สำหรับรถยนต์ Audi A5 และ Audi A7 โมเดลปี 2024 จะปรับเปลี่ยนไปใช้แพลทฟอร์มใหม่ที่ชื่อ PPC (Premium Platform Combustion) เป็นแพลทฟอร์มที่ออกแบบสำหรับรถยนต์ที่ติดตั้งเครื่องสันดาปภายในวางตามยาวโดยเฉพาะ
แพลทฟอร์มใหม่นี้ พัฒนาต่อยอดมาจากแพลทฟอร์ม MLB ที่ใช้อยู่กับรถยนต์หลายรุ่นหลายยี่ห้อในเครือข่าย VW Group
เครื่องยนต์หลักที่จะใช้กับ Audi A5 ใหม่นี้ เป็นเครื่องยนต์เบนซิน 2.0 TSFI และเครื่องยนต์ดีเซล 2.0 TDI ที่ปัจจุบันมีระดับพละกำลังระหว่าง 150 ถึง 226 แรงม้าในรุ่นเครื่องยนต์เบนซิน และจาก 136 ถึง 204 แรงม้าในรุ่นเครื่องยนต์ดีเซล เครื่องยนต์ 2 รุ่นนี้ทำงานร่วมกับระบบส่งกำลังแบบคลัทช์คู่ S Tronic ระบบขับเคลื่อน 4 ล้อตลอดเวลา Quattro ยังมีให้เลือกใช้ด้วยเช่นกัน
จุดที่น่าสนใจคือ เรื่องของระบบ Plug-in Hybrid (PHEV) เครื่องยนต์เบนซิน 2.0 TFSI สามารถทำงานร่วมกับมอเตอร์ไฟฟ้าและชุดเกียร์แบบคลัทช์คู่ได้ โดยสามารถวิ่งด้วยพลังงานไฟฟ้าเพียงอย่างเดียวได้เป็นระยะทางประมาณ 100 กม. สำหรับรุ่น Mild Hybrid จะใช้มอเตอร์ไฟฟ้าทำหน้าที่เป็นทั้งสตาร์ทเตอร์และเจนเนอเรเตอร์ ขณะที่รุ่นสมรรถนะและแรงบิดสูง รุ่น 3.0 V6 TDI ยังมีให้เลือกใช้ในรุ่น RS เช่นเดียวกับ Audi S5 สำหรับรุ่นที่เป็นการขับเคลื่อนด้วยพลังงานไฟฟ้าเต็มรูปแบบจะใช้ชื่อรุ่นว่า Audi A4 e-tron ที่ใช้แพลทฟอร์ม PPE
ในรุ่น Sportback และ A5 avant จะมีความแตกต่างไปจากเดิมมากขึ้น โดยในรุ่น Avant หลังคงจะมีความโค้งในสไตล์รถคูเปมากขึ้น ขณะที่ประตูท้ายมีขนาดที่ใหญ่ขึ้น ส่วนการตกแต่งภายนอกมีความหลากหลายเช่นกันทั้งนี้ ขึ้นอยู่กับการเลือกระดับชุดตกแต่ง การออกแบบภายในห้องโดยสารโดยเฉพาะในส่วนของผู้ขับขี่ได้แนวคิดมาจาก Audi Q6 e-tron การลดความยุ่งยากในการใช้ระบบควบคุมและระบบอินโฟเทนเมนท์ ด้วยจอสั่งการส่วนกลางแบบสัมผัสและอุปกรณ์ดิจิติลที่เหมาะสม รวมไปถึงระบบแสดงข้อมูลแบบ head-up display ที่สามารถสั่งการทำงานด้วยเสียง ทั้งนี้ระบบปัญญาประดิษฐ์หรือ AI จะจดจำรับรู้ถึงความต้องการส่วนตัวของผู้ขับขี่และปรับเปลี่ยนการแสดงข้อมูลให้สอดคล้องกับรูปแบบการขับขี่และสถานการณ์การขับขี่ทำให้ผู้ขับขี่มีสมาธิกับการขับขี่มากยิ่งขึ้น ส่วนการออกแบบของแผงหน้าปัดละม้ายคล้ายคลึงกับที่เคยเห็นอยู่ใน Porsche