Blackbird ใช้พื้นฐานจากตัวแข่ง Czinger C21 และ Vmax มีความลู่ลมเป็นพิเศษ ห้องโดยสารของ Blackbird จัดห้องโดยสารแบบ 2 ที่นั่งเรียงกัน และปรับรูปทรงให้มีความลู่ลมมากขึ้น ภายนอกพ่นสีดำแบบเครื่องบิน SR71 พร้อมพื้นผิวคาร์บอนไฟเบอร์เปลือย ปลายท่อไอเสียคู่เลียนแบบท่อสันดาปท้ายเครื่องยนต์เจท และขอบประตูมีโลโกรุ่นพร้อมลายเส้นภาพเครื่องบิน SR71
ภายในห้องโดยสารต่อเนื่องกับผิวภายนอก เบาะนั่งใช้วัสดุอัลคันทาราสีดำเข้มเจาะรูให้เห็นด้านในเป็นสีส้ม (Afterburner Orange) ไล่จากกลางเบาะนั่งออกมา, ประตู และพวงมาลัยบุด้วยหนังแท้สีดำ, อุปกรณ์ภายในใช้วัสดุไททาเนียมผิวกำมะหยี่ ที่ขึ้นรูปจากเครื่องพิมพ์แบบ 3 มิติ

Czinger C21 Blackbird เพิ่มกำลังสุทธิเป็น 1,350 แรงม้า โดยการปรับซอฟท์แวร์ควบคุมเครื่องยนต์เล็กน้อย และเน้นเพิ่มกระแสไฟเข้ามอเตอร์ให้มีพลังขับเคลื่อนสูงขึ้น จนมีกำลังสูงสุดเพิ่มขึ้นร้อยละ 8 พอที่จะทำอัตราเร่ง 0-96 กม./ชม. ใน 1.9 วินาที และควอร์เตอร์ไมล์ 8.1 วินาที กับความเร็วสูงสุด 350 กม./ชม.
Czinger พร้อมส่งมอบรถให้ลูกค้ารายแรกภายในปลายปีนี้ โดยมีสาขาตัวแทนจำหน่ายนอกสหรัฐฯ อีก 15 แห่ง คือ ลอนดอน, บาร์เซโลนา, มิวนิค, ฟรังค์ฟวร์ท, และโตเกียว โดยจะผลิตรุ่น C21 เพียง 80 คัน คือ C21 Vmax และตัวแข่ง C21 จำนวนพอๆ กัน ส่วนรุ่น Blackbird จะผลิต 4 คัน โดยมีราคาคันละ 2,800,071 เหรียญสหรัฐฯ (ประมาณ 98.9 ล้านบาท) 
