้า กันชนหลัง มีการปรับให้มีสันเหลี่ยมที่คมเข้มมากขึ้น โดยเฉพาะในรุ่น Premium Edition T-Spec มาพร้อมชุดล้ออัลลอยสีทองขนาด 20 นิ้ว จาก Rays มีการปรับชอคอัพแบบพิเศษ และให้เบรคคาร์บอนเซรามิกมาให้เลยจากโรงงาน สร้างความสนุกเร้าใจให้กับผู้ขับได้ดีทีเดียว
ในขณะที่รุ่น GT-R Nismo ได้เพิ่มเติมระบบ LSD ในด้านหน้า และแน่นอนว่า มีการปรับปรุงช่วงล่างใหม่ให้สามารถเข้าโค้งดียิ่งขึ้น และที่ขาดไปไม่ได้สำหรับรุ่น Nismo คือขุมกำลัง ได้มีการปรับใช้ชิ้นส่วนที่ช่วยกระจายน้ำหนักด้วยความแม่นยำสูง อาทิ เพลาข้อเหวี่ยง ก้านสูบ แหวนลูกสูบ และแน่นอนว่า ทั้ง 2 รุ่น Nissan GT-R R35 T Spec และ Nismo Special Edition 2024 ใช้เครื่องยนต์เบนซิน V6 รหัส VR38DETT ทวินเทอร์โบ 24 วาล์ว ขนาด 3.8 ลิตร ขับเคลื่อน 4 ล้อ ทำงานคู่กับเกียร์อัตโนมัติคลัทช์คู่ 6 จังหวะ
ความแรงต่างกันเล็กน้อย โดยรุ่น Nismo Special Edition ให้กำลังสูงสุด 570 แรงม้า ที่ 6,800 รอบ/นาที แรงบิดสูงสุด 637 นิวตันเมตร ส่วนรุ่น GT-R Nismo ให้กำลังสูงสุด 600 แรงม้า ที่ 6,800 รอบ/นาที แรงบิดสูงสุด 652 นิวตันเมตร
ถัดจาก Nissan GT-R รถที่น่าสนใจก็คือ Nissan Note Aura Nismo 2023 สีขาว ที่มาพร้อมการเล่นเฉดสีด้วยสีดำ และสีแดง ตามสไตล์ Nismo ต้องบอกว่า Nissan Note รุ่นนี้ เป็นโฉมใหม่ล่าสุด ที่ใหม่กว่ารุ่นที่มีจำหน่ายในประเทศไทย รูปลักษณ์โดยรวมจึงสวยงามทันสมัย
ด้านหน้ามีการใช้สีดำเป็นระดับ ตั้งแต่หลังคารถ ฝากระโปรงหน้า ไล่มาจนถึงกันชนหน้า โดยมีสเกิร์ทด้านล่างยิ่นออกมาตัดกับสีแดงดูสวยงามลงตัว ด้านข้างตัวรถมาในทรงกล่อง ช่วยเรื่องความกว้างขวางของพื้นที่ภายในตัวรถ
ด้านท้ายโดดเด่นด้วยไฟท้ายแนวยาวจากซ้ายไปขวา และมีการออกแบบกันชนหลังให้มีดิฟฟิวเซอร์ในตัว เพิ่มความสวยงามลงตัว แต่แฟงไปด้วยความดุดันได้ดีทีเดียว
ภายในมีการออกแบบได้อย่างสวยงาม หน้าจอเป็นแบบดิจิทอล ภายในใช้โทนสีดำแดงสไตล์ Nismo เบอะใช้วัสดุหนังสลับกับผ้าหนังกลับ เพิ่มลุคสปอร์ทได้มาก และแน่นอนว่า Nissan Note Nismo คันนี้ ใช้เครื่องยนต์แบบ e-Power ที่ได้รับความนิยมอย่างมากในประเทศญี่ปุ่น
นอกจากนี้ยังมี Nissan Fairlady Z ที่มาในคอนเซพท์ Customized Edition ให้ผู้ที่สนใจรถคันนี้ สามารถสั่ง Customized ได้เองในสไตล์ที่คุณชอบ รวมถึงมี Nissan Araya ที่เปิดจำหน่ายมาพักใหญ่ๆ แล้วในญี่ปุ่น มาจัดแสดงภายในบูทด้วย
เรื่องโดย : วิธวินท์ ไตรพิศ
ภาพโดย : วิธวินท์ ไตรพิศ
คอลัมน์ Online : ระเบียงรถใหม่ (บก. ออนไลน์)
ลิงค์สำหรับแชร์ : https://autoinfo.co.th/online/437162