ระเบียงรถใหม่
Changan Automobile ยักษ์ใหญ่ยานยนต์จีน พร้อมลุยประเทศไทย
Changan Automobile เป็นผู้ผลิตรถยนต์ของจีนซึ่งมีสำนักงานใหญ่ในเจียงเป่ย ฉงชิ่ง มีประวัติทางอุตสาหกรรมอันยาวนานย้อนหลังไปถึง 161 ปี ตั้งแต่ปี 2405 เมื่อ Li Hongzhang ก่อตั้งโรงงานเสบียงทางการทหาร ซึ่งก็คือ Shanghai Foreign Gun Bureau ในปี 2480 ระหว่างสงครามจีน-ญี่ปุ่น ครั้งที่ 2 โรงงานถูกย้ายไปยังฉงชิ่ง เมื่อเซี่ยงไฮ้ถูกรุกราน และทิ้งระเบิด
ในปี 2502 ได้ก่อตั้งบริษัท Chongqing Changan Arsenal ภายใต้สัญญากับรัฐบาล เริ่มการผลิตรถยนต์ และสร้างยานพาหนะ Changjiang Type 46 ซึ่งเป็นยานพาหนะคันแรกของจีน และได้ผลิต Changjiang Jeep (ภาพจาก iChongqing)
Changan Automobile ได้ก่อตั้งขึ้นอย่างเป็นทางการในปี 2527 ทำให้ในปัจจุบัน บริษัทมีประสบการณ์การผลิตรถยนต์ถึง 39 ปี จากความสามารถในการวิจัย และพัฒนา ทำให้บริษัท Changan Automobile เป็นผู้ผลิตรถยนต์หนึ่งใน "Big Four" ของจีน อันได้แก่ SAIC Motor, FAW Group, Dongfeng Motor Corporation และ Changan Automobile โดยมียอดขายรถยนต์ 5.37 ล้านคัน 3.50 ล้านคัน, 3.28 ล้านคัน และ 2.30 ล้านคัน ในปี 2564 ตามลำดับ
ผลิตภัณฑ์หลักของบริษัท คือ การผลิตรถยนต์นั่งส่วนบุคคล รถตู้ขนาดเล็ก รถตู้เพื่อการพาณิชย์ และรถบรรทุกขนาดเล็ก ภายใต้แบรนด์ "Changan" สำหรับรถเอสยูวี และรถยนต์นั่งส่วนบุคคล "Deepal" หรือ "Shenlan" สำหรับรถยนต์ไฟฟ้าระดับพรีเมียม "Qiyuan" สำหรับรถยนต์ไฟฟ้าระดับพรีเมียมระดับเริ่มต้น "Oshan" (Auchan, Ossan หรือ Oushan) สำหรับเอสยูวี และเอมพีวีระดับกลาง "Kaicene"สำหรับรถยนต์เพื่อการพาณิชย์ รถบรรทุกขนาดเล็ก และเอมพีวี รวมถึงได้ร่วมมือกับบริษัทรถต่างชาติก่อตั้งบริษัทร่วมทุน Changan-Ford และ Changan-Mazda
Changan วางแผนที่จะยุติการผลิตรถยนต์ที่ขับเคลื่อนด้วยเครื่องยนต์สันดาปภายในปี 2568 อันเนื่องมาจากปัญหามลพิษทางอากาศในจีน และมาตรการที่เข้มงวด กฎระเบียบการปล่อยมลพิษ รัฐบาลจีน ประกาศว่าได้ผ่านกฎหมายที่จะห้ามรถยนต์ที่ขับเคลื่อนด้วย ICE ใหม่ ภายในกลางปี 2030 เนื่องจากมลพิษทางอากาศที่สูง และเนื่องจากจีนย้ำความมุ่งมั่นในข้อตกลงปารีสของสหประชาชาติ
โดย Changan มีแผนจะเปิดตัวรถยนต์ไฟฟ้า 21 รุ่น ในช่วงปี 2564-2568 ซึ่งจะทำให้ยอดขายรถยนต์ไฟฟ้าในช่วงเวลาดังกล่าวมีมากกว่า 1 ล้านคัน Changan Automobile ดำเนินการร่วมมือกับบริษัทมากกว่า 100 แห่ง เช่น Huawei, Tencent และอื่นๆ ในการดำเนินการพัฒนาระบบเทคโนโลยีในด้านต่างๆ การชาร์จรถยนต์พลังงานใหม่ และเทคโนโลยียานยนต์พลังงานใหม่ด้วย "พลังงานสะอาด และเงียบ" เป็นค่านิยมหลักของแบรนด์ ช่องทางการวิจัย และพัฒนาเครื่องยนต์โมดูลาร์ แบบใหม่ ระบบขับเคลื่อนส่งกำลัง Blue Core NE : เป็นรูปแบบพลังงานโมดูลาร์ที่ถูกริเริ่มโดย Changan ทำให้ใช้พลังงานไฟฟ้าได้อย่างมีประสิทธิภาพมากที่สุด
มีการออกแบบโครงสร้าง The Ark ชื่อของ Changan Modular Platform Architecture ครอบคลุมทุกรุ่น ตั้งแต่ส่วน A0 ถึง C ภายใต้ปัญญาประดิษฐ์ และการใช้พลังงานไฟฟ้าในอนาคต ผ่านเกณฑ์มาตรฐานความปลอดภัยระดับสูงที่ตรงตามระบบประเมินความปลอดภัยหลักทั่วโลก ล่าสุดทาง Changan Automobile ได้เปิดตัวเวบไซท์ในประเทศไทยชื่อ changan.co.th อย่างเป็นทางการ พร้อมแนะนำบริษัท และเทคโนโลยี
โดยก่อนหน้านี้ Changan Automobile ยื่นจดทะเบียนในไทยอย่างเป็นทางการผ่าน DBD Data Warehouse กรมพัฒนาธุรกิจการค้า กระทรวงพาณิชย์ รายชื่อบริษัทที่จดทะเบียน
1. บริษัท ฉางอาน ออโต้ เซ้าท์อีส เอเชีย จำกัด ทุนจดทะเบียน 4,099,500,000 บาท
2. บริษัท ฉางอาน ออโต้ เซลส์ (ประเทศไทย) จำกัด ทุนจดทะเบียน 270,000,000 บาท
3. บริษัท ฉางอาน ออโต้ คอมโพเน้นท์ส (ประเทศไทย) จำกัด ทุนจดทะเบียน 36,000,000 บาท
มีที่ตั้งสำนักงานแห่งใหญ่ 616/1 นิคมอุตสาหกรรมดับบลิวเอชเอ อีสเทิร์นซีบอร์ด 4 หมู่ที่ 5 ต. แม่น้ำคู้ อ. ปลวกแดง จ. ระยอง ประเภทธุรกิจ 29109 การผลิตยานยนต์อื่นๆ ซึ่งมิได้จัดประเภทไว้ในที่อื่น
หลังจากรัฐบาลจีนเห็นชอบให้บริษัทฯ ยื่นขอรับการส่งเสริมการลงทุนจาก BOI แล้ว โดยมีการลงทุนในเฟสแรกมูลค่ากว่า 8,800 ล้านบาท เพื่อจัดตั้งฐานการผลิตรถยนต์พวงมาลัยขวาทั้งประเภท BEV, PHEV, REEV (Range Extended EV) กำลังการผลิตในระยะแรก 1 แสนคัน/ปี เพื่อตอบสนองความต้องการรถยนต์ไฟฟ้าที่เติบโตขึ้นอย่างรวดเร็ว โดยจะจำหน่ายทั้งในประเทศ และส่งออกไปยังกลุ่มอาเซียน รวมถึงออสเตรเลีย นิวซีแลนด์ อังกฤษ แอฟริกาใต้ และตลาดอื่นๆ
"การที่บริษัท Changan Automobile เลือกไทยเป็นฐานการผลิตรถยนต์ไฟฟ้า และได้รับความเห็นชอบจากรัฐบาลจีนในครั้งนี้ แสดงให้เห็นถึงความเชื่อมั่น และความพร้อมของไทยในการเป็นแหล่งผลิตรถยนต์ที่โดดเด่นของภูมิภาค โดยบริษัทมีแผนเปิดตัวรถยนต์ไฟฟ้าในไทยช่วงปลายปีนี้ นอกจากนี้ บริษัทยังมีแผนจัดตั้งศูนย์วิจัย และพัฒนาชิ้นส่วนสำคัญ รวมถึงการพัฒนารถยนต์ในไทยในอนาคต เนื่องจากเล็งเห็นถึงศักยภาพของไทยมากกว่าการเป็นฐานการผลิต" โดยวางกําลังการผลิตในระยะแรก 100,000 คัน/ปี และจะเพิ่มกําลังการผลิตขึ้นเป็น 200,000 คัน/ปี ในระยะที่ 2
Changan Automobile เริ่มเร่งพัฒนาธุรกิจในประเทศไทยอย่างครบวงจร สร้างเครือข่ายผู้จัดจำหน่าย และพร้อมจัดจำหน่าย ภายในสิ้นปี 2566 โดยล่าสุด Changan Automobile เตรียมแต่งตั้ง 2 บริษัท ที่เชี่ยวชาญในอุตสาหกรรมยานยนต์ไทย ให้มาช่วยดูแลการขาย และบริการหลังการขาย นั่นคือ เอเอเอส กรุ๊ปฯ ของ "อนุศักดิ์ อินทรภูวศักดิ์" ตัวแทนจำหน่าย Porsche และ Bentley ในปัจจุบัน ส่วนอีกราย คือ แอท ยูไนเต็ดฯ ดีเลอร์รายใหญ่ Toyota ของ "ทรงวิทย์ ฐิติปุญญา" คงต้องมารอลุ้นกันว่ารถยนต์ไฟฟ้าคันแรกของ Changan ที่จะมาทำตลาดในไทยจะเป็นรุ่นใด
แบรนด์รถยนต์จีนตบเท้าลุยธุรกิจในไทย โดยประกาศตัวอย่างเป็นทางการมาอีก 3 ราย คือ GAC Aion, Changan และ Chery เตรียมเปิดตัวภายในปีนี้ และวางแผนขึ้นไลน์ผลิตรถยนต์ไฟฟ้าในไทยตั้งแต่ปี 2567 เป็นต้นไป ทำให้ในปัจจุบัน ดีเลอร์ไทยต่างพากันหนีค่ายญี่ปุ่น หันไปหาพันธมิตรใหม่อย่างจีน โดยใช้โมเดลแต่งตั้งดิสทริบิวเตอร์เหมือน "BYD" กับ เรเว่ ออโตโมทีฟฯ นอกจาก Changan ที่จับมือ เอเอเอส กรุ๊ปฯ ผู้ขาย Porsche และแอท ยูไนเตดฯ ดีเลอร์ Toyota เร่งทำตลาดปลายปีนี้ ส่วน Chery ดึงกลุ่มมหานคร ของ ประวิตร พันธ์สายเชื้อ เตรียมบุกตลาดต้นปี 2567 และมีอีกหลายกลุ่มเตรียมเปลี่ยนโชว์รูมเดิมที่เป็นดีเลอร์กับค่ายรถยนต์ญี่ปุ่นหลายราย เช่น Mazda, Nissan, Suzuki หันมาขายแบรนด์จีน
นอกจากนี้ BOI จะเดินหน้าทำงานร่วมกับหน่วยงานต่างๆ ดึงผู้ผลิตยานยนต์ไฟฟ้ารายอื่นๆ ทั้งในเอเชีย ยุโรป และสหรัฐอเมริกา ให้เข้ามาลงทุนเพิ่มเติม ควบคู่กับการส่งเสริมระบบชาร์จไฟฟ้า และ Ecosystem ที่จำเป็นเพื่อให้ฐานอุตสาหกรรมยานยนต์ไฟฟ้าในประเทศไทยแข็งแกร่งยิ่งขึ้น
ทั้งนี้ที่ผ่านมา BOI ได้อนุมัติให้การส่งเสริมโครงการผลิตยานยนต์ไฟฟ้าทุกประเภท ทั้งยานยนต์ไฟฟ้าแบบแบทเตอรี (BEV) พลัก-อิน ไฮบริด (PHEV) และไฮบริด (HEV) รวมทั้งหมด 23 โครงการ จาก 16 บริษัท รวมมูลค่าเงินลงทุนกว่า 75,000 ล้านบาท
เรื่องโดย : พรเทพ คงลาภอำนวย
คอลัมน์ Online : ระเบียงรถใหม่ (บก. ออนไลน์)
ลิงค์สำหรับแชร์ : https://autoinfo.co.th/online/465927