Honda กลุ่มเอสยูวี ต่อท้ายด้วย R-V ทำให้เรานึกถึง Recreational-Vehicle หรือรถแคมป์พิง นั้นก็อาจเป็นเพราะรถในตระกูล R-V คันแรกที่รู้จักคือ CR-V ซึ่งเปิดตัวด้วยแผ่นพื้นห้องสัมภาระออกแบบให้เป็นโต๊ะพิกนิค
รอบนี้ บริษัท ฮอนด้า ออโตโมบิล (ประเทศไทย) จำกัด ชวนสื่อมวลชนพิสูจน์สมรรถนะการขับขี่รถในกลุ่ม R-V พร้อมกันทั้ง 4 โมเดล คือ CR-V (ซีอาร์-วี) ใหม่ HR-V (เอชอาร์-วี) ครอสส์โอเวอร์ 7 ที่นั่ง BR-V (บีอาร์-วี) ใหม่ และน้องเล็ก WR-V (ดับเบิลยูอาร์-วี) สัมผัสขุมพลังการขับเคลื่อนที่แตกต่าง ลงตัวกับการใช้งานจริงในทุกไลฟ์สไตล์ มั่นใจทุกการเดินทางกับ Honda SENSING ในทุกรุ่นบนเส้นทางจากกรุงเทพฯ สู่ภูทับเบิก จ.เพชรบูรณ์
ภายใต้ชื่อ “Honda SUV V Drive All Lives” พิสูจน์ประสบการณ์การขับขี่ที่มั่นใจได้ของขุมพลังการขับเคลื่อนที่แตกต่าง ตลอดเส้นทางการใช้งานจริง เริ่มจาก
ขุมพลังไฮบริด e:HEV ใน CR-V ใหม่ และ HR-V ที่ให้อัตราเร่งตอบสนองทันใจตั้งแต่ออกตัว ประหยัดน้ำมัน
ขับสนุกกับขุมพลังเครื่องยนต์เบนซิน VTEC Turbo ขนาด 1.5 ลิตร ใน CR-V
สัมผัสสมรรถนะพร้อมลุยทุกเส้นทางกับ BR-V ครอสส์โอเวอร์ 7 ที่นั่ง หรือขับขี่คล่องตัว สนุกได้ทุกวันกับ WR-V ใหม่
อีกทั้งมั่นใจกับเทคโนโลยีความปลอดภัยอัจฉริยะ Honda SENSING ที่ติดตั้งในทุกรุ่น พร้อมเติมเต็มประสบการณ์ในทุกเส้นทางด้วยฟังก์ชันการใช้งานและเทคโนโลยีเพื่อความสะดวกสบาย ตลอดเส้นทางจากกรุงเทพฯ สู่ภูทับเบิก จ.เพชรบูรณ์ รวมระยะทางกว่า 840 กม.
โดยตลอดเส้นทางการทดสอบ สื่อมวลชนจะได้สัมผัสกับความแตกต่างของครอสส์โอเวอร์เอสยูวีแต่ละรุ่นอย่างเต็มที่
อีกทั้งได้พิสูจน์ถึงสมดุลการขับขี่ ระบบช่วงล่าง และการควบคุม ได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ ผ่านการใช้งานจริง
แรง ประหยัด ด้วยขุมพลัง e:HEV กับ Honda CR-V ใหม่ และ Honda HR-V ผสานการทำงานอันทรงพลังร่วมกันของระบบเกียร์อัตโนมัติอัตราทดแปรผันต่อเนื่องไฟฟ้า (E-CVT)
ที่ประกอบด้วยมอเตอร์ไฟฟ้ากำลังสูง 2 ตัว ได้แก่ มอเตอร์ที่ทำหน้าที่สร้างกระแสไฟฟ้า (Motor Generator) และมอเตอร์ที่ทำหน้าที่ขับเคลื่อนล้อ (Motor Drive) กับเครื่องยนต์ และแบทเตอรีลิเธียม-ไอออน ที่มีน้ำหนักเบาและขนาดกะทัดรัด สามารถเก็บประจุไฟและช่วยชาร์จไฟโดยอัตโนมัติในขณะขับขี่ได้อย่างมีประสิทธิภาพสูงสุด มอบอัตราเร่งที่แรงตั้งแต่ออกตัว ตอบสนองทันใจด้วยแรงบิดสูงจากมอเตอร์ อีกทั้งให้อัตราการประหยัดน้ำมันดีเยี่ยม มีอัตราการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ต่ำ โดยระบบมีจุดเด่น คือสามารถปรับเปลี่ยนโหมดการขับขี่ได้อย่างชาญฉลาด เพื่อให้เหมาะสมที่สุดในทุกสถานการณ์ ทั้งโหมดการขับขี่ด้วยมอเตอร์ไฟฟ้า (EV Drive Mode) โหมดการขับขี่ด้วยระบบไฮบริด (Hybrid Drive Mode) และ โหมดการขับขี่ด้วยเครื่องยนต์ (Engine Drive Mode)
เสริมความมั่นใจยิ่งขึ้นด้วยการรับประกันอายุการใช้งานแบทเตอรีไฮบริดถึง 10 ปี และรับประกันระบบไฮบริดทั้งระบบ 5 ปี ไม่จำกัดระยะทาง
ขับสนุก อัตราเร่งเร้าใจสไตล์สปอร์ท กับขุมพลังเทอร์โบ ใน Honda CR-V ใหม่ มาพร้อมเครื่องยนต์เบนซินขนาด 1.5 ลิตร Direct Injection DOHC VTEC Turbo 4 สูบ 16 วาล์ว ที่มาพร้อมเทคโนโลยี Direct Injection และ Turbocharger ขับสนุก อัตราเร่งทันใจ มอบกำลังสูงสุด 190 แรงม้า ที่ 6,000 รตน. ผสานการทำงานกับเกียร์อัตโนมัติอัตราทดแปรผันต่อเนื่อง (CVT) และมีอัตราการประหยัดน้ำมันสูงสุด 14.3 กม./ลิตร (รุ่น E) และรองรับน้ำมัน E85
ขับขี่คล่องตัว สบายทุกเส้นทาง กับ Honda BR-V และ Honda WR-V มาพร้อมเครื่องยนต์ขนาด 1.5 ลิตร DOHC i-VTEC 4 สูบ 16 วาล์ว ผสานระบบเกียร์อัตโนมัติแบบ CVT กำลังสูงสุด 121 แรงม้า ที่ 6,600 รตน. แรงบิดสูงสุดที่ 145 นิวตัน-เมตรที่ 4,300 รตน. อีกทั้งประหยัดน้ำมัน โดย WR-V ใหม่ มีอัตราประหยัดน้ำมันสูงถึง 16.7 กม./ลิตร หรือ 16.1 กม./ลิตร ใน BR-V และ รองรับพลังงานทางเลือก E20
มั่นใจในทุกเส้นทาง ด้วย Honda SENSING ที่ติดตั้งในรถเอสยูวีทุกรุ่นของ Honda
ยนตรกรรมเอสยูวีทุกรุ่น ยังมาพร้อมเทคโนโลยีความปลอดภัยอัจฉริยะ Honda SENSING ช่วยตรวจจับรถยนต์ รถจักรยานยนต์ และคนเดินถนนได้อย่างมีประสิทธิภาพ โดยมีฟังก์ชันการทำงานหลัก ๆ ดังนี้
ระบบเตือนการชนพร้อมระบบช่วยเบรก (Collision Mitigation Braking System: CMBS)
ระบบควบคุมความเร็วอัตโนมัติแบบแปรผัน (Adaptive Cruise Control) หรือ ระบบควบคุมความเร็วอัตโนมัติแบบแปรผัน พร้อมระบบปรับความเร็วตามรถยนต์คันหน้าที่ความเร็วต่ำ (Adaptive Cruise Control with Low-Speed Follow: ACC with LSF) เฉพาะ HR-V และ CR-V ใหม่
ระบบช่วยควบคุมรถให้อยู่ในช่องทางเดินรถ (Lane Keeping Assist System: LKAS)
ระบบเตือนและช่วยควบคุมเมื่อรถออกนอกช่องทางเดินรถ (Road Departure Mitigation System with Lane Departure Warning: RDM with LDW)
ระบบปรับไฟสูงอัตโนมัติ (Auto High-Beam: AHB) หรือ ระบบไฟหน้า LED อัจฉริยะ (Adaptive Driving Beam: ADB) เฉพาะ CR-V ใหม่ รุ่น e:HEV RS 4WD
ระบบเตือนเมื่อรถคันหน้าเคลื่อนที่ (Lead Car Departure Notification System: LCDN)
พร้อมด้วยเทคโนโลยีความปลอดภัยอื่น ๆ ที่แตกต่างกันในแต่ละรุ่น อาทิ ระบบกล้องมองภาพรอบทิศทาง (Multi-view Camera System: MVCS) เซ็นเซอร์กะระยะหน้า 4 จุด และ หลัง 4 จุด ไฟส่องสว่างด้านข้างอัตโนมัติขณะเลี้ยว (Active Cornering Light: ACL) ระบบควบคุมความเร็วขณะลงทางลาดชัน (Hill Descent Control: HDC) ระบบเบรกมือไฟฟ้า (Electric Parking Brake) และระบบ Auto Brake Hold
ถุงลมสูงสุด 8 ตำแหน่ง นอกจากนี้ทุกรุ่น ยังมาพร้อมระบบแสดงภาพมุมอับสายตาขณะเปลี่ยนเลน (Honda LaneWatch) ระบบลอครถอัตโนมัติเมื่อกุญแจรีโมทอยู่ห่างจากตัวรถ (Walk Away Auto Lock) กล้องส่องภาพด้านหลังปรับมุมมอง 3 ระดับ ไฟเตือนเบาะนั่งด้านหลัง เป็นต้น
ห้องโดยสารกว้างขวาง อเนกประสงค์ พร้อมเติมเต็มประสบการณ์ในทุกเส้นทาง
ด้วยฟังก์ชันการใช้งานเพื่อความสะดวกสบายที่ครบครัน
ภายในห้องโดยสารกว้างขวาง สะดวกสบาย พร้อมตอบโจทย์ทุกไลฟ์สไตล์ด้วยเบาะโดยสารที่มีให้เลือกทั้ง แบบ 5 ที่นั่ง และ 7 ที่นั่ง สามารถปรับเปลี่ยนเพื่อรองรับการใช้งานที่หลากหลาย พร้อมพื้นที่สัมภาระท้ายที่กว้างขวาง เพิ่มพื้นที่เก็บของได้ตามต้องการ มาพร้อมหลากหลายฟังก์ชันการใช้งานและเทคโนโลยีเพื่อความสะดวกสบายที่ครบครัน อาทิ
CR-V ใหม่ มาพร้อมระบบควบคุมประตูแบบอัจฉริยะ พร้อม Honda Smart Key ระบบบันทึกตำแหน่งเบาะนั่งของผู้ขับขี่ (Driver Memory Seat) ไฟสร้างบรรยากาศในห้องโดยสาร (Ambient Light) ระบบฟอกอากาศภายในห้องโดยสาร Plasmacluster ช่องปรับอากาศสำหรับผู้โดยสารตอนหลัง เชื่อมต่อไลฟ์สไตล์แบบสมาร์ตด้วยระบบแสดงข้อมูลบนกระจกหน้า (Head-up Display: HUD) ระบบเครื่องเสียง BOSE พร้อมลำโพง 12 ตำแหน่ง ระบบเครื่องเสียงหน้าจอสัมผัสแบบ Advanced Touch ขนาด 9 นิ้ว รองรับ Apple CarPlay แบบไร้สายและ Android Auto และรองรับระบบสั่งการ
ด้วยเสียง Siri และ Android Auto ระบบนำทางเนวิเกเตอร์ อุปกรณ์ชาร์จไฟแบบไร้สาย (Wireless Charger) และช่องเชื่อมต่อ USB 4 ตำแหน่ง (USB Type-C 3 ตำแหน่ง ได้แก่ ด้านหน้า 1 และด้านหลัง 2 ตำแหน่ง)
HR-V มาพร้อมฝากระโปรงท้ายไฟฟ้าแบบแฮนด์ฟรี พร้อมระบบปิดอัตโนมัติ
เมื่อกุญแจรีโมทอยู่ห่างจากตัวรถ (Hands-free Power Tailgate with Walk Away Close) ระบบเครื่องเสียงหน้าจอสัมผัสขนาด 8 นิ้ว แบบ Advanced Touch รองรับ Apple CarPlay และ Android Auto และรองรับระบบสั่งการด้วยเสียง Siri และ Android Auto ช่องปรับอากาศตอนหลัง อุปกรณ์ชาร์จไฟแบบไร้สาย (Wireless Charger) ลำโพงสูงสุด 8 ตำแหน่ง ไฟอ่านหนังสือด้านหลังแบบ LED เปิด/ปิดแบบสัมผัส และ เบาะนั่งด้านคนขับปรับไฟฟ้า 8 ทิศทาง เป็นต้น
BR-V และ WR-V ใหม่ มาพร้อมมาตรวัดพร้อมหน้าจอแสดงข้อมูลการขับขี่แบบ TFT ขนาด 4.2 นิ้ว ระบบเครื่องเสียงหน้าจอสัมผัสขนาด 7 นิ้ว แบบ Advanced Touch รองรับ Apple CarPlay และ Android Auto พร้อมรองรับการเชื่อมต่อ Smartphone และรองรับระบบสั่งการด้วยเสียง Siri และ Android Auto พวงมาลัยแบบมัลติฟังก์ชัน พร้อมปุ่มควบคุมระบบเครื่องเสียงและปุ่มรับ-วางสายโทรศัพท์ ระบบสตาร์ทเครื่องยนต์พร้อมเครื่องปรับอากาศด้วยกุญแจรีโมท (Remote Engine Start) กระจกมองข้างปรับและพับไฟฟ้า พร้อมพับเก็บอัตโนมัติ และเทคโนโลยีที่เชื่อมต่อผู้ขับขี่และรถเข้าด้วยกันผ่านแอปพลิเคชันบนสมาร์ทโฟน Honda CONNECT (เฉพาะ WR-V)
อุ่นใจยิ่งขึ้นด้วยเครือข่ายโชว์รูมและศูนย์บริการฮอนด้าที่ได้มาตรฐานและครบวงจรครอบคลุมทั่วประเทศ
ที่ให้บริการด้วยทีมงานที่เชี่ยวชาญและมากประสบการณ์ พร้อมหลากหลายบริการพิเศษ ที่มอบความสะดวกสบายและอุ่นใจ ตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์คนรุ่นใหม่ ทั้งการนัดหมายเข้ารับบริการล่วงหน้าผ่านทาง “Online Service Booking” บริการเช็กระยะแบบฝากกุญแจ “Honda Drop & Go” บริการเช็กระยะแบบเร่งด่วนตามระยะทาง “Honda Quick Service” รวมทั้งบริการช่วยเหลือฉุกเฉินนอกสถานที่ 24 ชั่วโมง ฯลฯ
ข้อเสนอพิเศษสำหรับยนตรกรรมในไลน์อัปเอสยูวีของฮอนด้า
เมื่อจองและรับรถยนต์ตั้งแต่วันที่ 1 กันยายน 2566 – 31 ตุลาคม 2566
WR-V ใหม่ รับข้อเสนอ ฟรีประกันภัย 1 ปี ดอกเบี้ย 2.29% พิเศษเฉพาะลูกค้าที่จองและรับรถตั้งแต่วันที่ 1 กันยายน 2566 – 30 กันยายน 2566 รับเพิ่ม Modulo Sport Collection มูลค่า 2,285 บาท
BR-V รับข้อเสนอดอกเบี้ยพิเศษ 0% พร้อมฟรีประกันภัย 1 ปี หรือเลือกรับข้อเสนอ ดอกเบี้ย 1.99% พร้อมฮอนด้าช่วยผ่อน เดือนละ 5,000 บาท นาน 12 เดือน รวมมูลค่า 60,000 บาท
HR-V รับข้อเสนอดอกเบี้ย 1.99% พร้อมฟรีประกันภัย 1 ปี รวมทั้งรับประกันแบตเตอรี่ไฮบริด 10 ปี และรับประกันระบบไฮบริดทั้งระบบ 5 ปีไม่จำกัดระยะทาง
CR-V ใหม่ ทุกรุ่น รับข้อเสนอพิเศษ ฟรีประกันภัย 1 ปี ดอกเบี้ย 2.29% พร้อมฟรีโปรแกรมการให้บริการพิเศษด้านคุณภาพรถยนต์ Honda Ultimate Care ขยายเวลารับประกันคุณภาพอีก 2 ปี หรือ 40,000 กิโลเมตร สำหรับรุ่น e:HEV รับเพิ่มประกันอายุการใช้งานแบตเตอรี่ไฮบริดถึง 10 ปีและรับประกันระบบไฮบริดทั้งระบบ 5 ปีไม่จำกัดระยะทาง
สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้จาก www.honda.co.th หรือติดต่อศูนย์บริการข้อมูลฮอนด้า 24 ชั่วโมง โทร 0 2341 7777