บริษัท มิตซูบิชิ มอเตอร์ส (ประเทศไทย) จำกัด ประกาศแต่งตั้ง เรียวอิจิ อินาบะ สืบทอดตำแหน่งกรรมการผู้จัด การใหญ่ ต่อจาก เออิอิชิ โคอิโตะ โดยจะมีผลนับตั้งแต่วันที่ 1 ธันวาคม 2566 นี้ เป็นต้นไป ภายหลังจากที่ เออิอิชิ โคอิโตะ ได้ปฏิบัติหน้าที่ในประเทศไทยจนครบวาระ และเตรียมกลับเข้ารับตำแหน่งใหม่ที่ มิตซูบิชิ คอร์ปอเรชั่น ในกรุงโตเกียว
เรียวอิจิ อินาบะ เริ่มต้นทำงานกับ มิตซูบิชิ มอเตอร์ส คอร์ปอเรชั่น ในปี 2535 ในฝ่ายวางแผนตลาดต่างประเทศ ด้วยทักษะความเป็นผู้นำที่โดดเด่นในการขับเคลื่อนองค์กรขนาดใหญ่ จึงได้รับมอบหมายให้ดำรงตำแหน่งผู้บริ หารระดับสูงในหลากหลายสายงาน ทั้งในสายงานกลยุทธ์ผลิตภัณฑ์ สายงานกลยุทธ์การตลาด สายงานขาย สายงานบริการหลังการขาย และสายงานพัฒนาเครือข่ายผู้จำหน่าย ภายใต้การนำของ อินาบะ มิตซูบิชิ มอ เตอร์ส (ประเทศไทย)ฯ ยังคงมีเจตนารมณ์มุ่งมั่นที่จะลงทุนเพื่อสร้างการเติบโตอย่างต่อเนื่องในอนาคต ควบคู่ไปกับการสนับสนุนให้ประเทศไทยก้าวสู่สังคมคาร์บอนเป็นกลางอย่างยั่งยืน
“เรามีแผนที่จะลงทุนอย่างต่อเนื่องเพื่อพัฒนารถยนต์รุ่นใหม่เข้าสู่ตลาด เสริมประสิทธิภาพการผลิตรถยนต์ ตลอดจนยกระดับศูนย์ปฏิบัติการของบริษัทฯ ให้มีการนำพลังงานแสงอาทิตย์ และพลังงานหมุนเวียนมาใช้ และมุ่งเติบโตอย่างแข็งแกร่งเคียงข้างการพัฒนาอย่างยั่งยืนของสังคมไทย โดยดำเนินโครงการสนับสนุนการลดคาร์ บอนในพื้นที่ต่างๆ ทั่วประเทศ พร้อมริเริ่มปูทางสู่ความยั่งยืนแห่งอนาคตด้วยการพัฒนายานยนต์ไฟฟ้า ด้วยเจต นารมณ์ที่ชัดเจน และแน่วแน่ในการมุ่งสู่สังคมคาร์บอนเป็นกลาง ยิ่งไปกว่านั้น เรามุ่งมั่นที่จะนำเสนอผลิตภัณฑ์ที่ตรงใจลูกค้าในประเทศไทย ควบคู่ไปกับการเติบโต และพัฒนาไปพร้อมกับสังคมไทย และลูกค้าคนสำคัญของเรา” อินาบะ กล่าว
ทางด้าน เออิอิชิ โคอิโตะ ได้เริ่มต้นทำงานกับ มิตซูบิชิ คอร์ปอเรชั่น มาตั้งแต่ปี 2537 และได้รับมอบหมายให้ปฏิ บัติหน้าที่ใน Mitsubishi Motors นับตั้งแต่ปี 2557 จากนั้นในปี 2563 จึงได้ย้ายมารับตำแหน่งที่ มิตซูบิชิ มอ เตอร์ส (ประเทศไทย)ฯ ในฐานะกรรมการรองผู้จัดการใหญ่ สายงานขายในประเทศ สายงานกลยุทธ์การขาย สายงานพัฒนาเครือข่ายผู้จำหน่าย และสายงานบริการหลังการขาย จวบจนได้รับการแต่งตั้งให้ขึ้นดำรงตำแหน่งกรรมการผู้จัดการใหญ่ มิตซูบิชิ มอเตอร์ส (ประเทศไทย)ฯ นับตั้งแต่เดือนเมษายน 2564
ตลอดระยะเวลาที่ผ่านมา ภายใต้การนำของ โคอิโตะ ได้ส่งเสริมผลักดันให้ มิตซูบิชิ มอเตอร์ส (ประเทศไทย)ฯ ก้าวสู่ความสำเร็จอันยิ่งใหญ่มาอย่างต่อเนื่อง อาทิ การลงทุนกว่า 3,000 ล้านบาท เพื่อเปิดตัวโรงงานพ่นสีแห่งใหม่ที่แหลมฉบัง ด้วยนวัตกรรมเทคโนโลยีชั้นนำของโลกซึ่งเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม พิธีฉลองชัยอย่างยิ่งใหญ่ในโอ กาสที่มิตซูบิชิ มอเตอร์ส (ประเทศไทย)ฯ มียอดส่งออกรถยนต์สะสมรวมถึง 5 ล้านคัน ความสำเร็จในด้านการผลิตรถยนต์ครบ 6 ล้านคันในประเทศไทย รวมถึงการแนะนำยนตรกรรมรุ่นใหม่ๆ สู่ตลาดประเทศไทย ทั้ง Mitsubishi Xpander, Mitsubishi Xpander Cross และการเปิดตัว All New Triton รอบเวิร์ลด์พรีเมียร์ในประ เทศไทย พร้อมกับยกระดับบริการในทุกด้าน ทั้งบริการด้านการขาย และบริการหลังการขาย จนได้รับรางวัลยก ย่องมากมายที่การันตีความทุ่มเทใส่ใจพัฒนาคุณภาพการบริการ และการดูแลลูกค้า เพื่อมอบประสบการณ์ที่น่าพึงพอใจสูงสุดให้แก่ลูกค้าทุกท่าน ควบคู่ไปกับการดำเนินโครงการช่วยเหลือสังคมในด้านต่างๆ