Great Wall Motor พร้อมเป็นเพื่อนร่วมทางอันสุดแสนผจญภัยให้แก่ผู้ขับขี่ชาวไทย เปิดประสบการณ์การขับขี่สุดเร้าใจไปกับ All New GWM Tank 500 HEV รถยนต์เอสยูวีออฟโรดระดับพรีเมียมภายใต้แบรนด์ Tank ที่พร้อมพาผู้ขับขี่ชาวไทยออกผจญภัยฟันฝ่าทุกอุปสรรค และพร้อมเป็นตัวเลือกสำหรับผู้ขับขี่ไลฟ์สไตล์สายลุย Great Wall Motor จะพาทุกคนมาเจาะลึก 5 เหตุผลว่า ทำไมรถยนต์เอสยูวีออฟโรดคันนี้ถึงเหมาะจะเป็นเพื่อนคู่ใจในทุกทริพการเดินทางของคุณ
สร้างสรรค์โดยแบรนด์ดัง เบื้องหลังความสำเร็จของ Haval และ ORA
หากใครยังไม่รู้ All New GWM Tank 500 HEV เป็นรถยนต์เรือธงรุ่นแรกภายใต้แบรนด์ Tank ซึ่งเป็นแบรนด์ใหม่อันดับที่ 3 ที่ Great Wall Motor รถยนต์ค่ายใหญ่จากแดนมังกรนำเข้ามาให้คนไทยได้สัมผัส โดยตั้งแต่เริ่มดำเนินธุรกิจในประเทศไทยจวบจนถึงปัจจุบัน Great Wall Motor ได้เปิดตัวผลิตภัณฑ์ภายใต้แบรนด์ Haval และ ORA ที่ได้รับความนิยม และครองใจแฟนๆ ชาวไทยอย่างต่อเนื่อง ไม่ว่าจะเป็น Haval H6 HEV รถยนต์คอมแพคท์เอสยูวียอดนิยมที่ครองตำแหน่งผู้นำในเซกเมนท์ได้อย่างแข็งแกร่ง Haval Jolion เจ้าสิงโตอารมณ์ดีที่มายกระดับมาตรฐานความล้ำสมัยของเทคโนโลยีในกลุ่มรถยนต์เอสยูวีบีไปอีกขั้น รวมถึง Haval Jolion Sport ที่เกิดจากการรับฟังเสียงของสื่อมวลชน และผู้บริโภคชาวไทยจนเกิดเป็น Haval Jolion ที่มุ่งเน้นความสปอร์ท และ Haval H6 PHEV ที่คว้ารางวัล “Best Hybrid SUV Under 1,600 CC” จากงานประกาศรางวัลรถยอดเยี่ยมแห่งปี “Car & Bike of The Year 2023” และน้องเหมียวไฟฟ้าขวัญใจชาวไทยอย่าง ORA Good Cat และ ORA Good Cat GT รถยนต์ไฟฟ้า 100 % ที่จุดกระแสตลาดรถยนต์ไฟฟ้าในประเทศไทย และบริษัทฯ ยังได้เปิดตัวรถยนต์ไฟฟ้า สปอร์ทคูเปสมรรถนะสูง ORA 07 ภายในงานมหกรรมยานยนต์ ครั้งที่ 40 (Motor Expo 2023) ที่ผ่านมา ยิ่งไปกว่านั้นเพื่อตอบโจทย์ผู้ขับขี่ชาวไทยมากยิ่งขึ้น ยังเปิดตัวรถยนต์ New GWM ORA Good Cat มาพร้อมกับราคาสุดเย้ายวนใจ เริ่มต้น 799,000 บาท จากสายการผลิตภายในประเทศที่โรงงาน เกรท วอลล์ มอเตอร์ แมนูแฟคเจอริ่ง (ประเทศไทย) ที่จังหวัดระยองอีกด้วย ด้วยความสำเร็จอันนับไม่ถ้วนของรถยนต์จากค่าย Great Wall Motor นี้ ผู้ขับขี่ชาวไทยจึงมั่นใจได้เลยว่า All New GWM Tank 500 HEV คันนี้ไม่ได้มีดีแค่ชื่อ เพราะรถยนต์คันนี้ เป็นรถยนต์พรีเมียมเอสยูวีที่ถูกสร้างขึ้นบนพแลทฟอร์มออฟโรดอัจฉริยะ Tank ที่ทรงประสิทธิภาพทั้งด้านพละกำลัง สมรรถนะ และเทคโนโลยีอันล้ำสมัย ขับเคลื่อนด้วยเครื่องยนต์เบนซิน 2.0 ลิตร พร้อมระบบเทอร์โบแปรผัน (VGT) ทำงานร่วมกับมอเตอร์ไฟฟ้า และแบทเตอรีความจุ 1.76 กิโลวัตต์ ให้กำ ลังเครื่องยนต์สูงสุด 244 แรงม้า พร้อมแรงบิดเครื่องยนต์สูงสุด 380 นิวตันเมตร และกำลังมอเตอร์ไฟฟ้าสูงสุด 106 แรงม้า พร้อมแรงบิดมอเตอร์ไฟฟ้าสูงสุด 268 นิวตันเมตร ระบบเกียร์อัตโนมัติแบบ 9 จังหวะ (9HAT) ที่สร้างขึ้นเพื่อรองรับระบบการขับเคลื่อนที่หลากหลายของรถยนต์ไฮบริด ที่พร้อมลุยไปกับคุณในทุกๆ สถานการณ์
ความหรูหราที่แข็งแกร่ง
แม้ว่า All New GWM Tank 500 HEV จะเป็นรถยนต์ที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในเซกเมนท์เอสยูวี แต่ยังมาพร้อมกับความคล่องตัว และความสะดวกสบายอย่างเต็มเปี่ยมในทุกๆ การขับขี่ควบคู่กับดีไซจ์นอันเป็นเอกลักษณ์ที่เรียบง่าย และหรูหรา รวมถึงสไตล์การออกแบบที่คงความบึกบึน และแข็งแกร่งของรถยนต์ออฟโรดเอาไว้ด้วยกัน สร้างความตื่นเต้น ความแตกต่าง และประสบการณ์ที่เหนือชั้นให้แก่ตลาดรถยนต์เอสยูวี และผู้บริโภคชาวไทยอย่างแท้จริง โดยมีการออกแบบอันล้ำสมัยต่างๆ มากมาย พร้อมจัดเต็มด้านความสะดวกสบาย และระบบความบันเทิงที่ครบครัน อาทิเช่น
ดีไซจ์นด้านหน้า ออกแบบภายใต้ปรัชญาของ "ความหรูหราที่แข็งแกร่ง” ด้วยกระจังหน้าขนาดใหญ่ผสานช่องระ บายอากาศแนวนอน และโลโก Tank ที่ลงตัวรับเส้นสายที่นูนขึ้นของฝากระโปรง
ประตูท้ายแบบ Horizontal พร้อมระบบดูดไฟฟ้า ที่ช่วยผ่อนแรง และอำนวยความสะดวกสบายในการปิดประตูท้าย
ไฟหน้า Intelligent LED ดีไซจ์นโดดเด่น ให้ความสว่างชัดเจน เพื่อความปลอดภัยในทุกเส้นทาง ด้วยระบบอัจ ฉริยะ อาทิ ระบบเปิด/ปิดไฟหน้าอัตโนมัติ ระบบปรับไฟสูง-ต่ำอัตโนมัติ และฟังค์ชันหน่วงเวลาไฟส่องทางหลังดับเครื่อง (Follow Me Home) พร้อม Daytime Running Light และไฟตัดหมอกด้านหน้า และหลังแบบ LED
บันไดข้างระบบไฟฟ้า พร้อมฟังค์ชัน เปิด-ปิดอัตโนมัติเมื่อเปิด/ปิดประตู
หลังคาซันรูฟระบบไฟฟ้าแบบพาโนรามิคขนาดใหญ่พร้อมราวหลังคา เพื่อเพิ่มการใช้งานเสาอากาศแบบ Shark Fin
จอแสดงผลการขับขี่แบบดิจิทอลขนาด 12.3 นิ้ว และหน้าจอมัลทิมีเดีย 14.6 นิ้ว รองรับ Apple Car Play, Android Auto, MP5, Bluetooth, ระบบนำทาง และแสดงข้อมูลการขับขี่
ระบบความบันเทิง พร้อมลำโพง Infinity จำนวน 12 ตัว ระบบแอมพลิฟายเออร์อิสระ และระบบปรับระดับเสียงอัต โนมัติตามความเร็วรถ
เบาะนั่งไฟฟ้าคู่หน้า พร้อมระบบเบาะนวดไฟฟ้า ระบบดันหลังปรับด้วยไฟฟ้า ระบบระบายอากาศ เบาะนั่งคนขับไฟฟ้าปรับได้ 8 ทิศทาง และเบาะหนัง Nappa เพื่อผ่อนคลายความเมื่อยล้าของผู้ขับขี่ พร้อมระบบ Memory Seat และระบบ Welcome Seat เพื่อความสะดวกสบายในการขึ้น-ลงรถ
ระบบปรับอากาศอัตโนมัติ แยกอิสระซ้าย-ขวา พร้อมระบบกรองอากาศ PM2.5
ฟีเจอร์ออฟโรดสุดล้ำเพื่อการขับขี่ที่ไร้รอยต่อ
Great Wall Motor เห็นความสำคัญในการเพิ่มคุณค่าของประสบการณ์ระหว่างการเดินทางของผู้ขับขี่ มากกว่าเพียงแค่การไปถึงสู่จุดหมายปลายทาง จึงออกแบบ All New GWM Tank 500 HEV ขึ้นมาเพื่ออำนวยความสะ ดวกในการขับขี่ให้กับเหล่านักผจญภัยได้มีประสบการณ์การเดินทางที่ราบรื่นตั้งแต่เริ่มต้น จนถึงจุดหมายปลายทาง ไม่ว่าจะเป็นการเดินทางไกลบนถนนสายยาว สุดลูกหูลูกตา ถนนลูกรัง หรือจะเข้าไปลุยเขา ฝ่าดงป่า หรือตะลุยเส้นทางออฟโรด ก็ไม่หวั่น ด้วยระบบลอคเฟืองขับด้านหน้า และด้านหลัง (Front & Rear Electric Differential Locks) ระบบช่วยกลับรถในพื้นที่แคบ (Tank Turn) ระบบควบคุมความเร็วอัตโนมัติแบบออฟโรด (Offroad Cruise Control) ระบบตรวจจับความลึกของน้ำ (Wading Depth Detection) และระบบแสดงภาพใต้ท้องรถ (Body Transparent System) พร้อมโหมดการขับขี่ 11 รูปแบบ ได้แก่ โหมดมาตรฐาน โหมดสปอร์ท โหมดประหยัด โหมดสภาพถนนลื่น และ Offroad ได้แก่ โหมดโคลน โหมดทราย โหมดหิน โหมด4L โหมด4H โหมดอัตโนมัติ และโหมดเชี่ยวชาญ ที่จะทำให้การเดินทางของคุณสนุกสนาน และน่าจดจำ
เฉดสีพรีเมียมสุดคลาสสิค
All New GWM Tank 500 HEV มีด้วยกันทั้งหมด 2 รุ่น ได้แก่ รุ่น Ultra และรุ่น Pro มาพร้อมกับสีสันสุดคลาส สิค ที่ไม่ว่าคุณจะเป็นใคร ก็สามารถแสดงตัวตนออกมาได้อย่างโดดเด่น ชัดเจน ด้วยความเรียบหรูผสานกับความแข็งแกร่ง All New GWM Tank 500 HEV มาพร้อมกับสีภายนอกให้เลือกทั้งหมด 4 สี ได้แก่ ขาว ดำ เทา และสีใหม่เทาคริสตัล (เฉพาะรุ่น Ultra) จับคู่กับสีภายในสีดำ และทูโทนสีน้ำเงิน-เบจ (เฉพาะรุ่น Ultra และสีเทาคริส ตัล) ตอบโจทย์ความชื่นชอบของผู้รักการผจญภัยได้อย่างลงตัว
ข้อเสนอสุดคุ้ม ! พร้อมดูแลทุกขณะของการเป็นเจ้าของ GWM Tank 500
นอกจากนี้สำหรับผู้ที่สนใจจับจองเป็นเจ้าของ All New GWM Tank 500 HEV จะได้รับการรับประกันคุณภาพ 5 ปี หรือ 150,000 กม. (แล้วแต่อย่างใดอย่างหนึ่งถึงก่อน) และการรับประกันแบทเตอรีไฮบริด 8 ปี ไม่จำกัดระยะทาง นอกจากนี้ยังมาพร้อมข้อเสนอสุดพิเศษมากมาย ไม่ว่าจะเป็น ฟรี ประกันภัยชั้น 1 1 ปี ฟรี ค่าอะไหล่ และค่าแรงบํารุงรักษาตามระยะทาง GWM Pro Service Inclusive-GPSI สูงสุด 10 ครั้ง ภายใน 5 ปี หรือ 100,000 กม. แล้วแต่อย่างใดอย่างหนึ่งถึงก่อน (ไม่รวมอะไหล่สิ้นเปลือง) ฟรี บริการช่วยเหลือฉุกเฉิน (Roadside Assis tance) ตลอด 24 ชม. ระยะเวลา 5 ปี ฟรี บริการระบบตรวจสอบ และสั่งการรถผ่านอินเตอร์เนท (Telematic Ser vice) พร้อมแพคเกจอินเตอร์เนทภายในรถ (Internet in Vehicle) ระยะเวลา 3 ปี รวมถึงสิทธิพิเศษกับการเป็นส่วนหนึ่งของ GWM Tank Club และกิจกรรมสุดพิเศษมากมาย
บทความแนะนำ