อเลกซานเดอร์ วอน วาลเดนเบอร์ก เดรสเซล ผู้อํานวยการฝ่ายต่างประเทศ กลุ่มประเทศอาเซียน ไต้หวัน อินเดีย และยุโรปตะวันออก Audi AG เปิดเผยว่า นับจากปี 2026 เป็นต้นไป Audi จะก้าวเข้าสู่ยุคยนตรกรรมไฟฟ้าแห่งโลกอนาคตเต็มขั้น ความมุ่งมั่นภายใต้กลยุทธ์ Vorsprung 2030 แผนการเปิดตัวรถรุ่นใหม่สู่ตลาดโลกจะเป็นรถไฟฟ้า 100 % เส้นทางสู่ e-mobility ของ Audi นั้นถือเป็นการก้าวไปสู่การขับเคลื่อนด้วยพลังงานไฟฟ้าครั้งสำคัญ ที่ทำให้เราได้เตรียมความพร้อมทุกด้าน ไม่ว่าจะเป็นการพัฒนารถรุ่นใหม่ใน Product Portfolio การพัฒนาบุคลากรที่มีทักษะความสามารถ รวมไปจนถึงแผนการดำเนินการ เพื่อเตรียมสายการผลิตทั่วโลกให้พร้อมรองรับการผลิตรถยนต์ไฟฟ้า 100 % และการขยายตัวอย่างยั่งยืน
กฤษณะกร เศวตนันทน์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ไมซ์สเตอร์เทคนิค จำกัด หรือ Audi ประเทศไทย กล่าวถึงการเปิดตัว Audi Q8 e-tron รถไฟฟ้า 100 % ซึ่งถือเป็น The Next Chapter of Premium Sport SUV “นี่คือนิยามบทใหม่ของยนตรกรรมไฟฟ้าแห่งโลกอนาคต การออกแบบที่ได้รับแรงบันดาลใจจาก Concept Car ตระกูล Sphere วันนี้ได้กลายเป็นจริงบนท้องถนนแล้ว Audi Q8 e-tron ถือเป็นนวัตกรรมที่จะเปลี่ยนโลกยานยนต์ไฟฟ้าพรีเมียมไปตลอดกาล ไม่ว่าจะเป็นดีไซจ์นใหม่สุดล้ำสมัย เทคโนโลยีการขับขี่อัจฉริยะ และสมรรถนะอันยอดเยี่ยมเพื่อสร้างโลกที่น่าอยู่ และยั่งยืน
Audi Q8 e-tron เป็นรถไฟฟ้า 100 % ของ Audi ที่ขับสนุก เต็มไปด้วย Performance มาพร้อมกับดีไซจ์นที่ถือว่าเป็น Best Aerodynamic in class แบทเตอรีเจเนอเรชันใหม่ ที่ได้รับการพัฒนาให้มี Capacity ใหญ่ขึ้น ความจุถึง 114 กิโลวัตต์ชั่วโมง ทำให้เมื่อชาร์จแบทเตอรีเต็มแล้วสามารถวิ่งได้ระยะทางกว่า 600 กม. ตัวรถ และอุปกรณ์อำนวยความสะดวกมีความสดใหม่ มั่นใจเมื่อขับขี่ด้วย Handling ที่แม่นยำ ช่วงล่างนุ่มสบาย เกาะถนนสุดๆ ด้วย e-quattro เป็นการขับขี่ที่ตอบสนองความคาดหวัง และผู้ขับขี่อยากได้จากรถ
Q8 e-tron Sportback 55 S line Black edition
The Best Driving Range in class ไม่ว่าไลฟ์สไตล์จะเป็นแบบไหนก็ออกเดินทางได้อย่างไร้กังวล เพราะแบทเตอรีเจเนอเรชันใหม่ของ Audi Q8 e-tron มีความจุถึง 114 กิโลวัตต์ชั่วโมง ทำให้ได้ระยะทางวิ่งไกลถึง 636 กม./การชาร์จไฟเต็ม 1 ครั้ง แบทเตอรีถูกพัฒนาใหม่ให้มีประสิทธิภาพดีขึ้น ไม่ใช่แค่วิ่งได้ไกลขึ้น แต่ก็ชาร์จเร็วกว่าเดิมเพียงครึ่งชั่วโมงเท่านั้น (31 นาที กับการชาร์จด้วยกระแสไฟ DC 170 กิโลวัตต์ชั่วโมง)
Audi Q8 e-tron Sportback นำเสนอรถไฟฟ้าพรีเมียมในมุมมองใหม่ด้วยการเป็น Everyday electric car ระยะทางวิ่งไฟฟ้าที่ไกลถึง 636 กม./การชาร์จไฟเต็ม 1 ครั้ง พร้อมใช้เวลาชาร์จได้เร็วกว่าเดิมเพียงครึ่งชั่วโมง พละกำลังสูงสุด ให้ประสบการณ์การขับขี่แบบสปอร์ท ด้วยพละกำลัง 408 แรงม้า กับแรงบิดที่สูงถึง 664 นิวตันเมตร เร่งแซงทันใจ 0-100 กม./ชม. ภายใน 5.6 วินาที ระบบขับเคลื่อน 4 ล้ออัจฉริยะ Electric quattro ช่วงล่างถุงลมแบบ Sports
Driving performance ถึงแม้เป็นรถไฟฟ้าก็ไม่ทิ้ง DNA ความขับสนุก Handling ที่แม่นยำ เกาะถนน พร้อม e-quattro ที่เป็น New Generation เทคโนโลยีล่าสุดของระบบขับเคลื่อน 4 ล้ออัจฉริยะ ที่เป็น DNA ของ Audi รวมถึงความปลอดภัยที่เป็นจุดเด่นในเรื่อง Performance ของ Audi
Design & Sporty Perspective
พบกับ New Design language สุดล้ำสมัย สะท้อนความเป็นผู้นำแห่งโลกยนตรกรรมไฟฟ้าอย่างสมบูรณ์แบบ ดีไซจ์นที่ได้รับแรงบันดาลใจจาก Concept Car ในตระกูล Sphere ครั้งแรกกับการเผยโฉม “มุมมองใหม่ของรถไฟฟ้า Sport Premium SUV” ดีไซจ์น New Grille design และ 2D logo มาพร้อมกับไฟ Projector lighting พร้อมเอฟเฟคท์ไฟแบบ Light staging กระจังหน้าดีไซจ์นใหม่ ที่ไม่ได้ตอบโจทย์แค่เพียงความสวยงามแต่ยังช่วยในเรื่อง Aerodynamics ของตัวรถ (พร้อมชุดแต่งภายนอก Black edition และ S line ทั้งภายใน และภายนอก)
ห้องโดยสารที่ถูกออกแบบด้วยเทคโนโลยีล้ำสมัย ผสานดีไซจ์นความสปอร์ท และความพรีเมียมเข้าด้วยกัน
จอแสดงข้อมูลการขับขี่แบบ Virtual cockpit plus ขนาด 12.3 นิ้ว
ระบบ MMI Navigation plus ขนาด 10.1 นิ้ว สั่งการง่ายเพียงปลายนิ้วสัมผัส
เพลิดเพลินกับเครื่องเสียงระดับพรีเมียม Bang & Olufsen พร้อมระบบเสียง 3 มิติ
เบาะนั่งหุ้มหนัง Valcona พร้อมเบาะนั่งคู่หน้าแบบ Sports plus ตกแต่งสัญลักษณ์ S line
โปร่งสบายด้วย Panoramic glass sunroof
Audi ประเทศไทย นำเข้ารถไฟฟ้า Q8 e-tron 2 Body-type ทั้งแบบ SUV และ Sportback แบ่งออกเป็น 4 รุ่นย่อย
Q8 e-tron 50 quattro - ระยะทางวิ่งไฟฟ้า 530 กม.
Q8 e-tron 55 quattro Black Edition - ระยะทางวิ่งไฟฟ้า 621 กม.
Q8 Sportback e-tron 50 quattro S line - ระยะทางวิ่งไฟฟ้า 542 กม.
Q8 Sportback e-tron 55 quattro S line Black edition - ระยะทางวิ่งไฟฟ้า 636 กม.
เปิดให้จองในสี Magnet grey, Chronos grey, Glacier white, Mythos black, Plasma blue และ Soneira red และพร้อมส่งมอบตั้งแต่ปลายไตรมาส 3 ปี 2023 เป็นต้นไป
รถไฟฟ้า Audi e-tron และรถ Plug-in Hybrid TFSI e ใหม่ทุกรุ่น รับประกันแบทเตอรี 8 ปี หรือ 160,000 กม. แล้วแต่ระยะใดถึงก่อน พร้อมการดูแลจาก Audi Protection ด้วยการรับประกันรถใหม่ 5 ปี หรือระยะทาง 150,000 กม. แล้วแต่ระยะใดถึงก่อน และบริการช่วยเหลือฉุกเฉิน Roadside Assistance ทั่วประเทศ 24 ชม. นาน 5 ปี