ระเบียงรถใหม่
All-New Toyota C-HR 2024 เพิ่มรุ่น PHEV เป็นครั้งแรก

ด้วยรูปลักษณ์ที่แหวกแนวการออกแบบของค่ายรถในยุคนั้น ตลอดจนสมรรถนะการขับขี่ที่ดีกว่ารถรุ่นอื่นๆ ของค่าย ทำให้ Toyota C-HR ได้รับกระแสการตอบรับที่ดีเรื่อยมา จนล่าสุด Toyota ก็ได้ตัดสินใจพัฒนารถยนต์รุ่นนี้ต่อ โดยมีการเผยโฉม All-New Toyota C-HR เจเนอเรชันที่ 2 ภายในปีนี้
All-New Toyota C-HR การออกแบบของ C-HR ใหม่ ถูกยกมาจากรถยนต์ต้นแบบ C-HR Prologue Concept ด้านหน้ามาพร้อมภาษาการออกแบบล่าสุด คล้ายกับทั้ง Toyota Crown และ Prius กระจังหน้าเป็นแบบ Hammerhead Design ไฟหน้า LED รูปตัว C ซึ่งคล้ายกับ Prius ใหม่ กระจังหน้าขนาดใหญ่ และกันชน ที่ตกแต่งด้วยสีทูโทน สีดำเงา
มือจับเปิดประตูแบบ Flush Door Handle เรียบไปกับตัวถัง โดยได้รับการออกแบบให้เหมาะกับหลักอากาศพลศาสตร์ สปอยเลอร์หลังทำให้ตัวรถดูสปอร์ทยิ่งขึ้น แถบไฟด้านท้ายแบบเต็มความกว้าง และมีคำว่า C-HR เป็นไฟแอลอีดีสีแดงอยู่ตรงกลาง รูปทรงตัวรถคล้ายกับรุ่นก่อนหน้านี้
มิติตัวถังมีขนาดใกล้เคียงกับรุ่นเดิม โดยมีความยาว 4,360 มม. กว้าง 1,830 มม. สูง 1,558-1,564 มม. ระยะฐานล้อ 2,640 มม. ล้ออัลลอยขนาด 19 นิ้ว พร้อมยางขนาด 225/50 R19 และในรุ่น GR Sport ใช้ล้อขนาด 20 นิ้ว พร้อมยาง 245/40 R120
สำหรับการออกแบบภายในห้องโดยสาร มีดีไซจ์น และการจัดวางอุปกรณ์เหมือนกับรถยนต์รุ่นใหม่ของ Toyota เป็นห้องโดยสารที่เน้นคนขับเป็นหลัก โดยมีส่วนควบคุมหลักที่ทำมุมเข้าหาคนขับ แดชบอร์ดล้อมรอบซึ่งแยกผู้โดยสารที่นั่งด้านหน้า ทำให้รถดูสปอร์ท และยังมีการเน้นสีสันมากมาย ด้วยการติดตั้งไฟ Ambient Light ปรับได้ 64 เฉดสี หลังคากระจก Panoramic Sunroof
ระบบอินโฟเทนเมนท์มาพร้อมหน้าจอสัมผัสขนาด 12.3 นิ้ว พร้อม Apple CarPlay และ Android Auto รวมถึงจอแสดงผลดิจิทอลขนาด 12.3 นิ้ว เครื่องเสียง JBL Premium Audio System สามารถสตาร์ทเครื่องยนต์ด้วยกุญแจดิจิทอลบนโทรศัพท์ของเจ้าของรถ และรถสามารถรับรู้ได้ว่า ใครกำลังขับรถ และตั้งค่ารถตามที่คุณต้องการ ซึ่งรวมถึงการปรับที่นั่ง และการกำหนดค่าจอแสดงผลดิจิทอลตามต้องการ
เครื่องยนต์ใน All-New Toyota C-HR มี 3 แบบ ซึ่งทั้งหมดใช้ระบบไฮบริด และมีตัวเลือกเป็นพลัก-อิน ไฮบริด เป็นครั้งแรก โดยยกมาจาก Toyota Prius ใหม่ ที่เพิ่งเปิดตัวไปก่อนหน้า เริ่มที่เครื่องยนต์เบนซิน Hybrid 4 สูบ DOHC 16 วาล์ว ขนาด 1.8 ลิตร ทำงานร่วมกับมอเตอร์ไฟฟ้า กำลังสูงสุด 140 แรงม้า จับคู่กับเกียร์อัตโนมัติ E-CVT ขับเคลื่อนล้อหน้า และทำความเร็ว 0-97 กม./ชม. ภายใน 9.9 วินาที
เครื่องยนต์แบบที่ 2 เป็นเบนซิน Hybrid 4 สูบ DOHC 16 วาล์ว ขนาด 2.0 ลิตร ทำงานร่วมกับมอเตอร์ไฟฟ้า กำลังสูงสุด 196 แรงม้า จับคู่กับเกียร์อัตโนมัติ E-CVT ขับเคลื่อนล้อหน้า และขับเคลื่อน 4 ล้อ E-Four รุ่นขับเคลื่อนล้อหน้าทำความเร็ว 0-96 กม./ชม. ภายใน 8.1 วินาที ในขณะที่รุ่น AWD จะทำได้ใน 7.9 วินาที
สุดท้ายเป็นเครื่องยนต์เบนซิน Plug-in Hybrid 4 สูบ ขนาด 2.0 ลิตร Dynamic Force ทำงานร่วมกับมอเตอร์ไฟฟ้า 2 ตัว ให้กำลังสูงสุดรวม 223 แรงม้า พ่วงด้วยแบทเตอรีแบบลิเธียม-ไอออน ขนาด 13.6 กิโลวัตต์ชั่วโมง วิ่งด้วยไฟฟ้าล้วนระยะทางสูงสุด 66 กม. สามารถทำความเร็ว 0-96 กม./ชม. ภายใน 7.4 วินาที
มาพร้อมระบบความปลอดภัยขั้นสูง เช่น ระบบช่วยเปลี่ยนเลน ซึ่งสามารถเปลี่ยนเลนได้โดยอัตโนมัติ และยังมีระบบควบคุมความเร็วคงที่แบบปรับได้ ซึ่งสามารถจัดการคันเร่ง และเบรค ตามสภาวะแวดล้อมของผู้คน และยานพาหนะรอบข้าง
All-New Toyota C-HR รุ่นใหม่นี้ จะวางจำหน่ายในสหราชอาณาจักร ช่วงปลายปีนี้ ส่วนในเมืองไทย คงต้องรอลุ้นกันอีกทีว่าจะมีการทำตลาดต่อจากรุ่นเดิมหรือไม่ 
บทความแนะนำ

