ธุรกิจ
Mitsubishi เปิดตัวพิคอัพต้นแบบ
ทาคาโอะ คาโตะ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร Mitsubishi Motors Corporation เปิดเผยว่า Mitsubishi XRT Concept เป็นรถพิคอัพต้นแบบของ Triton โดยมีแผนเปิดตัวรถอย่างเป็นทางการ ในเดือนกรกฎาคม 2566
Mitsubishi Triton เป็นรถรุ่นที่ขายดีที่สุดของ Mitsubishi Motors ซึ่งผลิตจากโรงงานแหลมฉบังในประเทศไทย เพื่อส่งออกไปยังกว่า 150 ประเทศทั่วโลก จึงนับเป็นรถยนต์รุ่นสำคัญในเชิงกลยุทธ์ระดับโลกของบริษัทฯ โดยรถ Mitsubishi Triton รุ่นใหม่ จะเป็นรถกระบะขนาดกลาง เจเนอเรชันที่ 6 ของ Mitsubishi Motors ซึ่งได้รับการออกแบบใหม่ทั้งคัน เป็นครั้งแรกในรอบ 9 ปี โดยหลังจากที่เปิดตัวในประเทศไทย ภายในปีงบประมาณ 2566 แล้ว จะมีการเปิดตัวรถรุ่นนี้ในภูมิภาคอาเซียน โอเชียเนีย และตลาดอื่นๆ ทั่วโลก เป็นลำดับ
“Mitsubishi XRT Concept” เป็นรถต้นแบบของรถกระบะ Triton โมเดลใหม่ ที่มาพร้อมดีไซจ์นดุดันสะดุดตา ตั้งแต่ด้านหน้าจรดท้าย เสริมอารมณ์แกร่งด้วยเส้นนำสายตาจากกระโปรงหน้าสู่ด้านข้างตัวถัง ในสไตล์แนวราบ พร้อมการตกแต่งเหนือซุ้มล้อหน้า/หลัง และติดตั้งยางลุยโคลน (mud-terrain) ที่ช่วยเพิ่มพลังขับเคลื่อนเต็มสปีด ปราดเปรียวพร้อมพุ่งทะยานในทุกเส้นทางสุดหฤโหดของการแข่งขันแรลลี ตัวถังห่อหุ้มด้วยลายพราง ซึ่งได้รับแรงบันดาลใจมาจาก “ลาวา” หินภูเขาไฟที่อัดแน่นด้วยพลังงานอันทรงพลัง พร้อมด้วยกราฟิคเส้นขนานแนวเฉียง 10 เส้น ในแบบฉบับของโลโก Ralliart ที่สะท้อนถึงจิตวิญญาณที่ขับเคลื่อนไปข้างหน้าของ Mitsubishi Motors ได้อย่างโดดเด่น
ในปีนี้ ทีม Mitsubishi Ralliart ซึ่งได้รับการสนับสนุนด้านเทคนิคจาก Mitsubishi Motors ได้วางแผนที่จะลงแข่งขันในรายการ Asia Cross Country Rally 2023 ด้วยรถพโรโทไทพ์ครอสส์คันทรี ซึ่งเป็น Triton รุ่นใหม่ (Group T1) โดยมีเป้าหมายมุ่งคว้าแชมพ์ 2 สมัยติดต่อกัน โดยจะยังมี ฮิโรชิ มาซูโอกะ เจ้าของตำแหน่งแชมพ์ Dakar Rally 2 สมัย ในปี 2002 และ 2003 ทำหน้าที่เป็นผู้อำนวยการทีม ขณะที่วิศวกรของ Mitsubishi Motors จะทำการทดสอบสมรรถนะก่อนแข่งขัน และให้การสนับสนุนตลอดการแข่งขันแรลลีในครั้งนี้ พร้อมกันนี้ ทาง Mitsubishi Motors จะถ่ายทอดความเชี่ยวชาญที่สั่งสมจากการแข่งขันแรลลี เพื่อนำมาใช้พัฒนาการผลิตรถยนต์ที่จำหน่ายในท้องตลาด ด้วยความมุ่งมั่นที่จะสร้างรถยนต์ภายใต้แนวคิด Mitsubishi Motors-ness เพื่อมอบการขับขี่ที่ปลอดภัย สะดวกสบาย และให้ความรื่นรมย์ในทุกสภาพอากาศ และทุกสภาพถนน
ทาคาโอะ คาโตะ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร Mitsubishi Motors Corporation กล่าวต่ออีกว่า ปีงบประมาณ 2566 เป็นปีที่มีความสำคัญสำหรับ Mitsubishi Motors ในการเร่งสร้างการเติบโตทางธุรกิจของเราในภูมิภาคอาเซียน ด้วยการเปิดตัว Triton รุ่นใหม่ และรถคอมแพคท์เอสยูวีรุ่นใหม่ โดยรถ Triton รุ่นใหม่ อยู่ระหว่างการทดสอบในขั้นตอนสุดท้าย เพื่อเตรียมความพร้อมก่อนการเปิดตัว ซึ่งเราได้ดำเนินการทดสอบอย่างเข้มข้นทั่วโลก พร้อมถ่ายทอดองค์ความรู้ที่สั่งสมมาจากการแข่งขันแรลลีไว้ในรถรุ่นนี้ และด้วยการเปิดตัวรถยนต์รุ่นใหม่ตามแผนที่วางไว้ จะทำให้เราเดินหน้าขับเคลื่อนการเติบโตอย่างไม่หยุดยั้ง ขอให้ทุกท่านโปรดติดตามความเคลื่อนไหวของ Mitsubishi Motors ในอนาคต อย่างใกล้ชิด
เมื่อเร็วๆ นี้ Mitsubishi Motors Corporation ได้ประกาศแผนธุรกิจระยะกลาง รอบ 3 ปี (ปีงบประมาณ 2566-2568) ภายใต้ชื่อแผน “Challenge 2025” เดินหน้าเต็มสูบผลักดันธุรกิจให้เติบโต เร่งเครื่องเตรียมพร้อมสำหรับตลาดคนรุ่นใหม่ ในด้านการผลิตรถยนต์ Mitsubishi Motors จะสานต่อการดำเนินงานเกี่ยวกับระบบขับเคลื่อนยานยนต์ด้วยไฟฟ้า (Electrification) อย่างต่อเนื่อง เพื่อให้เป็นโซลูชันรองรับการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ ซึ่งยังคงเป็นประเด็นสำคัญระดับโลก พร้อมช่วยขับเคลื่อนสู่เป้าหมายความเป็นกลางทางคาร์บอน โดยมีกลยุทธ์ระดับภูมิภาคในการผลักดันแผนงาน และจัดสรรทรัพยากร ในเชิงธุรกิจ และการขยายห่วงโซ่คุณค่า Mitsubishi Motors มุ่งเติบโตด้วยการเจาะธุรกิจใหม่ เพื่อสร้างแหล่งรายได้ใหม่ในอนาคต นอกจากนี้ บริษัทฯ จะสร้างความสัมพันธ์ที่เปี่ยมด้วยความเชื่อมั่นกับลูกค้า ผ่านผลิตภัณฑ์ และเทคโนโลยีที่หลอมรวมความเป็น Mitsubishi Motors-ness ควบคู่ไปกับการสร้างเสริมคุณค่าของแบรนด์
แผนหลักของ “Challenge 2025” ในการดำเนินธุรกิจในอนาคต ประกอบด้วย
-มุ่งสู่เป้าหมายยอดจำหน่ายรถยนต์ที่ 1.1 ล้านคัน และผลกำไรจากการปฏิบัติงาน 2.2 แสนล้านเยน หรือประมาณ 7 หมื่นล้านบาท (อัตราส่วนกำไรจากการปฏิบัติงานร้อยละ 7)
-ให้ความสำคัญต่อการจัดการทรัพยากรเพื่อการดำเนินงานในภูมิภาคอาเซียน/โอเชียเนีย ควบคู่ไปกับการเพิ่มยอดขาย ส่วนแบ่งตลาด และรายได้
-เปิดตัวรถยนต์ 16 รุ่น ภายใน 5 ปีข้างหน้า รวมถึงรถยนต์ที่ขับเคลื่อนด้วยไฟฟ้า (xEV) 9 รุ่น
-ขยายการลงทุนเพิ่มประมาณร้อยละ 30 ภายใน 6 ปีข้างหน้า จนถึงปี 2571 ด้านการวิจัย และพัฒนา และการลงทุนในสินทรัพย์ถาวร (คาดว่าการจัดสรรการลงทุนด้านระบบขับเคลื่อนไฟฟ้า ไอที และธุรกิจใหม่จะมีอัตราส่วนประมาณร้อยละ 70 ตั้งแต่ปีงบประมาณ 2569 เป็นต้นไป)
-ลดปริมาณแกสเรือนกระจก เพื่อช่วยขับเคลื่อนสู่เป้าหมายความเป็นกลางทางคาร์บอน
-ลงทุนมูลค่า 2.1 แสนล้านเยน หรือประมาณ 4 หมื่นล้านบาท ภายในปี 2573 เพื่อจัดหาแบทเตอรี-รวมทั้งหมด 15 กิกะวัตต์ชั่วโมง
-กระชับความสัมพันธ์กับบริษัทพันธมิตร (การใช้ผลิตภัณฑ์ที่ช่วยส่งเสริมกัน และอื่นๆ)
-สร้างความท้าทายในธุรกิจใหม่ ด้วยการใช้สินทรัพย์ที่มีความพิเศษเฉพาะสำหรับบริษัทผู้ผลิตรถยนต์ (การจัดการพลังงาน การนำแบทเตอรีกลับมาใช้ใหม่ การจำหน่ายข้อมูล และอื่นๆ)
ABOUT THE AUTHOR
นุสรา เงินเจริญ
บรรณาธิการข่าวธุรกิจและสังคม ที่มีประสบการณ์มากว่า 30 ปี รักการอ่าน ขอบงานเขียน ชอบพบปะผู้คน ได้มีโอกาสสัมภาษณ์ผู้บริหารในวงการยานยนต์ไทย ท่องเที่ยว เป็นประสบการณ์ที่ดี เปิดโลกได้พัฒนาตัวเองกว่า 30 ปี แวดวงสื่อสารมวลชน
ภาพโดย : ิจินดา ลัยนันท์คอลัมน์ Online : ธุรกิจ (บก. ออนไลน์)