Porsche ปรับโฉม Cayenne ใหม่

ชตุทท์การ์ท-Porsche ปรับโฉมครั้งใหญ่ให้รถสปอร์ท SUV หรูหรา และสมบูรณ์แบบที่สุด พร้อมแล้วกับการเปิดตัว Cayenne รุ่นใหม่ ยกระดับความเหนือชั้นรอบคัน ไม่ว่าจะเป็นหน้าจอแสดงผล ระบบควบคุมแบบดิจิทอล ช่วงล่างใช้เทคโนโลยีล่าสุด และนวัตกรรมไฮเทคมากมาย “นี่คือ การปรับโฉมรถยนต์ครั้งยิ่งใหญ่ที่สุดในประวัติศาสตร์ของ Porsche” Michael Schatzle รองประธานกรรมการ ผู้กำกับดูแลส่วนงาน Product Line Cayenne กล่าว ระบบไฟหน้า High-Definition HD Matrix LED ให้แสงสว่างที่เหมาะสมกับทุกสภาพถนน พร้อมระบบฟอกอากาศประสิทธิ ภาพสูง และนับเป็นครั้งแรกของ Porsche Cayenne ที่ติดตั้งหน้าจอ infotainment สำหรับผู้โดยสารตอนหน้าโดยเฉพาะ รวมไปถึงการยกระดับงานดีไซจ์น และพละกำลังที่เหนือกว่าในทุกรุ่นเครื่องยนต์ ทั้งหมดนี้ คือ สิ่งที่เน้นย้ำตัวตนของ Porsche Cayenne ในฐานะยนตรกรรมสปอร์ท SUV หรู ที่เต็มเปี่ยมไปด้วยความสปอร์ทที่สุดในรถยนต์ระดับเดียวกัน เปิดประสบการณ์ใหม่ด้วยระบบควบคุมดิจิทอลที่รองรับการใช้งานของผู้ขับขี่อย่างแท้จริง Porsche ติดตั้งหน้าจอแสดงผล และระบบควบคุมการทำงานด้วยแนวคิดล่าสุดไว้ใน Cayenne ใหม่ อย่างสมบูรณ์แบบ โดยแนวคิดประสบการณ์ใหม่สำหรับผู้ขับขี่ Porsche Driver Experience เปิดตัวเป็นครั้งแรกใน Porsche Taycan เน้นไปที่การใช้งาน และความสะดวกสบายสูงสุดของผู้ขับขี่ เพื่อให้ง่ายต่อการเข้าถึง โดยเฉพาะฟังค์ชันที่ใช้งานเป็นประจำจะถูกติดตั้งไว้บนพวงมาลัย หรือตำแหน่งที่ใกล้เคียง อาทิ การเพิ่มฟังค์ชันควบ คุมการทำงานของระบบช่วยเหลือการขับขี่ บนปุ่มควบคุมบริเวณหลังพวงมาลัยฝั่งซ้ายมือ และย้ายตำแหน่งคันเปลี่ยนเกียร์อัตโนมัติ ไปยังแผงคอนโซลหน้า สิ่งเหล่านี้ช่วยเพิ่มพื้นที่บริเวณคอนโซลกลาง สามารถรองรับการเก็บสัมภาระต่างๆ รวมถึงการเพิ่มขนาด และความหรูหราให้แก่แผงควบคุมระบบปรับอากาศที่มาในสไตล์พรีเมียมมากยิ่งขึ้น เสริมความแม่นยำ ใช้งานง่ายด้วยการผสมผสานสวิทช์ระบบปรับอากาศแบบกลไก และปุ่มควบคุมระดับเสียงแบบสัมผัสที่ให้ทั้งความสะดวกสบาย และภาพลักษณ์ภายในห้องโดยสารที่เรียบหรู แนวทางการพัฒนาที่เป็นหัวใจของประสบการณ์การขับขี่ Porsche Driver Experience ใหม่ คือ การสร้างสมดุลย์ระ หว่างระบบดิจิทอล และระบบแอนาลอก นับเป็นครั้งแรกที่ Porsche ออกแบบภายในห้องโดยสารของ Porsche Cayenne ใหม่ ด้วยการติดตั้งแผงหน้าปัดระบบดิจิทอล ขนาด 12.6 นิ้ว ดีไซจ์นโค้งมนในแบบ Free-Standing พร้อมฟังค์ชันการแสดงผลอันหลากหลาย และยังสามารถติดตั้งอุปกรณ์พิเศษระบบ Head-up Display เพิ่มเติมได้ หน้าจอหลักขนาด 12.3 นิ้วของระบบติดต่อสื่อสาร Porsche Communication Management (PCM) ผสมผสานเข้ากับอุปกรณ์อื่นบริเวณแผงคอนโซลได้อย่างกลมกลืน และช่วยให้เข้าถึงฟังค์ชันการทำงานต่างๆของตัวรถได้อย่างง่ายดาย หน้าจอแสดงผลขนาด 10.9 นิ้วสำหรับผู้โดยสารตอนหน้า คือ อีกนวัตกรรมใหม่ล่าสุดที่เปิดตัวครั้งแรก มอบความสุน ทรีย์ให้แก่ผู้โดยสารตอนหน้าตลอดการเดินทาง ผ่านการแสดงข้อมูลตัวรถ สามารถรับชมรายการความบันเทิงต่างๆ ด้วยระบบควบคุมที่แยกเป็นอิสระ หน้าจอแบบอิสระไม่รบกวนวิสัยทัศน์ของผู้ขับขี่ ทั้งนี้รายการความบัน เทิงขึ้นอยู่กับพื้นที่จำหน่ายในแต่ละภูมิภาค งานดีไซจ์นใหม่ พร้อมนวัตกรรมเทคโนโลยีระบบไฟหน้าสุดล้ำ Porsche Cayenne ใหม่ มีรูปลักษณ์ภายนอกที่สร้างความประทับใจตั้งแต่แรกเห็น ชิ้นส่วนตัวถังด้านหน้าใหม่ และซุ้มล้อที่มีขนาดใหญ่ขึ้น ช่วยเพิ่มลุคให้ดูแข็งแกร่งยิ่งขึ้น ฝากระโปรงหน้าใหม่และไฟหน้าเทคโนโลยีล่าสุด เสริมให้มิติตัวรถดูกว้างขึ้น ไฟท้ายดีไซจ์น 3 มิติ รูปทรงของท้ายรถที่ลื่นไหลอย่างต่อเนื่อง กันชนท้ายใหม่พร้อมพื้นที่ติดตั้งป้ายทะเบียนที่ดีไซจ์นไว้อย่างลงตัว สร้างบุคลิกที่โดดเด่นไม่เหมือนใครจากมุมมองด้านหลังของ Porsche Cayenne ใหม่ เพิ่มเติมเฉดสีตัวถังภายนอกให้เลือกถึง 3 เฉดสี พร้อมทางเลือกสำหรับผู้ที่ต้องการความแตกต่าง ด้วยชุดแต่ง Lightweight Sports Packages ที่สามารถลดน้ำหนักได้ถึง 33 กก. ในรุ่น Cayenne Coupe และล้ออัลลอยลายใหม่ที่มีให้เลือกตั้งแต่ขนาด 20-22 นิ้ว เสริมมาดสปอร์ทเต็มพิกัดให้แก่ Porsche Cayenne ใหม่ พร้อมเพิ่มทางเลือกที่มีเอกลักษณ์เฉพาะตัวในแบบที่คุณต้องการ ไฟหน้า Matrix LED ถูกติดตั้งเป็นอุปกรณ์มาตรฐานใน Porsche Cayenne ใหม่ทุกรุ่น และยังสามารถเลือกติดตั้งไฟหน้า HD Matrix LED เป็นอุปกรณ์พิเศษได้อีกด้วย ไฟหน้าแบบใหม่นี้ควบคุมการทำงานด้วย High-Definition Modules 2 ตำแหน่ง ภายในโคมไฟหน้าประกอบไปด้วยหลอดไฟส่องสว่าง LED กว่า 32,000 พิกเซล ด้วยนวัตกรรมเทคโนโลยีใหม่ล่าสุดนี้ช่วยในการมองเห็นรถยนต์คันอื่น รวมทั้งป้องกันแสงสะท้อนจากไฟสูงของรถยนต์ที่วิ่งสวนทางจากการทำงานของ LED พิกเซลที่แม่นยำ ส่งผลให้ไม่เกิดอาการตาพร่าต่อทั้งผู้ขับขี่ และเพื่อนร่วมทาง กล่องควบคุมสามารถปรับเปลี่ยนความสว่างได้มากกว่า 1,000 ระดับ โหมดการทำงาน Customised light ช่วยยกระดับความปลอดภัย และความสะดวกสบายสูงสุดในทุกสถานการณ์การขับขี่ นอกจากนี้ Porsche ยังนำเสนอระบบฟอกอากาศประสิทธิภาพสูงซึ่งติดตั้งเป็นมาตรฐานใน Cayenne ใหม่ โดยรถยนต์จะใช้การประเมินสภาพอากาศล่วงหน้าผ่านข้อมูลดาวเทียม Predictive Navigation Data เพื่อตรวจจับสิ่งแปลกปลอมที่ผ่านเข้ามาในห้องโดยสาร และสั่งการไปยังระบบหมุนเวียนอากาศแบบอัตโนมัติ สามารถติดตั้งอุปกรณ์พิเศษเซนเซอร์ตรวจจับความหนาแน่นของฝุ่นละอองในอากาศ และส่งผ่านไปยังแผ่นกรองละ เอียดเป็นจำนวนหลายครั้งตามความจำเป็น ยิ่งไปกว่านั้นระบบฟอกอากาศ Ioniser ยังสามารถกำจัดเชื้อโรคต่างๆ รวมทั้งมลภาวะที่ปนเปื้อนออกจากอากาศ ลดผลกระทบต่อผู้โดยสารที่มีปัญหาเกี่ยวกับโรคภูมิแพ้ได้อีกด้วย ลูกค้าสามารถใช้งานฟังค์ชันช่วยเหลือการขับขี่อันหลากหลาย ซึ่งครอบคลุมไปถึงระบบจำกัดความเร็วอัตโนมัติ Active Speed Limiter ระบบควบคุมพวงมาลัย Swerve Assist และระบบช่วยเหลือขณะเข้าโค้ง Cornering Assist ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของระบบควบคุมความเร็วอัตโนมัติ Adaptive Cruise Control นั่นหมายความว่า Porsche Cayenne ใหม่ คือ ยนตรกรรมสปอร์ท SUV ที่มีระบบช่วยเหลือผู้ขับขี่ให้รอดพ้นจากสถานการณ์คับขันได้อย่างยอดเยี่ยม ไม่ว่าจะในขณะขับรถท่ามกลางสภาพจราจรติดขัดบนมอเตอร์เวย์ หรือบนถนนเส้นหลัก ยกระดับสมรรถนะการขับขี่ ควบคู่กับความสะดวกสบาย Porsche ติดตั้งอุปกรณ์มาตรฐานจากโรงงานให้แก่ Cayenne ด้วยช่วงล่าง Adaptive Air Suspension มาพร้อมระบบควบคุมการทำงานของช่วงล่าง Porsche Active Suspension Management (PASM) ยกระดับประ สบการณ์การขับขี่ให้เหนือชั้นยิ่งขึ้นด้วยระบบช่วงล่างถุงลมปรับระดับอัตโนมัติใหม่ล่าสุด เทคโนโลยี 2-Chamber และ 2-Valve เปิดประสบการณ์การเดินทางด้วยช่วงล่างที่นุ่มนวล ให้ความเสถียรสูงสุดทั้งการขับขี่บนเส้นทางออนโรด และออฟโรด เมื่อเปรียบเทียบกับระบบช่วงล่างมาตรฐาน และระบบช่วงล่างของรุ่นก่อนหน้า ในขณะเดียวกัน ระบบช่วงล่างถุงลมแบบปรับระดับอัตโนมัติ ยังช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการทำงาน การบังคับควบคุมที่แม่นยำ รวมทั้งลดอาการโคลงตัวในระหว่างการขับขี่ด้วยความเร็วสูง ยิ่งไปกว่านั้นยังสามารถสังเกตได้ถึงความแตกต่างของการขับขี่ระหว่างโหมดการทำงาน Normal, Sport และ Sport Plus Driving เครื่องยนต์ Hybrid ที่ทรงพลังยิ่งขึ้น พร้อมขับเคลื่อนด้วยพลังงานไฟฟ้าระยะทางสูงสุดถึง 90 กม. ในทวีปยุโรป Porsche Cayenne ใหม่ เปิดตัวครั้งแรกด้วยทางเลือกขุมพลังเครื่องยนต์แตกต่างกัน 3 รูปแบบ เริ่มจากเครื่องยนต์ V8 เทอร์โบคู่ ขนาดความจุ 4 ลิตร สำหรับติดตั้งลงใน Cayenne S ซึ่ง Porsche พัฒนาขึ้นเพื่อทดแทนเครื่องยนต์ V6 ในรุ่นก่อนหน้า ให้พละกำลังสูงสุด 474 แรงม้า (349 กิโลวัตต์) แรงบิดสูงสุด 61.2 กก.-ม. หรือ 600 นิวตันเมตร กำลังเพิ่มขึ้นถึง 34 แรงม้า (25 กิโลวัตต์) และแรงบิดเพิ่มขึ้น 5.10 กก.-ม. หรือ 50 นิวตันเมตร จากรุ่นก่อนหน้า อัตราเร่งจากเครื่องยนต์ดังกล่าวทั้งในรุ่นตัวถังปกติ และตัวถัง Coupe จากจุดหยุดนิ่งถึง 100 กม./ชม. ทำได้ภายใน 4.7 วินาที ความเร็วสูงสุดกว่า 273 กม./ชม. ในส่วนของรุ่นเริ่มต้นของ Porsche Cayenne ติดตั้งเครื่องยนต์ V6 เทอร์โบ ขนาดความจุ 3 ลิตร ให้พละกำลังสูงสุด 353 แรงม้า (260 กิโลวัตต์) แรงบิดสูงสุด 51.0 กก.-ม. หรือ 500 นิวตันเมตร หรือกำลังเพิ่มขึ้น 13 แรงม้า (10 กิโลวัตต์) และแรงบิดเพิ่มขึ้น 5.10 กก.-ม. หรือ 50 นิวตันเมตร จากรุ่นก่อนหน้า เครื่องยนต์ 6 สูบดังกล่าวยังถูกนำมาประจำการเป็นขุมพลังในรุ่น Cayenne E-Hybrid เมื่อทำงานร่วมกับมอเตอร์ไฟฟ้าประสิทธิภาพสูงรุ่นใหม่ ซึ่งให้พละกำลังเพิ่มขึ้นจากรุ่นเดิมถึง 30 กิโลวัตต์ เป็น 130 กิโลวัตต์ (176 แรงม้า) ส่งผลให้พละกำลังที่ได้จากทั้ง 2 ระบบอยู่ที่ 470 แรงม้า (346 กิโลวัตต์) ติดตั้งแบทเตอรี High-Voltage ความจุพลังงานเพิ่มขึ้นตั้งแต่ 17.9-25.9 กิโลวัตต์ชั่วโมง โดยขึ้นอยู่กับระดับของอุปกรณ์ สามารถเดินทางด้วยการใช้พลังงานไฟฟ้าอย่างเดียวเป็นระยะทางสูงสุดถึง 90 กม. ตามมาตรฐาน WLTP ระบบ On-Board Charger ใหม่ล่าสุดขนาด 11 กิโลวัตต์ ช่วยลดระยะเวลาการชาร์จพลังงานให้สั้นลงภายในเวลาไม่เกิน 2 ชม. 30 นาที เมื่อใช้กำลังไฟที่เหมาะสม ถึงแม้จะเปลี่ยนเป็นแบทเตอรีที่มีความจุมากกว่าเดิมก็ตาม ในระหว่างการขับขี่ด้วย E-Hybrid Driving Modes จะช่วยให้รถยนต์ทำงานด้วยประสิทธิภาพสูงสุด สำหรับนอกภูมิภาคยุโรป รุ่น Turbo GT ได้รับการกำหนดให้เป็นเวอร์ชันที่มีสมรรถนะสูงสุดสำหรับการขับขี่แบบออนโรด รวมทั้งรับหน้าที่เป็นรุ่นเรือธงในเกือบทุกตลาดที่มีการจำหน่าย Porsche Cayenne โดยสามารถเลือกตัวถังแบบ Coupe และอุปกรณ์นวัตกรรมเทคโนโลยีประจำรุ่นได้ทั้งหมด นอกจากนี้ด้วยพละกำลังมหาศาลที่เพิ่มขึ้น 19 แรงม้า (14 กิโลวัตต์) รวมเป็น 659 แรงม้า (485 กิโลวัตต์) จากเครื่องยนต์ V8 เทอร์โบคู่ ขนาดความจุ 4 ลิตร ส่งผลให้ Porsche Cayenne Turbo GT มีอัตราเร่งจาก 0-100 กม./ชม. ภายในระยะเวลาเพียง 3.3 วินาที พร้อมความเร็วสูงสุดกว่า 305 กม./ชม. เพิ่มเติมอุปกรณ์มาตรฐานเต็มพิกัด พร้อมเปิดรับจองด้วยราคาจำหน่ายเริ่มต้นที่ 6.5 ล้านบาท Porsche Cayenne ใหม่ ได้รับการเพิ่มเติมรายการอุปกรณ์มาตรฐานมากมาย ซึ่งรวมถึงระบบไฟหน้า Matrix LED ระบบควบคุมการทำงานของช่วงล่างถุงลมปรับระดับอัตโนมัติ Porsche Active Suspension Manage ment ล้ออัลลอยขนาด 20 นิ้ว ระบบช่วยเหลือขณะจอด Park Assist ทั้งด้านหน้า และด้านหลัง รวมทั้งกล้อง Surround View Porsche วางจำหน่าย Cayenne ใหม่ ด้วยราคาเริ่มต้น 7.95 ล้านบาท รุ่นตัวถัง Coupe ราคาเริ่มต้น 8.25 ล้านบาท รวมภาษีมูลค่าเพิ่ม และอุปกรณ์มาตรฐานเฉพาะตลาดในแต่ละภูมิภาค สำหรับ Cayenne E-Hybrid ราคาเริ่มต้น 6.59 ล้านบาท รุ่นตัวถัง Coupe ราคาเริ่มต้น 6.89 ล้านบาท และ Cayenne S ราคาเริ่มต้น 10.5 ล้านบาท รุ่นตัวถัง Coupe ราคาเริ่มต้น 10.8 ล้านบาท Porsche Cayenne ใหม่ เปิดรับจองแล้ววันนี้ และจะเริ่มทยอยส่งมอบในทวีปยุโรปช่วงเดือนกรกฎาคม 2566 เป็นต้นไป สำหรับตลาดในประเทศไทยจะเริ่มส่งมอบในช่วงเดือน ตุลาคมนี้