Sleek EV ผู้นำเทคโนโลยีมอเตอร์ไซค์ไฟฟ้า รับยอดขายมอเตอร์ไซค์ไฟฟ้าเติบโตหนุนปัจจัยด้านพลังงานทางเลือก ตั้งเป้าขยายธุรกิจตอบสนองความต้องการของผู้บริโภคที่มีมากขึ้น เพิ่มกำลังการผลิต 200 % หวังเป็นแรงขับเคลื่อนการเปลี่ยนแปลงตลาดมอเตอร์ไซค์ไฟฟ้า เตรียมเปิดตัวมอเตอร์ไซค์ไฟฟ้ารุ่นใหม่ล่าสุดในเดือนพฤศจิ กายน ฟังค์ชันการใช้งานที่เหนือกว่าด้วยเทคโนโลยี และประสิทธิภาพการขับขี่ที่ปลอดภัยขึ้น ระบบซอฟท์แวร์ประสิทธิภาพระดับสากล พร้อมเผยแผนงานพัฒนาอย่างต่อเนื่อง ไม่คาดหวังตลาดผูกขาด เชื่อมั่นการแข่งขันช่วยกระตุ้นการพัฒนาสินค้า ช่วยสร้างสังคมคาร์บอนต่ำ และมอบประโยชน์สูงสุดให้ผู้บริโภคจากตลาดแข่งขันสูง
กันตินันท์ ตันวีนุกูล ผู้ร่วมก่อตั้ง และประธานกรรมการบริหาร บริษัท สลีค อีวี จำกัด กล่าวว่า Sleek EV พร้อมรุกตลาดเต็มพิกัด เตรียมพร้อมเพิ่มกำลังการผลิตเพื่อให้เพียงพอกับความต้องการของตลาด และนำเข้าจากต่างประ เทศอีกหลายรุ่น พร้อมพัฒนา และเปิดตัวมอเตอร์ไซค์ไฟฟ้าอีก 4 รุ่นต่อปี ตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์ที่แตกต่างของผู้บริโภค เพื่อขยายฐานลูกค้าให้กว้างขึ้น และพัฒนาไปพร้อมๆ กับตลาดยานยนต์ไฟฟ้าของประเทศ เตรียมรับยอดขายกว่า 20,000 คัน ภายในปี 2567
เพื่อมุ่งมั่นผลักดันให้เกิดการตื่นตัวต่อความสำคัญของพลังงานทางเลือก พลังงานสีเขียว และร่วมขับเคลื่อนภูมิ ภาคอาเซียนสู่สังคมคาร์บอนต่ำร่วมกัน นโยบายของเราจึงตอบโจทย์กลุ่มนักลงทุน Orzon ส่งผลให้ Sleek EV ได้รับเงินทุนสนับสนุนการทำงานเพื่อต่อยอดงานวิจัย และพัฒนาในด้านของเทคโนโลยีพลังงานไฟฟ้าในอนาคต ทั้ง นี้เราตั้งเป้างาน R&D ทางด้านระบบซอฟท์แวร์ที่รองรับการใช้งาน Platform S PowerTrain 1.0 ของ Sleek ทำ ให้ในอนาคตเราพร้อมมอบประสบการณ์การขับขี่ที่เหนือกว่าด้านความปลอดภัย การจัดการพลังงาน และประสบ การณ์การเชื่อมต่อระหว่างกับผู้ขับขี่ และ Application Sleek EV การมุ่งมั่น และการเติบโตครั้งใหญ่นี้จะทำให้ Sleek EV กลายเป็นผู้นำในตลาดมอเตอร์ไซค์ไฟฟ้าได้อย่างแน่นอน
สำหรับในปี 2567 บริษัทตั้งเป้าขยายการผลิตเพิ่มขึ้นอีกราว 200 % โดยยึดความต้องการ และกำลังซื้อของลูกค้าเป็นหลัก หรือคิดเป็น 2,000 คัน/เดือน ทำให้เราตั้งเป้ายอดขายตลอดปี 2567 อยู่ที่ราว 20,000 คัน จากมอเตอร์ ไซค์ไฟฟ้ารวม 4 รุ่น รวมที่จะเปิดตัวในปีหน้า หรือคิดเป็น 50 % ของมอเตอร์ไซค์ไฟฟ้าที่จะจดทะเบียนในปี 2567
“อีกโอกาสสำคัญที่ได้หลังจากรับทุน Orzon Ventures คือ โอกาสในการร่วมสร้าง ร่วมใช้ระบบนิเวศยานยนต์ไฟฟ้า (EV Ecosystem) กับ OR ใน PTT Station ไม่ว่าจะเป็นจุดชาร์จ จุดพักรอ คอมมูนิที ร้านค้า ร้านกาแฟ บริการซ่อมบำรุง และอื่นๆ ส่งผลต่อการการใช้งาน และตอบโจทย์ภาครัฐบาลในการสนับสนุนการผลักดันประ เทศสู่สังคมคาร์บอนต่ำ สามารถปรับเปลี่ยนรูปแบบการเดินทางของประเทศได้อย่างสมบูรณ์แบบ เติบโตอย่างตระหนักรู้ด้วยการช่วยดูแลทรัพยากรธรรมชาติร่วมกัน”