ธุรกิจ
รัฐ-เอกชน ร่วมขับเคลื่อนไทยสู่ฮับพลังงาน
ดร. วีรพัฒน์ เกียรติเฟื่องฟู รองปลัดกระทรวงพลังงาน กล่าวว่า ประเทศไทยตั้งเป้าหมายบรรลุความเป็นกลางทางคาร์บอน (Carbon Neutrality) ภายในปี 2593 และลดการปล่อยแกสเรือนกระจกสุทธิเป็นศูนย์ (Net Zero Greenhouse Gas Emission) ภายในปี 2608 ซึ่งการจัดงาน Future Energy Asia and Future Mobility Asia 2023 ในครั้งนี้ เป็นหนึ่งในแนวทางสำคัญที่ช่วยส่งเสริมให้ประเทศไทยสามารถบรรลุเป้าหมายทางพลังงาน และสิ่งแวดล้อม ดังกล่าวได้ ผ่านพแลทฟอร์มความร่วมมือทางธุรกิจ และการสร้างเครือข่ายพันธมิตรในอุตสาหกรรมพลังงาน และยานยนต์ ผ่านการประสานภาคธุรกิจ นวัตกร และฝ่ายนโยบาย ให้สามารถสร้างก้าวสำคัญในการข้ามความท้าทายด้านพลังงานทั้ง 3 ประการ (Energy Trilemma) อันประกอบไปด้วย 1. การสร้างความมั่นคงทางพลังงาน 2. การเข้าถึงพลังงานในราคาที่เหมาะสม และ 3. ความยั่งยืนทางสิ่งแวดล้อม ซึ่งจะมาช่วยเสริมสร้างความมั่นคงด้านพลังงานในระหว่างการเปลี่ยนผ่านสู่พลังงานสะอาด ทั้งในระดับภูมิภาค และระดับโลก
คริสโตเฟอร์ ฮัดสัน ประธาน บริษัท ดีเอ็มจี อีเว้นท์ โกลบอลล์ เอนเนอร์ยี จำกัด กล่าวว่า นับเป็นการต่อยอดความสำเร็จ และเป็นการกลับมาอย่างยิ่งใหญ่ของการจัดงาน Future Energy Asia and Future Mobility Asia 2023 ในปีนี้เรายังคงผลักดันประเทศไทยสู่ศูนย์กลางด้านการเปลี่ยนผ่านพลังงานแห่งภูมิภาคเอเชีย โดยเชื่อว่าหนทางสู่การบรรลุความเป็นกลางทางคาร์บอนนั้น ไม่ใช่เพียงการเปลี่ยนจากเชื้อเพลิงฟอสซิลแบบดั้งเดิม มาสู่แหล่งพลังงานหมุนเวียนเท่านั้น แต่ต้องมีการปรับทั้งโครงสร้างพลังงาน พร้อมกับการพัฒนาประสิทธิภาพ และความสามารถในการเข้าถึงพลังงาน และนำเทคโนโลยีใหม่ๆ มาใช้ควบคู่กัน ซึ่งการนำเสนอนวัตกรรม และโซลูชันล่าสุดที่จะเข้ามามีบทบาทในการเปลี่ยนแปลงอุตสาหกรรมพลังงาน ตลอดจนแนวนโยบายจากผู้นำด้านพลังงานในงาน Future Energy Asia and Future Mobility Asia 2023 ครั้งนี้ จะเป็นรากฐานสำคัญแห่งการเปลี่ยนแปลงด้านอุตสาหกรรมพลังงานในเอเชีย และทั่วโลก
ด้าน ประสงค์ อินทรหนองไผ่ รองกรรมการผู้จัดการใหญ่ด้านบริหารกลยุทธ์กลุ่มธุรกิจปิโตรเลียมขั้นปลาย บริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า ปตท. ได้วางหมุดหมายให้ประเทศไทยเป็นศูนย์กลางด้านแกสธรรมชาติเหลวของภูมิภาค ซึ่งการเปลี่ยนผ่านสู่วิถีคาร์บอนต่ำนี้ ไม่ได้มีที่มาจากข้อกำหนดด้านสิ่งแวดล้อมเพียงเท่านั้น แต่ยังเป็นโอกาสทางเศรษฐกิจที่ดีอีกด้วย โดยประเทศไทยสามารถสร้างตำแหน่งงานใหม่ๆ พร้อมกระตุ้นการเติบโตทางเศรษฐกิจ และเพิ่มความมั่นคงด้านพลังงานได้ด้วยการโอบรับโซลูชันพลังงานสะอาด ดังนั้นงาน Future Energy Asia and Future Mobility Asia 2023 จึงเป็นเวทีสำคัญสำหรับการมุ่งย้ำวิสัยทัศน์ และการกำหนดทิศทางการดำเนินแผนงานของ ปตท. ผ่านความร่วมมือกับภาครัฐ และพันธมิตรในภาคเอกชน
ขณะที่ ธนสิทธิ์ วิชัยไพโรจน์วงศ์ ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการใหญ่ สายงานกลยุทธ์องค์กร บริษัท ปตท. สำรวจและผลิตปิโตรเลียม จำกัด (มหาชน) หรือ ปตท.สผ. กล่าวว่า เพื่อรับมือกับความท้าทายด้านการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ การเปลี่ยนผ่านด้านพลังงานไปสู่พลังงานสะอาด จึงมีบทบาทสำคัญที่จะช่วยผลักดันให้เกิดสังคมคาร์บอนต่ำ ซึ่งอุตสาหกรรมพลังงานในปัจจุบันได้พยายามเร่งดำเนินการในการลดการปล่อยแกสเรือนกระจก ปตท.สผ. เองได้ตั้งเป้าหมายการปล่อยแกสเรือนกระจกสุทธิเป็นศูนย์ ภายในปี 2593 โดยมีแผนที่จะเพิ่มสัดส่วนของการผลิตแกสธรรมชาติให้มากขึ้น พร้อมๆ กับการแสวงหาโอกาสการลงทุนในพลังงานรูปแบบใหม่ รวมถึงการใช้นวัตกรรม และเทคโนโลยีเพื่อลดการปล่อยแกสเรือนกระจก เพื่อดูแลรักษา และส่งมอบสิ่งแวดล้อมที่ดีให้แก่คนรุ่นหลังต่อไป
ประเสริฐศักดิ์ เชิงชวโน รองผู้ว่าการด้านยุทธศาสตร์ การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) กล่าวเสริมว่า จากการที่อุตสาหกรรมพลังงานในปัจจุบันมีการเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว ความร่วมมือ และการสร้างเครือข่ายพันธมิตรระหว่างภาคส่วน และหน่วยงาน จึงเป็นปัจจัยสำคัญในการสร้างแนวทางเพื่อลดผลกระทบจากการเปลี่ยนแปลงของสภาพอากาศในระยะยาว ดังนั้นงาน Future Energy Asia and Future Mobility Asia 2023 จึงเป็นเวทีสำคัญที่ทำให้ผู้มีส่วนได้ส่วนเสียทุกฝ่ายสามารถร่วมแบ่งปันความรู้ แลกเปลี่ยนความคิดเห็น รวมถึงทำงานร่วมกันเพื่อเร่งการเปลี่ยนแปลงสู่ระบบพลังงานที่ยั่งยืน
ไฮไลท์ภายในงาน Future Energy Asia มุ่งเน้นการการนำเสนอประเด็นสำคัญที่ครอบคลุมทั้วห่วงโซ่คุณค่าด้านพลังงาน รวมไปถึงการเน้นย้ำถึงศักยภาพของเชื้อเพลิงทางเลือก ตั้งแต่พลังงานทดแทนไฮโดรเจน และแกสธรรมชาติ การสร้างสมดุลระหว่างความมั่นคงทางพลังงาน และการขยายขอบเขตเป้าหมายการปล่อยแกสเรือนกระจกเป็นศูนย์ ไปจนถึงการปรับปรุงระบบส่ง และโครงข่ายการกระจายสินค้าให้ทันสมัย ผ่านไฮไลท์กิจกรรมต่างๆ ประกอบด้วย
- การจัดแสดงนวัตกรรม และสินค้าเพื่อพลังงานสะอาดจากบริษัทชั้นนำทั่วโลก
- การประชุมเชิงกลยุทธ์ และเชิงเทคนิคด้านการเปลี่ยนผ่านสู่พลังงานสะอาด เกี่ยวกันอนาคตของแกสธรรมชาติในเอเชีย ความสำคัญของเครือข่ายพันธมิตรระดับภูมิภาค เพื่อสนับสนุนการเปลี่ยนผ่านสู่พลังงานสะอาด การขับเคลื่อนระบบโครงข่ายไฟฟ้าอัจฉริยะ รวมถึงการดึงดูด และรักษาบุคลากรด้านพลังงาน ซึ่งร่วมบรรยาย และอภิปรายโดยนักวิชาการ และผู้นำด้านพลังงานจากหน่วยงานชั้นนำ อาทิ การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) บริษัท ปตท. จํากัด (มหาชน) บริษัท ปตท. สำรวจและผลิตปิโตรเลียม จำกัด (ปตท.สผ.) เป็นต้น
ทั้งนี้ การจัดนิทรรศการ และการจัดบรรยายในงาน Future Energy Asia จะช่วยขับเคลื่อนนวัตกรรมที่บุกเบิกแนวทางสู่การบรรลุเป้าหมายการปล่อยแกสเรือนกระจกเป็นศูนย์ พร้อมอำนวยความสะดวกในการสร้างพันธมิตรทางธุรกิจ ซึ่งจะส่งเสริมให้ภาคอุตสาหกรรมสามารถส่งมอบความมั่นคงทางพลังงานที่สามารถเข้าถึงได้สำหรับทุกคน
ไฮไลท์ภายในงาน Future Mobility Asia
การประชุมอภิปรายด้านอุตสาหกรรมยานยนต์ที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในภูมิภาค จะมุ่งนำเสนอแนวคิด โซลูชัน เทคโนโลยี และนวัตกรรมยานยนต์สะอาดแห่งอนาคต อันเป็นหัวใจสำคัญในการบรรลุการเปลี่ยนผ่านสู่พลังงานสะอาด เนื่องจากการคมนาคมถือเป็นต้นเหตุสำคัญของการปลดปล่อยแกสเรือนกระจก โดยคิดเป็นอัตราส่วนถึง 1 ใน 4 ของการปลดปล่อยแกสเรือนกระจกทั่วโลก ซึ่งงาน Future Mobility Asia มุ่งสร้างการเปลี่ยนแปลงให้แก่ภาคยานยนต์ ด้วยการเป็นศูนย์กลางในการสร้างเครือข่ายระหว่างผู้ผลิต ผู้คิดค้นนวัตกรรม ผู้ให้บริการหลังการขาย และผู้ให้บริการด้านเทคโนโลยียานยนต์ ได้ร่วมขับเคลื่อนการเปลี่ยนแปลงสู่ยานยนต์เพื่อพลังงานสะอาดในภูมิภาคเอเชีย
นอกจากไลน์อัพการจัดแสดงยานยนต์ ตั้งแต่รถยนต์ไฟฟ้าขับเคลื่อนแบบ 2 ล้อ และ 4 ล้อ ยานพาหนะทางอากาศแบบอัตโนมัติ รถเมล์ไฟฟ้า แบทเตอรีรถยนต์ไฟฟ้า ซอฟท์แวร์ และเทคโนโลยีขับเคลื่อนอัตโนมัติ รวมไปถึงชิ้นส่วน และอุปกรณ์หลังการขาย ที่จะร่วมพลิกโฉมภาคพลังงานแล้ว ภายในงาน Future Mobility Asia ยังประกอบไปด้วยกิจกรรมที่ผู้ร่วมงานไม่ควรพลาด ไม่ว่าจะเป็น
- The Future Mobility Hub การจัดแสดงโซลูชันยานยนต์อนาคตในรูปแบบอินเตอร์แอคทีฟ พร้อมร่วมชมการสาธิตโมเดลการคมนาคมด้วยยานยนต์ไฟฟ้าในโลกเสมือนจริง
- โซนสาธิตยานยนต์ไฟฟ้า สัมผัสประสบการณ์การขับรถยนต์ไฟฟ้ารุ่นใหม่ล่าสุดจาก Vinfast บริษัทรถยนต์ไฟฟ้าชื่อดังสัญชาติเวียดนาม ได้ก่อนใคร
- การบรรยายเวทีกลางโดยหน่วยงานด้านการลงทุน การคมนาคม และบริษัทยานยนต์พลังงานสะอาดระดับโลก อาทิ สำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน (BOI), ฝ่ายการพัฒนาการขนส่งอย่างยั่งยืนแห่งธนาคารโลก, Google, Volvo Truck, Vinfast และ Dassault Systemes เป็นต้น
งาน Future Energy Asia and Future Mobility Asia 2023 จัดขึ้นระหว่างวันที่ 17-19 พฤษภาคม 2566 ณ Strategic Conference, Hall 1 ชั้น G ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ โดยผู้สนใจสามารถติดตามรายละเอียดของงานเพิ่มเติมได้ผ่านทาง www.futureenergyasia.com และ www.future-mobility.com