กรมการขนส่งทางบก จัดงานวันคล้ายวันสถาปนากรมการขนส่งทางบก

กรมการขนส่งทางบก จัดงานวันคล้ายวันสถาปนากรมการขนส่งทางบก ภายใต้ชื่อ “82 ปี กรมการขนส่งทางบก นวัตกรรมขนส่งทันสมัย สร้างวัฒนธรรมความปลอดภัยอย่างยั่งยืน” มุ่งมั่นพัฒนาเป็นองค์กรแห่งนวัตกรรม ยกระดับขนส่งปลอดภัย และขับเคลื่อนระบบลอจิสติคส์ของประเทศ จิรุตม์ วิศาลจิตร อธิบดีกรมการขนส่งทางบก กล่าวว่า กรมการขนส่งทางบก เป็นหน่วยงานในสังกัดกระทรวงคมนาคม ก่อตั้งเมื่อวันที่ 11 สิงหาคม 2484 ตลอดระยะเวลา 82 ปีที่ผ่านมา ได้ดำเนินการขับเคลื่อนตามนโยบาย รัฐบาล และกระทรวงคมนาคม ในการพัฒนาระบบการขนส่งทางถนนให้มีประสิทธิภาพ มีความปลอดภัย เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม และพัฒนาระบบรถโดยสารสาธารณะให้มีมาตร ฐานคุณภาพ เชื่อมโยงทั่วถึง ตอบโจทย์การเดินทางของประชาชนในยุคปัจจุบัน รวมถึงได้นำเทคโนโลยี และนวัตกรรมที่ทันสมัยมาช่วยยกระดับการให้บริการประชาชน ซึ่งเป็นอีกภารกิจสำคัญที่กรมการขนส่งทางบกได้ดำเนินการมาอย่างต่อเนื่อง เช่น พัฒนาระบบการชำระภาษีออนไลน์ ใบขับขี่อีเลคทรอนิคส์ DLT QR License การจองคิวทำธุรกรรมผ่าน DLT Smart Queue การอบรมต่อใบขับ ขี่ผ่านระบบ E-Learning เป็นต้น นอกจากนี้กรมการขนส่งทางบกยังดำเนินนโยบายในการสนับสนุนให้ประชาชนใช้รถพลังงานไฟ ฟ้า หรือรถ EV (Electric Vehicle) เพื่อประหยัดพลังงาน แก้ปัญหามลพิษทางอากาศ โดยการลดภาษีประจำปีสำหรับรถที่ขับเคลื่อนด้วยพลังงานไฟฟ้าที่เป็นรถใหม่สำเร็จรูปจากโรงงาน และนำมาจดทะเบียนตามกฎหมายว่าด้วยรถยนต์ พร้อมดำเนินการผลักดันให้ผู้ประกอบการขนส่งนำรถโดยสาร EV มาให้บริการ โดยปัจจุบันมีรถโดยสาร EV มาให้บริการประชาชนแล้วจำนวน 2,137 คัน ในเขตกรุงเทพฯ และปริมณฑล กว่า 123 เส้นทาง ในมิติด้านความปลอดภัยทางถนน กรมการขนส่งทางบกได้บูรณาการร่วมกับทั้งหน่วยงานรัฐ และเอกชน ในการป้องกัน และลดอุบัติเหตุทางถนนอย่างเป็นรูปธรรมผ่านความร่วมมือ และโครงการต่างๆ เช่น โครงการรณรงค์ความปลอดภัยรถ NGV  โครงการความร่วมมือการรณรงค์ส่งเสริม และสนับสนุนให้นำรถยนต์เข้าตรวจสอบ และแก้ไขถุงลมนิรภัย บันทึกข้อตกลงความร่วมมือกับสำนักงานตำ รวจแห่งชาติ ในการเชื่อมโยงข้อมูลทางอีเลคทรอนิคส์เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการบังคับใช้กฎหมายว่าด้วยการจราจรทางบก รวมถึงผลิตสื่อการเรียนรู้การคาดการณ์อุบัติเหตุ (Hazard Perception) และบรรจุเนื้อหาดังกล่าวในการอบรมภาคทฤษฎีในการขอรับ และขอต่อใบอนุญาตขับรถจักรยานยนต์ และรถยนต์ เพื่อให้ผู้ได้รับการอบรมได้มีทักษะการประเมินสถานการณ์อันตรายที่อาจจะเกิดขึ้นขณะขับรถ เป็นต้นทั้งนี้ กรมการขนส่งทางบกยังได้ออกประกาศ กำหนดให้ผู้ประกอบการขนส่งต้องมีบุคลากรจัดการด้านความปลอดภัยในการขนส่ง (Transport Safety Manager: TSM) ซึ่งมีหน้าที่หลัก 5 ด้าน ได้แก่ การจัดการรถ การจัดการผู้ขับรถ การจัดการการเดินรถ การจัดการการบรรทุก การโดยสาร และการบริหารจัดการการวิเคราะห์ และประเมินผล เพื่อให้การขนส่งเป็นไปด้วยความปลอดภัย และลดความสูญเสียที่จะเกิดขึ้นจากการขนส่งทางถนน สําหรับการขนส่งสินค้าทางถนนถือได้ว่าเป็นการขนส่งหลักของประเทศไทย มีส่วนช่วยพัฒนาเศรษฐกิจของประเทศให้เติบโต และเข้มแข็ง เป็นการขนส่งที่นําพาทรัพยากร และความเจริญไปทั่วประเทศ และช่วยยกระดับคุณภาพชีวิต และสังคมไทยให้ดีขึ้น โดยในส่วนของการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐาน และสิ่งอำนวยความสะดวกด้านการขนส่งสินค้าทางถนน กรมการขนส่งทางบกได้ดําเนินการตามแผนพัฒนาสถานีขนส่งสินค้า (Truck Ter minal) เพื่อรองรับธุรกิจลอจิสติคส์ที่กําลังเติบโต และจะช่วยเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันของประเทศ โดยเปิดให้มีการร่วมลงทุนกับภาคเอกชนในรูปแบบ PPP (Public Private Partnership) สำหรับโครงการศูนย์การขนส่งชายแดนจังหวัดนครพนม ซึ่งจะทำหน้าที่รองรับการขนส่งสินค้าทางถนนระหว่างประเทศบนเส้นทาง R12 เชื่อมต่อการขนส่งระหว่างไทย-สปป. ลาว-เวียดนาม-จีนตอนใต้ ซึ่งจัดเป็นเส้นทางเศรษฐกิจในอนุภูมิ ภาคลุ่มแม่น้ำโขงที่มีความสําคัญ และมีมูลค่าการค้าการลงทุนเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยปัจจุบันอยู่ระหว่างการก่อสร้างอาคารสถานีขนส่งสินค้า และมีแผนเปิดให้บริการในปี พศ. 2568 นอกจากนี้ยังได้ดำเนินโครงการศูนย์เปลี่ยนถ่ายรูปแบบการขนส่งสินค้าเชียงของจังหวัดเชียงราย ซึ่งจะรองรับการขน ส่งสินค้าทางถนนระหว่างประเทศบนเส้นทาง R3A เชื่อมต่อการขนส่งระหว่างไทย-สปป. ลาว-จีนฝั่งตะวันตก โดยปัจจุบันอยู่ระหว่างการก่อ สร้างโครงการระยะที่ 2 คาดว่าจะสามารถเปิดให้บริการเต็มรูปแบบได้ในช่วงไตรมาสที่ 1 ของปี พศ. 2567 ต่อไป กรมการขนส่งทางบก กระทรวงคมนาคม มุ่งมั่นพัฒนาเพื่อเป็นองค์กรแห่งนวัตกรรมที่มีความทันสมัย ยกระดับการขนส่งทางถนนในทุกมิติให้มีความปลอดภัย ขับเคลื่อนระบบลอจิสติคส์ของประเทศ รวมถึงตอบสนองความต้องการ และสร้างคุณภาพชีวิตที่ดีของประ ชาชน