Continental ขยาย Technology ยานยนต์ไฟฟ้า

เมืองตูลูส ประเทศฝรั่งเศส-บริษัท Continental Technology กำลังขยาย Sensor Portfolio สำหรับตลาดรถยนต์ไฟฟ้าที่เติบโตอย่างรวดเร็ว เปิดตัวนวัตกรรมใหม่ ที่เป็น E-Motor Rotor Position Sensor (ERPS) Sen sor ที่บอกตำแหน่งโรเตอร์มอเตอร์ไฟฟ้าเหนี่ยวนำความเร็วสูง ที่ตรวจจับตำแหน่งที่แน่นอนของโรเตอร์ในเครื่องจักรไฟฟ้าแบบซิงโครนัส ซึ่งช่วยเพิ่มประสิทธิภาพ และทำให้การทำงานราบรื่นขึ้น เมื่อเปรียบเทียบกับ Re solver Sensor ที่มีอยู่ ERPS มีขนาดกะทัดรัดกว่า และน้ำหนักเบากว่าถึง 40 % Solution ที่มีอยู่สำหรับการวัดโรเตอร์มักจะใช้หลักการ Resolver (หม้อแปลงไฟฟ้าแบบหมุน) ซึ่งซับซ้อน และจำเป็นต้องปรับให้เข้ากับมอเตอร์ซิงโครนัสแต่ละประเภทโดยเฉพาะ อย่างไรก็ตาม ERPS เป็นส่วนประกอบมาตรฐานสำหรับมอเตอร์ทุกตัวโดยไม่คำนึงถึงจำนวนคู่ขั้ว Sensor ใหม่นี้ง่ายต่อการเคลื่อนย้ายจากมอเตอร์หนึ่งไปอีกมอเตอร์ ทำให้เป็นตัวเลือกที่น่าสนใจสำหรับรถยนต์ไฟฟ้า ได้มีการวางแผนแล้วว่าจะเริ่มการผลิตในช่วงปลายปี 2568 Laurent Fabre หัวหน้าแผนก Passive Safety and Sensorics Segment ของ Continental กล่าวว่า การเติบโตของการใช้พลังงานไฟฟ้าในรถยนต์ส่งผลให้มีมอเตอร์ซิงโครนัสมากขึ้นในรถยนต์ ซึ่งมีตั้งแต่ขนาดใหญ่ และทรงพลัง เช่น มอเตอร์ลากจูง ไปจนถึงขนาดเล็ก เช่น ปั๊มไฟฟ้า ซึ่ง ERPS Technology ที่ได้มาตรฐานของเราก็มีการใช้งานที่หลากหลายในยานยนต์ไฟฟ้าความแม่นยำในการวัด ขนาดกะทัดรัด และแนวคิด Sensor แบบ All-in-One ที่รวมฟังค์ชันต่างๆ ไว้ด้วยกันช่วยเพิ่มการผสานรวมในระดับสูงในรถยนต์ Continental เป็นหนึ่งในผู้นำด้านการจัดหา Sensor ตำแหน่งเครื่องยนต์ในปัจจุบัน ด้วยการเปิดตัว ERPS ตอนนี้เราได้จัดว่าเป็นหนึ่งในซัพพลายเออร์ชั้นนำสำหรับ Sensor ตำแหน่งมอเตอร์ไฟฟ้าเช่นกัน ERPS ได้รับการพัฒนาขึ้นเป็นพิเศษเพื่อควบคุมมอเตอร์ซิงโครนัส (โดยที่โรเตอร์หมุนด้วยความเร็วเดียวกับสนามขั้วแม่เหล็กหมุนในเครื่องยนต์) ชุดควบคุมมอเตอร์จำเป็นต้องรู้ตำแหน่งที่แน่นอนของโรเตอร์เพื่อให้มอ เตอร์ทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพสูงสุด ซึ่งทำให้ Sensor ประเภทนี้เป็นส่วนสำคัญในการใช้งานมอเตอร์ซิงโครนัส ในขณะที่ตัวแก้ไขเป็น Sensor ที่ค่อนข้างใหญ่ ERPS นั้นแบนมาก และรองรับการออกแบบมอเตอร์ขนาดกะทัดรัดที่มีความยาวโดยรวมเพียงเล็กน้อย การออกแบบ Sensor เป็นไปตามหลักการของกระแสไหลวน และได้รับการเพิ่มประสิทธิภาพเพื่อเพิ่มความทนทานต่อความคลาดเคลื่อนทางกล วงจรรวม (IC) ที่ล้ำสมัยใช้สำหรับการประมวลผลสัญญาณ IC ได้รับการออกแบบตามมาตรฐานยานยนต์เพื่อความปลอดภัยในการใช้งาน ISO 26262 เพื่อให้เข้าถึง ASIL C เป็นตัวเลือก โดยสามารถฝัง IC 2 ตัวใน ERPS เพื่อให้แน่ใจว่ามีระบบสำรองซึ่งเป็นส่วนสำคัญเพื่อเพิ่มความปลอดภัยในการทำงาน แม้ว่ามอเตอร์ขับเคลื่อนของรถยนต์ไฟฟ้า หรือรถยนต์ไฮบริดจะเป็นกรณีการใช้งานที่โดดเด่น แต่ก็มีมอเตอร์แบบซิงโครนัสอีกมากมายในรถยนต์ไฟฟ้า ตัวอย่างเช่น ระบบเบรคแห้ง (เบรคที่ไม่มีระบบ Hydrolics) ในอนา คต จะสั่งงานด้วยไฟฟ้า และต้องใช้ Sensor หมุน Continental ได้ใช้ความรู้ และประสบการณ์ที่มีอยู่กับ Inductive Technology ในการพัฒนา ERPS ตัวอย่างเช่น ระบบเบรคด้วยไฟฟ้า MK C2 ที่ใช้ Sensor ตำแหน่งมอ เตอร์แบบเหนี่ยวนำ และเป็นเกณฑ์มาตรฐานสำหรับการพัฒนาแนวคิดการตรวจจับด้วยความเร็ว และความแม่นยำที่เพิ่มขึ้น เช่นเดียวกับในกรณีของ ERPS ERPS เป็น Sensor ตำแหน่งโรเตอร์แบบเหนี่ยวนำแบบใหม่ซึ่งครอบคลุมการกำหนดค่าหลายอย่าง สามารถติดตั้ง Sensor ผ่านเพลา หรืออาจติดตั้งไว้ที่ส่วนท้ายของเพลาโรเตอร์ รวมถึงในกรณีนี้คือฟังค์ชันการซีล โมดูลประกอบด้วยขดลวดกระตุ้น และขดลวดรับสัญญาณที่ฝัง IC 1 หรือ 2 ตัวที่ตรวจจับตำแหน่งเชิงมุมทางไฟฟ้าของตัวเข้ารหัสโลหะบนเพลาโรเตอร์โดยตรง Solution ที่กระทัดรัด และน้ำหนักเบานี้ทำให้การใช้สัญญาณในการประมวลผลลดลง ข้อมูลตำแหน่งเชิงมุมทางไฟฟ้าจำเป็นสำหรับการควบคุมแรงบิดของ E-Machine เพื่อให้มอเตอร์มีประสิทธิภาพ และอายุการใช้งานสูงสุด Ronan LeRoy หัวหน้าศูนย์ผลิตภัณฑ์ Sensor และระบบย่อย ในส่วนระบบความปลอดภัยเชิงแก้ไข และระบบ Sensor ของ Continental กล่าวว่า รูปแบบสัญญาณของ ERPS นั้นง่ายต่อการใช้งานมากกว่าของ Resolver หลักการวัดเร็วกว่า แข็งแกร่งกว่า และเหมาะสำหรับความเร็ว และการเร่งกำลังของมอเตอร์สูง มีขนาดกะทัดรัดมาก และทำงานได้โดยใช้ชิ้นส่วนจำนวนน้อยที่สุด ด้วยการใช้กระแสไฟฟ้าสูงสุด 15MA ERPS ให้ความแม่นยำทางไฟฟ้าที่ ±0.5° สำหรับมอเตอร์ 4 ขั้วคู่ ออกแบบมาให้ครอบคลุมความต้องการด้านความเร็วรอบที่จำเป็นสำหรับ Platform รถยนต์ไฟฟ้าในอนาคต (~24.000 รตน.) ช่วงอุณหภูมิการทำงานของ Sensor กว้างมาก ในช่วง -40 °C-140 °C และรับได้สูงสุดถึง 155 °C ERPS กำลังขยาย Sensor Portfolio ของ Continental ที่ออกแบบมาโดยเฉพาะสำหรับการขับเคลื่อนด้วยพลังงานไฟฟ้า ด้วย Module Sensor ปัจจุบัน และการตรวจจับการกระแทกของแบทเตอรี เพื่อรองรับทั้งความปลอดภัยบนท้องถนน และการใช้พลังงานไฟฟ้า บริษัทได้เปิดตัว Solution ใหม่ 2 รายการในปี 2565 โดยมุ่งเน้นที่การปกป้องแบทเตอรี และการรักษาแบทเตอรีของรถยนต์ไฟฟ้า