ครูว์-Bentley Motors เผยโฉมอัครยนตรกรรมลีมูซีนพระที่นั่ง Mulsanne Extended Wheelbase รุ่นปี 2563 สำ หรับการจัดแสดงในพิพิธภัณฑ์รถยนต์คลาสสิคของ Bentley Motors ภายหลังจากการเสร็จสิ้นภาระกิจรับใช้สม เด็จพระราชินีนาถเอลิซาเบธที่ 2 ส่งท้ายอัครยนตรกรรมลีมูซีนอดีตรุ่นเรือธงในตำนานของแบรนด์ โดยอัครยนตร กรรมลีมูซีนรุ่นดังกล่าวเป็นรถยนต์พระที่นั่งในสมเด็จพระราชินีนาถเอลิซาเบธที่ 2 ที่สั่งทำพิเศษ และเป็นคันสุด ท้ายของรุ่น Mulsanne อัครยนตรกรรมที่ประกอบขึ้นโดยช่างฝีมือ ณ โรงงาน Bentley Motors เมืองครูว์ ประ เทศอังกฤษ
Mulsanne รุ่นสุดท้ายได้ถูกรังสรรค์ขึ้นสำหรับสมเด็จพระราชินีนาถเอลิซาเบธที่ 2 ด้วยคุณสมบัติเฉพาะตัวเพื่อให้เหมาะสมสำหรับใช้ในพระราชกรณียกิจของพระองค์ ตัวรถยนต์พระที่นั่งมาพร้อมกับการออกแบบภายนอกด้วยเฉดสีเขียวเข้ม Barnato ที่เข้ากันได้เป็นอย่างดีกับการออกแบบภายในห้องโดยสารด้วยหนังเฉดสีครีม Twine และเฉดสีเขียว Cumbrian พร้อมการตกแต่งด้วยวีเนียร์แบบ Burr Walnut และพรมขนแกะ ห้องโดยสารด้านหลังยังติดตั้งม่านเพื่อความเป็นส่วนตัว และตกแต่งด้วยตราแผ่นดินของสหราชอาณาจักรบริเวณด้านข้างประตูห้องโดยสาร ในขณะที่ที่วางแขนบริเวณคอลโซลกลางถูกถอดออก และทดแทนด้วยถาดหนังขนาดที่เหมาะสมสำหรับวางกระเป๋าถือของสมเด็จพระราชินีนาถ
ตัวรถยนต์พระที่นั่งได้ติดตั้งไฟตำรวจสีน้ำเงินที่ถูกปกปิดอย่างมิดชิด พร้อมด้วยไซเรน และแตร โดยมีแผงสวิทช์ควบคุมเฉพาะซ่อนอยู่ภายใต้แผงไม้วีเนียร์ด้านหลังคันเกียร์
รถยนต์พระที่นั่งมาพร้อมกับขุมพลังเครื่องยนต์รุ่น V8 ขนาด 6.75 ลิตร มอบพละกำลังกว่า 537 แรงม้า ภายนอกออกแบบด้วยล้ออัลลอยขนาด 21 นิ้ว พร้อมด้วยการใช้โครเมียมสำหรับกระจังหน้า และช่องระบายอากาศบริเวณด้านหน้า โดดเด่นด้วย Flying "B" มาสคอทอันเป็นเอกลักษณ์ที่จะช่วยเติมเต็มความสมบูรณ์แบบให้แก่รถยนต์พระที่นั่ง สำหรับตัวรถยนต์พระที่นั่งจะถูกเก็บรักษาไว้เป็นคันที่ 3 และคันสุดท้ายในพิพิธภัณฑ์รถยนต์คลาสสิค พร้อมกับรุ่น Mulsanne จากปี 2553 และรุ่น Mulsanne Speed ปี 2562 ซึ่งอัครยนตรกรรมลีมูซีนในตำนานทั้ง 3 คันจะเป็นส่วนหนึ่งของคอลเลคชันอัครยนตรกรรม 45 คันของ Bentley ในระยะเวลากว่า 2.5 ปี ภายในกรอบเวลาโครงการ 3 ปีในการรังสรรค์คอลเลคชันอัครยนตรกรรมขึ้นมาใหม่ทั้งหมด เฉลิมฉลองประวัติศาสตร์อันยาว นานกว่า 104 ปีของ Bentley Motors
อัครยนตรกรรมลีมูซีนในตำนาน
อัครยนตรกรรมลีมูซีน รุ่น Mulsanne เปิดตัว ณ Pebble Beach ในปี 2552 โดยตัวรถได้รับการพัฒนาด้วยเครื่อง ยนต์รุ่น V8 ขนาด 6.75 ลิตรของ Bentley พร้อมด้วยแชสซีส์ใหม่ และการออกแบบภายนอก และภายในใหม่ทั้ง หมด
ในปี 2559 Mulsanne ใหม่ได้เปิดตัวที่งาน Geneva Motor Show โดยอัครยนตรกรรมลีมูซีนได้ยกระดับมาตร ฐานของความหรูหราด้วยการออกแบบภายในใหม่ด้วยเบาะโดยสาร ขอบประตู ที่วางแขนใหม่ เทคโนโลยีนำทาง และระบบความบันเทิงภายในห้องโดยสารรุ่นใหม่ล่าสุด พร้อมด้วยกระจังหน้า ไฟ และฝากระโปรงหน้าดีไซจ์นใหม่
หลังจากนั้น Bentley Motors ยังได้เปิดตัว Mulsanne รุ่นฐานล้อยาวพิเศษที่มาพร้อมกับส่วนขยายกว่า 250 มม. จากฐานล้อเดิม ทำให้มีพื้นที่ภายในห้องโดยสารส่วนหลังที่เพิ่มขึ้นสำหรับโต๊ะพับวีเนียร์ที่หรูหรา คอนโซลกลาง ที่พักขาแบบอีเลคทรอนิคส์ พร้อมด้วยผ้าม่านเพื่อเพิ่มความเป็นส่วนตัว มอบประสบการณ์การเดินทางแบบเหนือระดับให้แก่ผู้โดยสารในตอนหลัง
Bentley Motors ส่งท้ายอัครยนตรกรรมลีมูซีนในปี 2563 ด้วยการผลิตซีรีส์ลิมิเทด เอดิชัน 30 คันสุดท้ายในชื่อ "6.75 Edition by Mulliner" โดยได้รับแรงบันดาลใจจากเครื่องยนต์ขนาด 6.75 ลิตรในตำนาน ซึ่งได้ยุติการผลิตพร้อมกับรุ่น Mulsanne ในเวลาต่อมาหลังจากอยู่ในสายการผลิตมานานกว่า 60 ปี
Mulsanne ถือเป็นอัครยนตรกรรมที่อยู่ในสายการผลิตมานานกว่าทศวรรษ และกว่าทั้งหมด 7,300 คัน ได้รับการประกอบขึ้นโดยช่างฝีมือผู้เชี่ยวชาญ ณ โรงงาน Bentley Motors เมืองครูว์ ประเทศอังกฤษ
พิพิธภัณฑ์รถยนต์คลาสสิค Bentley
ในปัจจุบัน พิพิธภัณฑ์รถยนต์คลาสสิค Bentley (Bentley‘s Heritage Collection) จัดแสดงอัครยนตรกรรมกว่า 45 คัน ตั้งแต่รถยนต์ Bentley ที่เก่าแก่ที่สุดของโลกอย่าง EXP2 ขนาด 3 ลิตร ปี 2462 ไปจนถึงรุ่น Continen tal GT Speed ปี 2564 พร้อมกับอัครยนตรกรรมรุ่นพิเศษที่ผลิตขึ้นตลอดหลายทศวรรษ และกว่า 104 ปีที่ผ่านมา อัครยนตรกรรมกว่า 37 คันได้รับการจดทะเบียนอย่างถูกต้องสำหรับวิ่งบนท้องถนน ซึ่งรวมถึงรถแข่ง Bentley ที่มีชื่อเสียงที่สุดอย่าง รุ่น Speed 8, รุ่น Continental GT3, รุ่น Pikes Peak และรุ่น Ice สำหรับการบันทึกความ เร็วบนพื้นน้ำแข็ง
อัครยนตรกรรมทุกคันในพิพิธภัณฑ์รถยนต์คลาสสิค Bentley ได้รับการบำรุงรักษา และจัดแสดง ณ โรงงาน Bentley Motors เมืองครูว์ ประเทศอังกฤษ โดยเปิดให้ลูกค้าวีไอพี แขกและสื่อมวลชน รวมถึงพนักงานของ Bentley Motors ได้เข้าเยี่ยมชมประวัติความเป็นมาอันยาวนานของแบรนด์ผ่านคอลเลคชันของอัครยนตรกรรมรุ่นต่างๆ