บอร์ด EV ผลักดันมาตรการ EV 3.5 เตรียมอุดหนุนซื้อรถยนต์ไฟฟ้าสูงสุด 100,000 บาท
คณะกรรมการนโยบายยานยนต์ไฟฟ้าแห่งชาติ (บอร์ด EV) ชุดใหม่ได้เห็นชอบมาตรการสนับสนุนการใช้ยานยนต์ไฟฟ้า ระยะที่ 2 หรือ EV 3.5 ในช่วงระยะเวลา 4 ปี (พ.ศ. 2567-2570) เพื่อส่งเสริมให้อุตสาหกรรมยานยนต์ไฟฟ้าขยายตัวอย่างต่อเนื่อง และเปิดโอกาสการลงทุนผลิตรถยนต์ไฟฟ้าในประเทศไทย
มาตรการ EV 3.5 รัฐจะให้เงินอุดหนุน มีดังนี้
- รถยนต์ไฟฟ้าราคาไม่เกิน 2 ล้านบาท ขนาดแบทเตอรีตั้งแต่ 50 kWh อุดหนุน 50,000-100,000 บาท/คัน
สำหรับขนาดแบทเตอรีต่ำกว่า 50 kWh จะได้รับเงินอุดหนุน 20,000-50,000 บาท/คัน
- รถกระบะไฟฟ้าราคาไม่เกิน 2 ล้านบาท ขนาดแบทเตอรีตั้งแต่ 50 kWh จะได้รับเงินอุดหนุน 50,000-100,000 บาท/คัน
- รถจักรยานยนต์ไฟฟ้าราคาไม่เกิน 150,000 บาท ขนาดแบทเตอรีตั้งแต่ 3 kWh จะได้รับเงินอุดหนุน 5,000-10,000 บาท/คัน
มาตรการ EV 3.5 จะมีการลดอากรนำเข้าไม่เกิน 40 % สำหรับการนำเข้ารถยนต์ไฟฟ้าสำเร็จรูป (CBU) ในช่วง 2 ปีแรก (พ.ศ. 2567-2568) กรณีเป็นรถยนต์ไฟฟ้าที่ราคาไม่เกิน 2 ล้านบาท และลดอัตราภาษีสรรพสามิตจาก 8 % เหลือ 2 % สำหรับรถยนต์ไฟฟ้าราคาไม่เกิน 7 ล้านบาท
ทั้งนี้ ยังให้ความสำคัญในการผลักดันไทยเป็นศูนย์กลางการผลิตยานยนต์ไฟฟ้าในภูมิภาค ตามนโยบาย 30@30 ที่ตั้งเป้าหมายการผลิตรถ ZEV (Zero Emission Vehicle) หรือยานยนต์ที่ปล่อยมลพิษเป็นศูนย์ ให้ได้อย่างน้อย 30 % ของการผลิตยานยนต์ทั้งหมด ภายในปี 2573 คิดเป็นกำลังการผลิตรถยนต์ประมาณ 725,000 คัน และรถจักรยานยนต์ประมาณ 675,000 คัน
นอกจากนี้ ยังขยายเวลาจดทะเบียนยานยนต์ไฟฟ้าที่ได้รับสิทธิตามมาตรการ EV 3 จากเดิมที่ต้องจดทะเบียนภายในวันที่ 31 ธค. 66 ให้ขยายเวลาเป็นต้องจำหน่ายภายในวันที่ 31 ธค. 66 และต้องจดทะเบียนภายในวันที่ 31 มค. 67 เพื่อให้ผู้บริโภคที่จะตัดสินใจซื้อยานยนต์ไฟฟ้าในงาน Thailand International Motor Expo 2023 ซึ่งจะจัดขึ้นวันที่ 30 พฤศจิกายน-11 ธันวาคม 2566 อาคารชาลเลนเจอร์ อิมแพคท์ เมืองทองธานี ยื่นจดทะเบียนได้ทันภายในเดือนมกราคม 2567
* โดยขั้นตอนต่อจากนี้ หน่วยงานที่เกี่ยวข้องจะหารือร่วมกัน เพื่อกำหนดอัตราเงินอุดหนุนที่เหมาะสม และจะนำเสนอคณะรัฐมนตรี (ครม.) เพื่อพิจารณาต่อไป