เพียงเปลี่ยนหัวใจก็กลายเป็นตำนาน

บทความจากอังกฤษ ระบุว่า รถยนต์ระดับไอคอน รูปทรงสวย และสมรรถนะก็เป็นสิ่งสำคัญ รถระดับตำนานทั้ง 9 คันนี้ เปิดตัวด้วยเวอร์ชันธรรมดา เพียงเปลี่ยนเครื่องยนต์ที่เหมาะสม สมรรถนะสูงขึ้นสามารถลงแข่งขันระดับโลก จนกลายเป็นที่ต้องการและกล่าวขานถึงจนทุกวันนี้ AC Ace AC Ace โรดสเตอร์จากอังกฤษ เปิดตัวในปี 2496 มีเครื่องยนต์ให้เลือกหลายขนาด สุดยอดด้วยเครื่องยนต์ Ford แบบ 6 สูบเรียง ความจุ 2.6 ลิตร เป็นรถสมรรถนะสูง และมีแฮนด์ลิงระดับรถแข่งที่ใช้งานบนถนนสาธารณะได้อย่างถูกกฎหมาย จนข้ามฝั่งไปถึงเทกซัสเข้าตา Carroll Shelby จัดการเพาะกล้ามจนมีพละกำลังสูงขึ้น Carroll Shelby นำ AC Ace มาพัฒนาใหม่โดยใช้ชื่อ Cobra วางเครื่อง Ford Windsor เครื่องยนต์แบบ วี 8 สูบ ความจุ 4.3 ลิตร และเพิ่มความจุเป็น 4.7 ลิตร AC Cobra สร้างชื่อเสียงมากมายในสนามแข่ง จนเจเนอเรชันใหม่ที่ใช้เครื่องยนต์ Ford FE แบบ วี 8 สูบ ความจุ 7.0 ลิตร Alpine A110 Alpine A110 รุ่นแรกวางตลาดด้วยเครื่องยนต์ Renault Cléon-Fonte จากนั้นจึงเปลี่ยนเป็นเครื่อง Cléon-Alu ความจุเพิ่มขึ้น จากเครื่องยนต์ของ Renault 16 ที่เปิดตัวไปก่อนหน้านี้ 1 ปี เครื่องยนต์ Renault 16 ลงตัวมากกับ Alpine A110 เวอร์ชันตัวแข่งแรลลี และทำให้ A110 สามารถร่วมการแข่งขันระดับ World Rally จนในปี 2514 Alpine A110 สามารถเอาชนะคู่แข่ง และคว้าตำแหน่งแชมพ์รายการ World Rally Championship ชนะ 6 สนาม มีคะแนนสะสมในฤดูกาล 147 คะแนน ในขณะที่ Fiat ได้ 84 คะแนน และ Ford ได้ 76 คะแนน Chevrolet Corvette Chevrolet Corvette รถที่ได้รับความนิยมสูงสุดในประวัติศาสตร์ของรถสปอร์ท แทบไม่น่าเชื่อว่าเจเนอเรชันแรก เปิดตัวในปี 2469 ใช้เครื่องยนต์ แบบ 6 สูบเรียง จึงทำยอดขายได้ไม่ดีนัก  2 ปีต่อมาได้เปลี่ยนขุมพลังใหม่เป็นเครื่องยนต์แบบ วี 8 สูบ บลอคเล็ก ความจุ 4.3 ลิตร ต่อมาเพิ่มความจุเป็น 4.6 และ 5.4 ลิตร นับว่าเป็นสิ่งที่ตรงใจอเมริกันชนมาก ทำให้ยอดขาย Corvette เพิ่มขึ้น จากรถที่ไม่มีใครสนใจวางขายยาวนานมาถึงปี 2505 แม้เวลาผ่านมาถึง 6 ทศวรรษ Corvette ยังติดอันดับรถสปอร์ทขายดี Ford Cortina Ford Cortina รุ่นแรก (Mk1) เปิดตัวด้วยเครื่องยนต์ Crossflow Kent ความจุ 1.2 และ 1.5 ลิตร ต่อมาถูกวางเครื่องยนต์ใหม่ ใช้ชื่อรุ่นว่า Lotus Cortina ที่สร้างชื่อเสียงให้กับรุ่นนี้มาก พื้นฐานเครื่องยนต์นี้เหมือนกับเครื่องยนต์ Kent แต่ต่างกันด้วยฝาสูบ Lotus Twin Cam ที่เปิดตัวครั้งแรกด้วย Lotus Elan ให้กำลัง 100 แรงม้า และต่อมาทีมแข่งหลายทีมได้ปรับแต่งเครื่องยนต์จนประสบความสำเร็จ ทั้งการแข่งขันทางเรียบ และทางฝุ่น ทั้งยังเป็นรถที่ได้รับความนิยมสูงมากในยุค 60 Ford Escort Ford Escort เครื่องยนต์จาก Lotus Twin Cam ด้วย จนทำให้ Escort Mk1 ได้รับความนิยมมากขึ้น และต่อมาไม่นาน สร้างปรากฏการณ์ใหม่เมื่อ Ford Escort วางเครื่องยนต์ Cosworth BDA ด้วยชื่อ Ford Escort RS1600 ที่โด่งดังมากในปี 2513 เครื่องยนต์ Cosworth BDA ใช้พื้นฐานจากเครื่องยนต์ Kent ธรรมดา เมื่อติดตั้งฝาสูบแบบ 4 วาล์ว/สูบ ทำให้เครื่องยนต์มีประสิทธิภาพสูงขึ้น จนทำให้ Ford Escort Mk1 เป็นหนึ่งในรถแข่งทางฝุ่นที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในยุค 70 แม้แต่ในปัจจุบัน การได้ยินเสียงเครื่องยนต์ RS1600 ที่ผ่านการปรับแต่งอย่างเต็มที่ แผดเสียงผ่านสเตจจะเป็นประสบการณ์ที่ลืมไม่ลง Ford Sierra Ford Sierra รถขนาดกลางที่ถูกวางตำแหน่งในตลาดยุโรป ระหว่าง Cortina และ Mondeo มีเครื่องยนต์ให้เลือกหลายขนาด แต่ที่ถูกกล่าวถึงมาก คือ เครื่องยนต์ วี 6 สูบ จนปี 2529 เปิดตัว Sierra RS Cosworth พร้อมเครื่องยนต์ 4 สูบเรียง 2.0 ลิตร ที่ทำให้ Sierra โดดเด่นขึ้นมา ด้วยเครื่องยนต์ธรรมดาจาก Ford Pinto ติดตั้งฝาสูบ 16 วาล์ว และเทอร์โบชาร์เจอร์ ทำให้มีกำลัง 200 แรงม้า แรงกว่า Sierra ทุกรุ่นที่เคยผลิตออกมา และเมื่อลงสู่สนามแข่ง เครื่องยนต์นี้สามารถปรับแต่งจนได้กำลังสูงสุดถึง 600 แรงม้า MGB MGB Roer เปิดตัวในปี 2505 และเปิดตัวเวอร์ชันคูเป คือ MGB GT ในอีก 3 ปีต่อมา ทั้งมีเวอร์ชันสมรรถนะสูง คือ MGC ที่วางเครื่องยนต์ 6 สูบเรียง ความจุ 2.9 ลิตร แต่ไม่ได้รับความนิยม วางขายอยู่เพียง 2 ปีก็หายไปจากโชว์รูม MG ยังไม่หยุดความพยายาม ในปี 2516 ได้เปิดตัว MGB GT V8 วางเครื่องยนต์ Buick ความจุ 3.5 ลิตร ที่ใช้ใน Rover ถูกนำมาใช้ในบอดีคูเป แม้เหนือกว่า MGC ในทุกด้าน แต่ก็อยู่ได้ไม่นาน และมีชะตากรรมแบบเดียวกัน Talbot Sunbeam Sunbeam จะผลิตรถออกมาโดยวางเครื่องยนต์ 1.3 หรือ 1.6 ลิตร จาก Hillman Avenger หรือเครื่องยนต์ 928 ซีซี ใน Hillman Imp แต่ Talbot Sunbeam ฉีกแนวด้วยเครื่องยนต์ 2.2 ลิตร 16 วาล์วจาก Lotus ที่วางในรถสปอร์ท Jensen-Healey และใน Lotus อีกหลายรุ่น ด้วยพละกำลัง 150 แรงม้า ทำให้ Sunbeam Lotus คือ รถถนนสมรรถนะสูงรุ่นหนึ่งในยุคนั้น แต่บริษัทมีเป้าหมายที่สูงกว่า คือ การสร้างชื่อผ่านการแข่งขัน ซึ่งประสบความสำเร็จ โดย Sunbeam Lotus สามารถคว้าแชมพ์ผู้ผลิตให้ Talbot ในการแข่งขัน World Rally Championship ปี 2524 Vauxhall Chevette Vauxhall Chevette รถแฮทช์แบคขนาดเล็ก ที่ใช้พื้นฐานร่วมกับ Opel Kadett วางเครื่องยนต์ความจุ 1,256 ซีซี และใช้แผนการตลาดเหมือนกับ Talbot Sunbeam ผลิตรุ่นสมรรถนะสูง เพื่อสร้างชื่อเสียงจากการร่วมการแข่งขันรถยนต์ทางฝุ่น ด้วยขุมพลัง 4 สูบ วางเอียง ความจุ 2.3 ลิตร 16 วาล์ว ใช้ชื่อ Chevette HS เริ่มแรกใช้ฝาสูบที่พัฒนาโดย Lotus แต่ต่อมาโดนแบน หลังจากนั้นได้ทำการปรับปรุงอีกครั้งเป็นเวอร์ชัน HSR และใช้ชิ้นส่วนตัวถังที่ขึ้นรูปจากวัสดุไฟเบอร์กลาสส์มากขึ้น ทั้งชิ้นส่วนด้านหน้า และสปอยเลอร์ท้าย ทำให้มีรูปทรงโดดเด่นมาก