จากการให้สัมภาษณ์ภายในงาน CES ในเดือนมกราคม 2566 ทาง Stellantis ได้พูดถึงแผนการยืดระยะเดินทางด้วยเครื่องยนต์เบนซิน เพราะการใช้ระบบส่งกำลังด้วยไฟฟ้าอย่างเดียวอาจไม่เพียงพอ สำหรับรถกระบะที่ถูกใช้งานด้วยการลากจูง หรือบรรทุกหนักมากกว่ารถประเภทอื่น
Ram ยังให้ความสำคัญกับการผลิตรถกระบะไฟฟ้าเป็นอันดับ 1 แต่ยังหาพลังทางเลือกแบบอื่นที่จะทำให้ Ram 1500 แตกต่างไปจากคู่แข่งสำคัญอย่าง Ford F-150 Lightning และ Chevrolet Silverado EV ซึ่งทาง Ram จะเริ่มปล่อยรถต้นแบบ Ram 1500 BEV ทดสอบวิ่งบนถนน 2 สัปดาห์ ก่อนถึงปี 2569 ที่ Ram จะเริ่มวางตลาด
รถแนวคิด Ram 1500 Revolution จะใช้ระบบส่งกำลังมอเตอร์ไฟฟ้าคู่ เพื่อการขับเคลื่อน 4 ล้อ โดยใช้ล้อขนาด 24 นิ้ว พร้อมยางเส้นผ่าศูนย์กลาง 35 นิ้ว ใช้ระบบบังคับเลี้ยว 4 ล้อ ส่วนภายในห้องโดยสารติดตั้งเบาะเสริมในแถวที่ 3 ด้านหน้าติดตั้งจอแสดงผลขนาด 28 นิ้ว โดยใต้ฝากระโปรงด้านหน้าสามารถเก็บสัมภาระที่มีความยาวถึง 18 ฟุต (5.5 ม.) สำหรับระบบชาร์จไฟรองรับได้ถึง 359 กิโลวัตต์
จากข้อมูลก่อนหน้านี้ Ram 1500 จะใช้รูปแบบโดยวางบอดีเหนือ Platform แบบ STLA จะใช้แบทเตอรีขนาดใหญ่ (ตั้งแต่ 159 กิโลวัตต์ชั่วโมง จนถึงกว่า 200 กิโลวัตต์ชั่วโมง) เพื่อให้มีระยะเดินทาง 805 กม. สำหรับรถลุยของ Stellantis ทั้ง Ram และ Jeep จะใช้ Platform ขนาด 212.5-232.3 นิ้ว (5,400-5,900 มม.) โดย Ram 1500 BEV ใหม่ จะมีการเปิดตัวในเร็วๆ นี้ และจะวางตลาดได้ในปี 2567

