ระเบียงรถใหม่
ตะลุย Japan Mobility Show 2023 กับรถเด่น ครั้งแรกในโลก ! (ภาค 1)
กลับมาอีกครั้งกับงาน Japan Mobility Show 2023 หรือในชื่อเดิมที่เรารู้จักกันดีอย่าง Tokyo Motor Show งานแสดงยานยนต์ที่ใหญ่ที่สุดของประเทศญี่ปุ่น ที่จัดขึ้นทุกๆ 2 ปี ในปีคริสต์ศักราชที่ลงท้ายด้วยเลขคี่ (2023)
งานครั้งนี้จัดขึ้นเป็นครั้งที่ 47 ณ สถานที่เดิม คือ "โตเกียว บิกไซจ์ท์" (Tokyo Big Sight) ซึ่งก่อนหน้านี้เคยเป็นที่จัดงานมาแล้วถึง 3 ครั้ง คือ ครั้งที่ 42 ในปี 2011 จนถึงครั้งที่ 46 ในปี 2019 (ส่วนในปี 2021 ยกเลิกการจัดงาน เนื่องจากการระบาดของ COVID-19) งานในปีนี้มีตั้งแต่วันที่ 26 ตุลาคม-5 พฤศจิกายน 2566
"โตเกียว บิกไซจ์ท์" เป็นศูนย์การประชุม และนิทรรศการขนาดใหญ่ที่สุดของญี่ปุ่น มีชื่อเรียกอย่างเป็นทางการว่า Tokyo Internation Exhibition Center แต่ผู้คนนิยมเรียก "โตเกียว บิกไซจ์ท์" มากกว่า สถานที่ตั้งศูนย์นิทรรศการแห่งนี้อยู่บนพื้นที่ดินถมริมอ่าวโตเกียว เปิดใช้งานเมื่อเดือนเมษายน 1996 ปัจจุบันมีพื้นที่จัดงานกว้างขวางกว่า 110,000 ตารางเมตร เป็นพื้นที่ภายในอาคาร 95,420ตารางเมตร พื้นที่นอกอาคาร 9,000 ตารางเมตร และพื้นที่บนชั้นหลังคา 6,000 ตารางเมตร มีห้องประชุม 22 ห้อง รับผู้ร่วมประชุมได้ 1,000 คน
ในปีนี้ มีบริษัทรถยนต์หลายค่ายเข้าร่วมจัดแสดง ส่วนใหญ่เน้นโชว์นวัตกรรมยานยนต์ไฟฟ้า ให้คล้องไปกับธีมหลักของงานที่ว่า “พบกับอนาคตที่ไม่ต้องอดใจรอ !” หรือ "Discover a future you can‘t wait to navigate!" ซึ่งนับว่าได้เห็นค่ายรถจากประเทศญี่ปุ่น ได้ตื่นตัวกับยานยนต์ไฟฟ้ามากขึ้น...เราไปชมค่ายแรกกันเลยครับ
Toyota
Toyota ปีนี้มาจัดแสดงรวมกับค่ายญี่ปุ่นอื่นๆ แล้ว ไม่ต้องเดินไกลเหมือนครั้งที่แล้ว ปีนี้จัดแสดงภายใต้แนวคิด "ร่วมพลิกโฉมอนาคตแห่งยานยนต์-Find Your Future" มีการจัดเตรียมจุดถ่ายรูปกับรถบักกี ที่ไปวิ่งบนดวงจันทร์ รวมถึงรถยนต์รุ่นต่างๆ ที่จะเปิดตัวใหม่เพียบ !
บนเวทีกลาง มีการจัดแสดงคอนเซพท์คาร์ไฟฟ้าแบทเตอรี (BEV) จำนวน 2 รุ่น ได้แก่ FT-3e และ FT-Se
โดยคอนเซพท์คาร์ทั้ง 2 รุ่น จะนำเสนออนาคตแห่งรถยนต์ที่เปลี่ยนแปลงเนื่องจากพลังงานไฟฟ้า และการเสริมความอัจฉริยะ โดย FT-3e เป็นคอนเซพท์โมเดลแบบ SUV และ FT-Se เป็นคอนเซพท์โมเดลแบบรถสปอร์ท
Toyota เชื่อว่าในอนาคต การขับเคลื่อนจะไม่ได้เป็นเพียงแค่ยานพาหนะในการขนส่งเท่านั้น แต่จะเป็นเสมือนเพื่อนข้างกายคนสำคัญในชีวิตประจำวัน ที่ตอบสนองความต้องการของแต่ละบุคคล
นอกจากนั้น ในรอบสื่อมวลชนวันที่ 2 Toyota ได้นำ Toyota Century SUV มาเผยโฉมให้เห็นเป็นครั้งแรก Century SUV ถูกพัฒนาบนสถาปัตยกรรม GA-K ซึ่งเป็นพแลทฟอร์มเดียวกับ Toyota Grand Highlander และ Lexus TX รวมถึง DNA จากรถซีดาน Toyota Century รุ่นที่ 3 โดยมี Toyota Takumis (ช่างฝีมือระดับปรมาจารย์) ที่มีทักษะมากที่สุดเท่านั้น ที่ทำการตกแต่งภายในรถยนต์ของ Century
บริเวณด้านข้างยังมี Toyota Crown Sports ซึ่งนับเป็นครั้งแรกที่มีการผลิตรุ่นย่อยของ Crown ในสไตล์ SUV ใช้โครงสร้างพื้นฐาน TNGA-K ที่มาพร้อมไฟหน้า LED 3 ดวง และ Bi-Beam LED กระจังหน้าขอบสีเดียวกับตัวรถ คิ้วชายล่างกันชนหน้าสีดำ ด้านท้ายติดตั้งไฟท้าย LED เส้นเดียวแนวยาว ที่มีทั้งไฟท้าย ไฟเบรค ไฟเลี้ยว และไฟถอยในโคมเดียวกัน
Toyota เผยข้อมูลยนตรกรรมที่จะนำมาจัดแสดงปีนี้ โดยแนะนำ IMV 0*1 ซึ่งเป็นโซลูชันการขับเคลื่อนที่จะทำให้ความปรารถนาของคุณเป็นจริงได้ IMV 0 จะนำเสนอจุดเด่นในการดัดแปลงตัวรถได้อย่างอิสระหลายรูปแบบ
นอกจากนี้ จะได้พบกิจกรรม และประสบการณ์ที่มอบความสนุกสนาน ไม่ว่าจะเป็นคาเฟเคลื่อนที่ หรือการลุ้นรับของรางวัลน่าตื่นเต้นที่ Capsule Bar บนจอภายในบูธจะนำเสนอรูปแบบการปรับแต่งรถ IMV 0 ตามความคิด และการใช้งานของลูกค้าอีกด้วย
Lexus
Lexus มาพร้อมแนวคิด "ข้ามผ่านข้อจำกัดของประสบการณ์ในยุคพลังงานไฟฟ้า” แนะนำไลน์อัพของยานยนต์ไฟฟ้าแห่งอนาคตเป็นครั้งแรก สอดคล้องกับความมุ่งมั่นเพื่อมุ่งสู่การเป็นแบรนด์ผู้ผลิตยานยนต์ขับเคลื่อนพลังงานไฟฟ้า ภายในปี 2578
ภายในบูธโดดเด่นด้วยการนำเสนอสุนทรียศาสตร์แบบฉบับของประเทศญี่ปุ่น และเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม ตลอดจนการเลือกใช้วัสดุที่ยั่งยืนอย่างไม้ไผ่ เพื่อนำเสนอความมุ่งมั่นในการบรรลุสังคมที่มีความเป็นกลางทางคาร์บอน
นอกจากยนตรกรรมต้นแบบแล้ว ผู้ชมจะได้สัมผัสโลกของอนาคตแห่งการขับขี่แบบเสมือนจริง "Lexus Electrified VR Experience" ซึ่งยนตรกรรมไฟฟ้า และเทคโนโลยี AI มีบทบาทช่วยตอบสนองความต้องการของลูกค้า และเชื่อมต่อกับสังคม
รวมทั้งพบกับโอกาสสัมผัสประสบการณ์การขับขี่เฉพาะตัว ภายใต้การตั้งค่าของระบบเสมือนจริง (VR) ที่จะส่งเสริมไลฟ์สไตล์ของผู้ใช้รถ ซึ่งเป็นความมุ่งหวังของ Lexus
Nissan
Nissan Motor เผยโฉมรถยนต์ไฟฟ้าต้นแบบ Nissan Hyper Punk ซึ่งเป็นลำดับที่ 4 ในซีรีส์ของรถยนต์ไฟฟ้าต้นแบบ (EV Concept Car)
ทั้งนี้ Nissan จะจัดแสดงรถยนต์ไฟฟ้าต้นแบบทั้ง 4 รุ่น ได้แก่ Nissan Hyper Urban, Nissan Hyper Adventure, Nissan Hyper Tourer และ Nissan Hyper Punk บนป้ายโฆษณาดิจิทอล 3 มิติ ณ “Cross Shinjuku Vision”
นอกจากนี้ ตั้งแต่วันที่ 25 ตุลาคม เหล่ารถยนต์ไฟฟ้าต้นแบบจะปรากฏโฉมในเกมออนไลน์ “Fortnite”* ภายใต้ชื่อ “Electrify the World” เพื่อสร้างความบันเทิง และให้ข้อมูลสำหรับผู้ที่สนใจเพิ่มเติม
มีเผยโฉมรถยนต์ไฟฟ้า Nissan Hyper Tourer รถยนต์ลำดับที่ 3 ในซีรีส์ของรถยนต์ไฟฟ้าต้นแบบ (EV Concept Car)
รถตู้ขนาดเล็ก หรือมีนีแวนไฟฟ้า 100 % คันนี้มาพร้อมกับแนวคิดการเสริมสร้างปฏิสัมพันธ์ระหว่างผู้ร่วมเดินทาง ด้วยการวางเป้าหมายสำหรับกลุ่มผู้ใช้งานที่แสวงหาประสบการณ์ที่เหนือกว่า และสนุกกับการใช้เวลากับเพื่อน หรือเพื่อนร่วมงาน ระหว่างการเดินทางเพื่อการท่องเที่ยว หรือเป็นไปในเชิงธุรกิจ
Nissan Hyper Tourer ผสมผสานวิญญาณของการให้บริการแบบญี่ปุ่น หรือที่เรียกว่า โอโมเตะนาชิ (omotenashi) เข้ากับเทคโนโลยีขั้นสูงต่างๆ รวมถึงการขับขี่อัตโนมัติ ฟังค์ชัน V2X หรือ (vehicle-to-everything) และแบทเตอรีความจุสูงยังช่วยให้สามารถจ่ายไฟฟ้าให้กับบ้าน ร้านค้า และสำนักงาน ขณะเดินทาง หรือทำกิจกรรมทางธุรกิจต่างๆ
แนวคิดของ Nissan Hyper Tourer สะท้อนวิสัยทัศน์ของ Nissan ที่ผสมผสานความสะดวกสบายของห้องนั่งเล่นที่หรูหราเข้ากับความสะดวกสบายของรถตู้โดยสาร ให้ความรู้สึกมีสไตล์ และล้ำสมัยไว้ในคันเดียว
Mazda
สำหรับบูธ Mazda จัดขึ้นภายใต้ธีม "The Future created by the ‘love of Cars" หรือ “อนาคตที่สร้างขึ้นจากความรักในรถยนต์” โดยได้รับการออกแบบเพื่อถ่ายทอดความมุ่งมั่นของ Mazda ในการพัฒนาผลิตภัณฑ์ เพื่อตอบสนองความต้องการของลูกค้าผู้ที่รักในการขับขี่ และรักในรถยนต์
รถยนต์ Mazda ที่จะนำมาจัดแสดงภายในงานฯ นั้น ล้วนเป็นรถยนต์ได้รับการถ่ายทอดปรัชญาของ Mazda ในการยกระดับประสบการณ์ความสุขในทุกการขับขี่ และการใช้ชีวิตประจำวัน
นอกจากนั้น ยังได้เข้าร่วมพโรแกรมที่จัดขึ้นโดยสมาคมผู้ผลิตรถยนต์แห่งประเทศญี่ปุ่น ด้วยการจัดแสดงรถยนต์ Mazda2 Bio Concept ที่ขับเคลื่อนด้วยพลังงานไบโอดีเซล เจเนอเรชันใหม่ ซึ่งอยู่ในส่วนพื้นที่จัดแสดงมอเตอร์สปอร์ทด้วยเช่นกัน
Honda
บูธ Honda ปีนี้จัดเต็มความ Mobility เผยโฉมรถต้นแบบหลากหลายรุ่น รวมถึงเทคโนโลยีสุดล้ำตามสโลแกนใหม่ว่า "The Power of Dreams-How we move you." โดยจัดแสดงครอบคลุมทั้งรถยนต์ต้นแบบ อากาศยาน รวมถึงรูปแบบการขับเคลื่อนที่หลากหลายที่ Honda มุ่งมั่นพัฒนาให้เป็นจริง
Honda ยังได้ชูคุณค่าอันเป็นเอกลักษณ์ ได้แก่ การก้าวข้าม (Transcend) และการเพิ่มพูน (Augment) โดยผลิตภัณฑ์ และบริการด้านการขับเคลื่อนของ Honda จะช่วยให้ผู้คนก้าวข้ามข้อจำกัดต่างๆ เช่น เวลา และสถานที่ รวมถึงเพิ่มพูนศักยภาพ และโอกาสให้ทุกคน โดยถือเป็นคุณค่าที่สำคัญของผลิตภัณฑ์ และบริการด้านการขับเคลื่อนของ Honda ที่ถูกนำเสนอมาตลอดระยะเวลา 75 ปี นับตั้งแต่ก่อตั้งบริษัท
ไฮไลท์ในปีนี้มากมายจริงๆ ขอเริ่มต้นด้วยรถไฟฟ้าสุดน่ารัก ที่รักษ์โลกตั้งแต่วัสดุที่นำมาทำอย่าง "SUSTAINA-C Concept" รถต้นแบบคันนี้ใช้วัสดุเรซินอครีลิคที่ผ่านการรีไซเคิล และถูกนำกลับมาใช้ใหม่ ทำให้เห็นถึงการก้าวข้ามข้อจำกัดด้านทรัพยากรที่มีอยู่อย่างจำกัด ช่วยส่งเสริมความยั่งยืนด้านสิ่งแวดล้อม ลดการยึดติดกับวิธีการปัจจุบันที่ใช้ในการผลิตรถยนต์ และจักรยานยนต์
รถที่โดดเด่นอีกรุ่นหนึ่ง คือ "Cruise Origin" รถยนต์ขับเคลื่อนอัตโนมัติ 100 % ที่พัฒนาร่วมกันระหว่าง Honda, GM และ Cruise มาพร้อมห้องโดยสารที่ปราศจากเบาะนั่ง และพวงมาลัยสำหรับผู้ขับขี่ สามารถรองรับผู้โดยสารได้สูงสุด 6 ที่นั่ง รองรับการจัดการประชุม หรือใช้เวลาอย่างสนุกสนานกับเพื่อน และครอบครัว ช่วยก้าวข้ามข้อจำกัดด้านเวลา สามารถใช้เวลา 24 ชั่วโมงในแต่ละวันได้อย่างคุ้มค่าสูงสุด โดย Cruise Origin มีแผนถูกนำมาให้บริการเรียกรถไร้คนขับในประเทศญี่ปุ่น ภายในช่วงต้นปี 2569 เป็นต้นไป
และสุดท้าย ที่จะไม่พูดถึงไม่ได้ก็คือ การเปิดตัวรถยนต์ต้นแบบ "Honda Prelude Concept" ซึ่งถือเป็นต้นแบบของรถสปอร์ทคูเป เจเนอเรชันที่ 6 ที่จะกลับมาทำตลาดในชื่อ Prelude อีกครั้ง หลังถูกยุติการผลิตลงตั้งแต่ปี 2001 ในเจเนอเรชัน 5 โดยคาดการณ์ว่าจะถูกวางจำหน่ายในอนาคตอันใกล้นี้
Mitsubishi
Mitsubishi ปีนี้มีการเปิดตัวรถต้นแบบ MPV ขนาดใหญ่มหึมา ที่เน้นลุยอย่าง D:X Concept MPV ไฟฟ้า พร้อมสร้างแรงบันดาลใจแห่งการผจญภัย ไปกับรถตัวแข่ง Asia Cross Country Rally 2023 ที่เพิ่งจบไฟหมาดๆ โดยทีม Mitsubishi สามารถควบ All-New Mitsubishi Triton คว้าอันดับ 3 มาครองอย่างสมศักดิ์ศรี
โดยที่บูธก็มีการจัดแสดงรถ All-New Mitsubishi Triton เบอร์ 101 ที่คว้าชัยในรายการแข่งขัน Asia Cross Country Rally 2023 รวมถึง Mitsubishi Delica รุ่นล่าสุด ที่เป็นรถเซอร์วิศในรายการนี้เช่นกัน
ไฮไลท์อยู่ที่ Mitsubishi D:X Concept MPV รถยนต์แนวคิดครอสส์โอเวอร์ MPV ที่ใช้พลังงานไฟฟ้า เราจะเห็นห้องโดยสารที่กว้างขวาง สะดวกสะบาย และใหญ่โต การออกแบบยังคงเน้นเส้นสายที่เป็นเอกลักษณ์อย่าง Dynamic Shield ไฟเลเซอร์รูปตัว T และที่นั่งแบบพาโนรามา สามารถเลื่อนที่นั่งขึ้นลงได้ตามความต้องการที่เหมาะสม