สำหรับจุดเด่นฟีล์มแพคเกจนี้ คือ สี Deep Black สีดำสนิทแต่เนื้อฟีล์มเคลียร์ชัด ให้ทัศนวิสัยการขับขี่ชัดเจน ตอบโจทย์กลุ่มลูกค้าที่ต้องการความเป็นส่วนตัวสูง ซึ่งสามารถมองจากด้านในรถไปด้านนอกได้ชัดเจน และที่สำคัญ คือ ฟีล์ม V-KOOL BLACK xEV ไร้อุปสรรค ผ่านได้ทุกคลื่นสัญญาณ (Signal Friendly) ทั้งสัญญาณ Easy Pass, M-Pass, GPS และสัญญาณมือถือ ซึ่งการออกแบบฟีล์มรุ่น BLACK xEV นั้นออกแบบมาเพื่อรองรับใช้สัญญาณสื่อสารรูปแบบต่างๆ ที่มีอยู่ในยานยนต์ยุคปัจจุบัน รวมถึงการออกแบบให้เหมาะกับยานยนต์ยุคใหม่ ทั้ง HEV, PHEV และ BEV ที่มีการออกแบบที่ทันสมัยด้วย เชื่อว่าฟีล์มรุ่นใหม่นี้จะขยายฐานลูกค้าเพิ่ม อีกทั้งยังตอบโจทย์กลุ่มคนรุ่นใหม่ได้เป็นอย่างดี
สำหรับฟีล์มรุ่น BLACK xEV มีมาให้เลือกถึง 3 รุ่น ดังนี้ รุ่น V30 xEV แสงส่องผ่านได้ (VLT) 33 % การป้องกันรังสีอินฟราเรด (IRR) 94 % การสะท้อนแสง (VLR) 6 % การป้องกันยูวี (UV) 99 % การป้องกันความร้อนรวม (TSER) 54 % รุ่น V15 xEV แสงส่องผ่าน (VLT) 15 % การป้องกันรังสีอินฟราเรด (IRR) 93.30 % การสะท้อนแสง (VLR) 5 % การป้องกันยูวี (UV) 99 % การป้องกันความร้อนรวม (TSER) 60 % และรุ่น V05 xEV แสงส่องผ่าน (VLT) 5 % การป้องกันรังสีอินฟราเรด (IRR) 93.40 % การสะท้อนแสง (VLR) 5 % การป้องกันยูวี (UV) 99 % การป้องกันความร้อนรวม (TSER) 62 % ซึ่งราคาของฟีล์มเริ่มต้นที่ 21,000-34,500 บาท
สถานการณ์ COVID-19 ปีนี้เบาบางลงไปอย่างมาก นักท่องเที่ยวต่างชาติเดินทางกลับเข้ามาท่องเที่ยวในประเทศไทยมากขึ้น มองว่าทุกๆ ธุรกิจก็ค่อยๆ ปรับตัวไปในทิศทางที่ดีขึ้น ในแบบค่อยเป็นค่อยไป ซึ่งตลาดรถยนต์ก็เช่นกัน โดยตัวแปรสำคัญ ได้แก่ รถยนต์ไฟฟ้าที่เข้ามาเสริมตลาดรถยนต์ในบ้านเรา ถือว่าเป็นสัญญาณที่ดี โดยภาพรวมตลาดรถยนต์ปีนี้ คาดว่าจะมียอดขายที่ประมาณ 900,000 คัน และในส่วนของตลาดฟีล์มกรองแสงรถยนต์จะมีอัตราการเติบโตขึ้นไม่น้อยกว่า 2 % มีมูลค่าประมาณ 2,200 ล้านบาท ปีนี้คาดว่าจะเริ่มปรับตัวดีขึ้นเป็นลำดับ จากช่วงสถานการณ์ COVID-19 ระบาด ส่งผลให้ตลาดหดตัวลงไปมากถึง 16 %
ปีนี้มีความพิเศษเนื่องในวาระครบรอบ 30 ปี ของฟีล์ม V-KOOL ในประเทศไทย บริษัทฯ มุ่งมั่น และพร้อมที่จะเดินหน้าก้าวไปสู่อนาคต ด้วยการนำเสนอผลิตภัณฑ์ใหม่ๆ ที่จะนำเข้ามาเสริมทัพอีกหลากหลายรุ่น ซึ่งโรงงานผู้ผลิต และ V-KOOL International ยังคงให้ความสำคัญเรื่องการป้องกันความร้อนสูง เนื่องจากสภาพอากาศในปัจจุบัน อุณหภูมิของโลกร้อนขึ้นเรื่อยๆ ในทุกปี รวมถึงให้ความสำคัญของความคงทนของฟีล์ม และการพัฒนาสินค้าให้ตรงกับความต้องการของผู้ใช้ฟีล์มในปัจจุบัน
สำหรับ V-KOOL Group Thailand ยังคงให้ความสำคัญกับศูนย์บริการติดตั้งฟีล์มที่ทันสมัย สวยงาม สะดวกสบาย สะอาด รวมถึงให้ความสำคัญในเรื่องการพัฒนาฝีมือการติดตั้งฟีล์มอยู่ตลอดเวลา ซึ่งถือว่าเป็นจุดแข็งแกร่งของเรา และในปี 2566 เรามีแผนขยายผู้แทนจำหน่ายฟีล์ม V-KOOL ให้ครอบคลุมตลาดทั้งในกรุงเทพฯ และต่างจังหวัดมากขึ้น จากปัจจุบันนี้มีผู้แทนจำหน่าย หรือดีเลอร์ โดยเป็นศูนย์ V-KOOL ในรูปแบบ V-KOOL Full Fledged ทั้งหมด 12 สาขา อยู่ในเขตกรุงเทพฯ 6 สาขา และจังหวัดเชียงใหม่ 1 สาขา จังหวัดสงขลา 1 สาขา ศูนย์ V-KOOL Full Fledged ที่บริหารโดยสำนักงานใหญ่ 4 สาขา นอกจากนี้ ยังมีดีเลอร์ที่เป็นร้านจำหน่ายอุปกรณ์ประดับรถยนต์ที่กระจายอยู่ทั่วประเทศอีก 34 สาขา อยู่ในกรุงเทพฯ 1 ราย ภาคอีสาน 11 ราย ภาคเหนือ 4 ราย ภาคกลาง 4 ราย ภาคใต้ 9 ราย และภาคตะวันออก 5 ราย มีความพร้อมในการให้บริการอย่างเต็มที่