ธุรกิจ
Michelin เผยกลยุทธ์ Michelin in Motion
Michelin จัดงาน Capital Markets Day เพื่อนำเสนอความคืบหน้าล่าสุดในการปฏิบัติงานตามแผนงานเชิงกลยุทธ์ Michelin in Motion โดยมีประเด็นสำคัญดังนี้
การปรับปรุงกลยุทธ์สู่ปี 2573
· ในงาน Capital Markets Day ซึ่งจัดขึ้นเมื่อปี 2564 Michelin ได้แถลงกลยุทธ์เพื่อการเติบโตสู่ปี 2573 ที่เรียกว่า Michelin in Motion โดยตั้งเป้าขับเคลื่อนรายได้ให้เติบโตสูงขึ้น 5 %/ปี ในช่วงปี 2566-2573 รวมทั้งเพิ่มสัดส่วนรายได้ของกลุ่ม Michelin จากธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับยาง และธุรกิจอื่น นอกเหนือจากยางให้อยู่ที่ 20-30 % · ตลอด 2 ปีที่ผ่านมา กลุ่ม Michelin ประสบความสำเร็จระดับสูงในการดำเนินงานตามดัชนีชี้วัดความสำเร็จที่เกี่ยวข้องกับผู้คน ผลกำไร และผืนโลก (People, Profit and Planet) โดยปรับตัวให้เข้ากับสิ่งแวดล้อมที่เปลี่ยนแปลงไปอย่างพลิกผัน และมุ่งหน้าสู่การบรรลุเป้าหมายที่กำหนดไว้สำหรับปี 2566 · แนวโน้มการเปลี่ยนแปลงระดับโลกที่สำคัญ หรือ Mega Trends ได้แก่ โลกที่เต็มไปด้วยการแบ่งแยก (Fragmentation of The World), การเปลี่ยนแปลงเชิงลึกที่เกี่ยวข้องกับการทำงาน, ความตื่นตัวด้านสิ่งแวดล้อม และการสัญจรด้วยระบบไฟฟ้า ล้วนสอดคล้องกับกลยุทธ์ของกลุ่ม Michelin ซึ่งมุ่งสร้างการเติบโตเพื่อเพิ่มมูลค่า และยกระดับศักยภาพในการปรับตัวให้เหมาะกับปัจจัยแวดล้อม · การเปลี่ยนแปลงเหล่านี้ถือเป็นโอกาสที่ตอกย้ำให้เห็นความโดดเด่นแตกต่างของ Michelin ซึ่งจะยิ่งเห็นได้ชัดเจนมากขึ้นในปีต่อๆ ไป เนื่องจากกลุ่ม Michelin เร่งพัฒนายกระดับความสามารถที่ทำให้องค์กรมีความแตกต่างอย่างชัดเจน · ในฐานะองค์กรที่มีความเชี่ยวชาญด้านเทคโนโลยีขั้นสูง และสามารถตอบสนองตลาดแนวตั้งมูลค่าสูง (High-Value Market Verticals) ได้หลากหลายประเภท Michelin มุ่งยกระดับเทคโนโลยี วิทยาศาสตร์ เพื่อเพิ่มศักยภาพด้านภาวะผู้นำ สร้างความแตกต่างจากคู่แข่งทั้งในแง่ผลการดำเนินงาน และความยั่งยืน · ความสำเร็จในอนาคตของ Michelin ส่วนหนึ่งจะมาจากความสามารถในการปรับปรุงผลการดำเนินงานเชิงโครงสร้าง (Structural Performance) ของธุรกิจยาง ขณะที่อีกส่วนจะมาจากการกระตุ้นการเติบโตของธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับยาง และธุรกิจอื่นนอกเหนือจากยาง การเติบโตเช่นนี้ถือเป็นการเติบโตทั้งจากภายในองค์กรเอง (Organic) และจากการขับเคลื่อนผ่านการควบรวม และเข้าซื้อกิจการ (Mergers & Acquisitions: M&A) · ข้อมูลเกี่ยวกับการควบรวม และเข้าซื้อกิจการของ Michelin ในช่วง 5 ปีที่ผ่านมา แสดงให้เห็นผลที่น่าพอใจ โดยรูปแบบการควบรวม และเข้าซื้อกิจการของ Michelin สอดคล้องตามกลยุทธ์องค์กร อีกทั้งธุรกิจต่างๆ ที่ Michelin เข้าซื้อกิจการยังถูกบูรณาการเข้าด้วยกันได้สำเร็จด้วยดี นอกจากนี้ ยังมีการพัฒนา และวางตลาดผลิตภัณฑ์ใหม่ๆ บนฐานการทำงานร่วมกันด้านนวัตกรรมเชิงลึก (Deep Innovation) ซึ่งส่งผลให้ Michelin มีความแตกต่างที่เด่นชัดขึ้นสำหรับลูกค้ากลุ่มที่มีความคาดหวังสูง กลุ่ม Michelin บริหารจัดการการควบรวม และเข้าซื้อกิจการอย่างจริงจัง เพื่อให้สามารถบรรลุการเติบโตระดับสูงได้เร็วขึ้น ตลอดจนเพื่อทำให้ค่านิยมองค์ กรของบริษัทร่วมทุนเป็นจริง · เป้าหมายอัตราผลตอบแทนจากเงินทุน (Return on Capital Employed: ROCE) ของกลุ่ม Michelin ซึ่งอยู่ที่ 10.5 % ในช่วงเวลาหนึ่ง คำนึงถึงผลกระทบจากการควบรวม และเข้าซื้อกิจการเอาไว้แล้ว
ในงาน Capital Markets Day ประจำปี 2564 กลุ่ม Michelin ได้กำหนดเป้าหมายสำหรับปี 2566 บนฐานของตัวชี้วัดทางการเงิน (Financial Indicators) บางประการ ตารางด้านล่างแสดงให้เห็นความคืบหน้า และพัฒนา การในแผนงานตามดัชนีชี้วัดความสำเร็จ1 (Key Performance Indicators: KPIs)
ดัชนีชี้วัดความสำเร็จ (KPI) |
เป้าหมายสำหรับ ปี 2566 ซึ่งกำหนดขึ้นเมื่อปี 2564 |
รายงานผลความคืบหน้า |
ยอดขาย | ราว 24.5 พันล้านยูโรตามอัตราแลกเปลี่ยนเดือนมกราคม 2564 | นับตั้งแต่ปี 2562 ยอดขายของกลุ่ม Michelin เพิ่มสูงขึ้นจาก 24 พันล้านยูโร เป็นเกือบ 29 พันล้านยูโรในปี 2565 แม้ว่าปริมาณการขายจะลดลง 6 % ทั้งนี้ เนื่องจากมีการขึ้นราคาสินค้าเพื่อชดเชยต้นทุนที่สูงขึ้น แต่ยังคงความหลากหลายของส่วนประสมผลิต ภัณฑ์ (Product Mix Enrich ment) เอาไว้ โดยให้ความสำคัญกับกลุ่มผลิตภัณฑ์ที่มีคุณ ค่าเพิ่มเชิงสร้างสรรค์ (Value-Creative Segments) และการเติบโตของธุรกิจที่ไม่เกี่ยวข้องกับยางรถ (Non-Tire Business) |
กำไรจากการดำเนินงานตามส่วนงาน (Segment Operating Income: ROS) | มากกว่า 3.3 พันล้านยูโร ตามอัตราแลกเปลี่ยนเดือนมกราคม 2564 | แนวโน้มการดำเนินงานปี 2566: มากกว่า 3.2 พันล้านยูโร ตามอัตราแลกเปลี่ยนปี 2565 |
อัตราส่วนของกำไรจากการดำเนินงานตามส่วนงาน (Segment Operating Margin) | กลุ่ม Michelin 13.5 % ส่วนงานที่ 1 มากกว่า 12 % ส่วนงานที่ 2 มากกว่า 10 % ส่วนงานที่ 3 มากกว่า 17 % | เป้าหมายเหล่านี้ซึ่งเป็นสัดส่วนร้อยละของยอดขายไม่สอดคล้องกับบริบทแวดล้อมอีกต่อไป เนื่องจากในช่วงปี 2564-2565 ราคาหุ้นลดลงจากภาวะเงินเฟ้อ (ลดลง 1.7 จุด ในระดับกลุ่มองค์กร) แนวโน้มการดำเนินงานปี 2566: ไม่กำหนดการดำ เนินงานตามส่วนงานเป็นสัดส่วนร้อยละของยอดขาย ไม่ว่าจะในระ ดับกลุ่มองค์กร หรือในการรายงานผลการดำเนินงานระดับส่วนงาน |
กระแสเงินสดอิสระ (Free Cash Flow) | 6.3 พันล้านยูโร (ยอดกระแสเงินสดอิสระเชิงโครงสร้าง2 สำหรับปี 2563-2566) | ระหว่างปี 2563-2565 กลุ่ม Michelin มีกระแสเงินสดอิสระเชิงโครงสร้างอยู่ที่ 4.2 พันล้านยูโร ซึ่งตัวเลขนี้หักลบยอด 1 พันล้านยูโร ที่ได้รับผลกระทบเชิงลบจากภาวะเงินเฟ้อที่มีต่อเงินทุนหมุนเวียนในปี 2565 ออกแล้วตั้งแต่ปี 2566 เป็น ต้นไป กลุ่ม Michelin จะระบุข้อมูลประเภทนี้ในรูปกระแสเงินสดอิสระก่อนการควบรวม และเข้าซื้อกิจการที่รายงานตามมาตรฐานบัญชี3 แทนกระแสเงินสดอิสระเชิงโครงสร้างแนวโน้มการดำเนินงานปี 2566: กระแสเงินสดอิสระก่อนการควบรวมและเข้าซื้อกิจการที่รายงานตามมาตรฐานบัญชี อยู่ที่มากกว่า 1.6 พันล้านยูโร |
อัตราผลตอบแทนจากเงินทุน (ROCE) ปี 2566 | มากกว่า 10.5 % | ไม่เปลี่ยนแปลงจากเดิม ในช่วงปี 2562-2565 อัตราผลตอบแทนจากเงินทุนเพิ่มขึ้น 0.8 จุด เป็น 10.8 % |
อัตราการเติบโตเฉลี่ยของยอดขายซึ่งไม่รวมยางรถ และการจัดจำ หน่ายที่เกี่ยวข้อง ระ หว่างปี 2562-2566 | 5 % | ไม่เปลี่ยนแปลงจากเดิม ยอดขายที่ไม่เกี่ยวกับยางรถเติบโตอย่างรวดเร็ว โดยเพิ่มขึ้น 8 % ในปี 2564 และเพิ่มขึ้น 22 % ใน ปี 2565 [ทั้งนี้ เป็นการเติบโตจากภายในองค์กร อ้างอิงอัตราแลกเปลี่ยนเงินตราต่างประเทศตามรหัสสกุลเงินมาตรฐานสากล (ISO-FX)] |
ต้นทุนผลกระทบภาย นอกทางลบ (Cost of Negative Externalities) ปี 2566 | ลดลง 30 ล้านยูโร เมื่อเทียบกับปี 2562 (บนฐานต้นทุนการปล่อยแกสคาร์บอน ไดออกไซด์ อยู่ที่ 58 ยูโร/ตัน) | ไม่เปลี่ยนแปลงจากเดิม4 เป้าหมายที่ปรับใหม่ คือ ลดลง 45 ล้านยูโร เมื่อเทียบกับปี 2562 (บนฐานต้นทุนการปล่อยแกสคาร์บอนไดออกไซด์ อยู่ที่ 120 ยูโร/ตัน) ทั้งนี้ ตัวเลขในปี 2565 อยู่ที่ ลดลง 97 ล้านยูโร เมื่อเทียบกับปี 2562 |
อัตราส่วนเงิน ปันผลต่อกำไร (Payout Ratio ) | 50 % ของผลกำไรสุทธิ ไม่รวมรายการที่ไม่เกิดขึ้นเป็นประจำ (Non-Recurring Items) นับจากปี 2564 | ตัวเลขในปี 2564 อยู่ที่ 42 % ของผลกำไรสุทธิ ไม่รวมราย การที่ไม่เกิดขึ้นเป็นประจำ หรือ 44 % ของผลกำไรสุทธิ ตัวเลขสำหรับปี 2565 ที่เสนอต่อการประชุมสามัญประจำปีผู้ถือหุ้น อยู่ที่ 44 % ของผลกำไรสุทธิ ตั้งแต่ปี 2566 เป็นต้นไป กลุ่ม Michelin จะระบุอัตราส่วนเงินปันผลต่อกำไรในรูปร้อยละ (%) ของผลกำไรสุทธิ โดยจะค่อยๆ เพิ่มตัวเลขเป้าหมายให้ถึง 50 % ภายในปี 2573 |
1 ดัชนีชี้วัดความสำเร็จบางประการถูกตัดออกจากที่เคยตีพิมพ์เผยแพร่ก่อนหน้า
2 กระแสเงินสดอิสระเชิงโครงสร้างสอดคล้องกับกระแสเงินสดอิสระก่อนการเข้าซื้อกิจการ โดยปรับให้รองรับผลกระทบจากการเปลี่ยนแปลงราคาวัตถุดิบในบัญชีเจ้าหนี้การค้า (Trade Payables), บัญชีลูกหนี้การค้า ( Trade Receivables) และบัญชีสินค้าคงคลัง (Inventories)
3 กระแสเงินสดอิสระก่อนการควบรวม และเข้าซื้อกิจการที่รายงานตามมาตรฐานบัญชี (ในที่นี้เรียก “กระแสเงินสดอิสระ”) หมายถึง เงินสดสุทธิจากกิจกรรมการดำเนินงานต่างๆ ที่หักลบด้วยเงินสดสุทธิซึ่งใช้ในการลงทุน โดยปรับให้กระแสเงินสดสุทธิมีความเกี่ยวข้องกับสินทรัพย์ทางการเงินที่ได้จากการบริหารเงินสด (Cash Management Financial Assets) และหลักประกันการกู้ยืม (Borrowing Collaterals)
4 ปรับตัวเลขเป้าหมายใหม่ตามการประเมินต้นทุนการปล่อยแกสคาร์บอนไดออกไซด์ล่าสุด ซึ่งปัจจุบันอยู่ที่ 120 ยูโร/ตัน
กำหนดการด้านการเงิน
ปี 2566 |
|
• 26 เมษายน |
สรุปยอดขายไตรมาสแรกของปี 2566 |
• 12 พฤษภาคม |
การประชุมสามัญประจำปีผู้ถือหุ้น |
• 17 พฤษภาคม |
วันที่ไม่ได้สิทธิ์รับเงินปันผล (Ex-Dividend) |
• 19 พฤษภาคม |
วันจ่ายเงินปันผล |
• 26 กรกฎาคม |
สรุปผลประกอบการครึ่งแรกของปี 2566 |
• 24 ตุลาคม |
สรุปยอดขาย 9 เดือนแรกของปี 2566 |
|
|
ปี 2567 |
|
• กุมภาพันธ์ |
สรุปผลประกอบการปีงบประมาณ 2566 |
• ช่วงครึ่งแรกของปี |
งาน Capital Markets Day |
